2 มือปราบ เปิดใจในโหนกระแส ชี้อนาคต บิ๊กโจ๊ก เดือดร้อนไหม ปมลูกน้องพัวพันเส้นทางเงินเว็บพนัน ไม่รู้เรื่องจะออกทางไหน เปรยเสือกัดเสือ เผลอ ๆ ตายทั้งคู่
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 26 กันยายน 2566 หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เกาะติดเหตุการณ์ตำรวจไซเบอร์นำชุดคอมมานโดนำหมายค้นขอเข้าตรวจค้นบ้าน "พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ "บิ๊กโจ๊ก" รอง ผบ.ตร. เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ หลังมีความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยสัมภาษณ์ พล.ต.ท. เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด มาพร้อม พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 2
- หลังจากออกรายการไปเมื่อวาน เรื่องไปเรื่อย ๆ เลย ตอนนี้มีเจอลูกน้องบิ๊กโจ๊กพัวพันกับเส้นทางการเงินของเว็บพนันออนไลน์ ?
พล.ต.ท. เรวัช : โดยหลักของกฎหมายมันหยุดไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อวานคนบอกทำไมอึ้งเลย ไม่พูด ผมมี 2 สถานภาพ สถานภาพหนึ่งคือเป็นกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจถึงปี 2570 เรื่องที่ตำรวจกระทำความผิดทั้งหมดที่ชาวบ้านร้องเรียนมา หรือผมทราบด้วยตนเอง ผมต้องมาเป็นกรรมการพิจารณาโทษเขา จะไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก เหมือนเป็นผู้พิพากษาเขา จะไปให้ความเห็นชี้ผิดชี้ถูกไม่ได้ มันเสีย เหมือนชักนำ กรรมการคนอื่นจะลำบากใจ จริง ๆ ผมไม่ได้กลัวใครเกลียดหรอก เพราะเขารู้นิสัยรู้สันดานผม ผู้บังคับบัญชายังด่าหลายคนเลยถ้าทำไม่ถูกไม่ต้อง แต่อะไรที่เราในฐานะกรรมการ มันสวมหมวกกรรมการพิจารณาโทษตำรวจ กรรมการมี 8 คน ผมเป็น 1 ใน 8
- มีการคุยกันหรือยังว่ามีเรื่องแบบนี้ ?
พล.ต.ท. เรวัช : รู้ครับ เดี๋ยวเอาเรื่องบรรจุเข้า แล้วพิจารณา ส่วนใหญ่เขาใช้ผมออกไปไต่สวนสืบสวน ว่า 140 ล้าน ใครผิดใครถูกบ้าง แล้วพิจารณาว่าไอ้คนนี้เอาไว้ไม่ได้ ให้ย้ายออกไปก่อน เราก็แจ้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าเราพิจารณาว่าให้พักราชการก่อนก็ต้องพัก หรือผมมาไต่สวนแล้วมีมูล ไอ้คนนี้ไล่ออก ผมก็ส่งไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เขาไล่ออก เขาก็มีสิทธิ์ไปร้องได้อีกชั้น คือกรรมการพิทักษ์คุณธรรม ผมก็เลยพูดไปฟันธงไม่ได้ พูดได้กลาง ๆ อันที่สองที่จุกอกคือมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ไงวะ น้องนุ่งมันทะเลาะกันหรือเปล่า ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ผมกับพี่แต้มถ้าฟัดกันเจ็บทั้งคู่ เสือกับเสือฟัดกันต่างมีอิทธิฤทธิ์ ไม่งั้นก็ตายทั้งคู่ อยากให้คิดให้มากกว่านี้หน่อย แต่ผมก็เห็นใจนะผู้บังคับบัญชา ผมไม่ได้มองว่าเขาจะหักโค่นกันนะ เพราะใครจะเป็น ผบ.ตร. ก็รู้อยู่แล้ว เจ้าตัวก็รู้อยู่แล้ว รอง ผบ. ก็รู้อยู่แล้วว่าใครที่จะได้ มันไม่ใช่บิ๊กโจ๊ก บิ๊กโจ๊กเขาอยากให้ทางพรรคเพื่อไทย สมัยเขาคะแนนเสียงบูม ๆ มาก เขาชื่นชอบคือเรื่องปราบยาเสพติด เป็นขุนศึกปราบปรามยาเสพติดสมัยนั้น เขาอยากให้บิ๊กโจ๊กมาได้ไหม แต่บิ๊กโจ๊กเขาอยากเป็นตำรวจ ฉะนั้นโจ๊กไม่ใช่คู่แข่งที่จะเป็น ผบ.ตร. กว่าจะเกษียณตั้งอีก 7-8 ปี ถ้าเป็นก็ปิดหัวคนอื่นหมด ผมมองอย่างนี้นะ ข่าวผมอาจจะผิดก็ได้ แต่มักจะไม่ผิด แต่ทีมงานที่มันทำอาจไปบอกผู้บังคับบัญชาว่าตอนนี้ศาลออกหมายจับแล้ว แล้วทุกคนจะพิจารณาวันที่ 27 นี้ พวกที่เป็นนายพลต้องเข้า กตร. ต้องแสดงผลงาน ฝีมือ เขาเรียกมวยยก 5 จะหมดยกแล้ว ต้องเตะก้านคอโชว์กรรมการก่อน จะน็อกไม่น็อก มวยยก 5 โชว์งานชิ้นใหญ่ในกำมือออกให้ผู้บังคับบัญชาเห็น จะได้ย้ายไปในตำแหน่งที่ดีขึ้น หรือเลื่อนตำแหน่งขึ้น ผมยังไม่มองว่าผู้ใหญ่ทะเลาะกัน เพราะผู้ใหญ่ทะเลาะกันมีแต่เสียกับเสีย มันจะได้อยู่แล้ว แล้วจะไปทำทำไม
- ตามข่าวเรื่องนี้ไหม ?
พล.ต.ต. วิชัย : เอาเรื่องเป็นหลักก่อนนะ การที่ศาลจะออกหมายจับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ศาลต้องเชื่อได้ว่ากลุ่มบุคคลที่ออกหมายจับมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ถ้าอย่างน้อย 60-70 เปอร์เซ็นต์ เผลอ ๆ อาจ 100 เปอร์เซ็นต์ ศาลถึงออกหมายจับให้ ดังนั้นเราต้องเชื่อได้ว่าการที่ออกหมายจับนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เขาเลยมีการสืบสวนสอบสวนเป็นขั้นตอน พอศาลออกหมายจับแล้ว เขาก็ต้องไปจับกุมตรวจค้น เมื่อมีการไปจับกุม ตำรวจไม่จับกุมได้ไหม ได้ แต่ถามว่าตำรวจไปจับที่อื่นได้ไหม ก็ได้ ทำไมต้องไปจับตรงนั้น เราก็ต้องพิจารณาต่อไป แต่ถ้าออกหมายจับมาแล้วก็ต้องจับ เพราะคุณต้องรายงานศาลด้วย
- บิ๊กโจ๊กบอกให้กลับไป ถ้าจะเข้ามาค้นต้องเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูง บิ๊กโจ๊กบอกให้กลับไป เพราะเขาเป็นตำรวจชั้นผู้น้อย เขาเองเป็นรอง ผบ.ตร. ต้องมีระดับผู้บังคับบัญชามา ?
พล.ต.ต. วิชัย : เป็นไปไม่ได้ เวลาไปขอหมายค้น คุณต้องเขียนในหมายขอไว้ว่าใครเป็นผู้นำการตรวจค้น ศาลจะเขียนไว้ในนั้นเลยว่าให้ตรวจค้นตั้งแต่เวลานั้นถึงเวลานี้ โดยมีนาย ก. นายหมู นายหมา เป็นผู้นำการตรวจค้น ไม่จำเป็นว่าค้นต้องเอาผู้ใหญ่ที่เหนือกว่า ไม่งั้นผมไปค้นรัฐมนตรี ผมก็ต้องเอานายกฯ ไปสิ มันไม่ใช่ เพราะกฎหมายเขากำหนดอยู่แล้วว่าคนนำตรวจค้นเป็นใคร แต่ถ้าเป็นรอง ผบ.ตร. เรื่องกฎหมายไม่ผิด แต่เรื่องมารยาท อย่างน้อยเอาระดับผู้ใหญ่ ผู้บัญชาการมา อาจมาพูดคุยกับท่านว่ามีความจำเป็นอย่างนี้ มาชี้แจงก็ได้ แต่ถ้าพูดกฎหมายผิดไหม ไม่ผิด ก็ต้องแยกให้ถูก
- บิ๊กโจ๊กบอกว่าตอนตำรวจไปออกหมายค้นหรือหมายจับ ต้องใส่ยศ ใส่ชื่อต่าง ๆ นานา เหมือนมีการซ่อนเร้นปิดบัง ?
พล.ต.ต. วิชัย : เวลาคุณจะค้นบ้านใคร คุณต้องตรวจสอบก่อนว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านใคร อย่างน้อยไปถามเขต ทำการสืบสวนมา บ้านเป็นของนายเรวัช สมมตินะ พอรู้บ้านนายเรวัชก็ต้องไปบอกเขาว่าเป็นบ้านนายเรวัช ซึ่งมีผู้ต้องหาที่จะออกหมายจับพักอาศัยอยู่ แต่นี่มีประเด็นว่าผู้ต้องหาที่พักเป็นตำรวจ เราต้องไปบอกศาลไหมว่าเป็นตำรวจ ตามกฎหมายก็ไม่จำเป็นอีก เวลาออกหมายจับใครเขากดเลข 13 หลักเป็นหลัก เพราะบางทียศชื่อผม 13 หลัก ผมชื่อนายนะ ผมไม่ได้เอายศใส่ แล้วตำรวจเยอะมากที่ไม่เอายศใส่ในบัตรประชาชน เวลาออกหมายจับเขาต้องเอาจากเลข 13 หลัก แต่เรื่องแบบนี้ก็รู้อยู่แล้วว่านี่เป็นตำรวจ จะเป็นเทคนิคยังไง แต่กฎหมายผิดไหม ไม่ผิด แต่อาจผิดอย่างนี้ ทำไมไม่ออกยศก็ว่าไป แต่ตามกฎหมายต้องออกเลข 13 หลัก ส่งตามบ้านเลขที่อยู่ กฎหมายเขียนไว้หมด
- เป็นอย่างนั้นไหม ?
พล.ต.ท. เรวัช : ผมเห็นใจศาลที่ออกหมายจับนะ ท่านก็ไม่ได้มาเชี่ยวชาญเรื่องฝ่ายปกครองหรอก เวลาคนมาขอหมายจับ พนักงานจะพรินต์บัตรออกหมายจับคนนี้ ๆ ศาลก็ดูหลักฐานให้รัดกุม กว่าศาลจะออกหมายนี่ยากนะ ส่วนยศเป็นความละเอียดรอบคอบของพนักงานสอบสวน เช่น บัตรประจำตัวผมก็ชื่อนายเรวัช กลิ่นเกษร หรือ พล.ต.ท. เรวัช กลิ่นเกษร เพื่อบรรยายให้คนที่จะออกหมายจับ อย่างคุณหนุ่ม โหนกระแส หรือ นายกรรชัย เพื่อให้ศาลได้รู้ว่าออกหมายจับไม่ผิดคน เวลาศาลออกหมายค้น พนักงานสอบสวนไม่ได้บอกว่าเป็นบ้านใคร ขอค้นบ้านเลขที่นี้เพื่อจับผู้ต้องหา ศาลท่านก็ออกให้อยู่แล้ว เพราะการออกหมายจับใครได้ต้องมีพยานหลักฐานรัดกุมเขาถึงจะออกหมายจับได้
- ตำรวจบอกว่าไม่รู้ว่าเป็นบ้านบิ๊กโจ๊ก ?
พล.ต.ต. วิชัย : ถ้าไม่รู้ ถ้าเป็นผม ผมก็ต้องเข้าจับกุม เพราะถ้าไม่จับกุมวันนี้เดี๋ยวก็หนี แต่ถ้ารู้ก็มารยาทได้ ให้มามอบตัวได้ รับรองบิ๊กโจ๊กก็ต้องสั่งให้มอบตัว ถ้าคุณไม่สั่งนะ รองโจ๊กก็ผิดอีก ให้ที่พักอาศัยผู้ต้องหา ดังนั้นก็ต้องสั่ง ถ้าไม่รู้ก็ต้องจับ แต่จับโดยวิธีการอย่างไร ตำรวจมีขั้นตอนในการจับอยู่แล้ว
- จำเป็นต้องมีคอมมานโดไปอย่างนั้นไหม ?
พล.ต.ต. วิชัย : ระยะหลัง ๆ การจับกุมแถลงข่าวเขาจะทำระบบนี้หมด ทำเหมือนต่างประเทศ แต่ถ้าไปอย่างนี้ ถ้าเขารู้ว่าคนกลุ่มนี้เป็นตำรวจ คุณเดินหน่อมแน้มไป ถ้าเกิดปัญหายิงกันตายห่าเลย ถ้าเราเอากำลังตำรวจไปก็ทำให้ลดการสูญเสียได้ อาจทำให้คนร้ายกลัวได้ ฝรั่งเขาชอบทำแบบนี้มาก ถ้าไปคนสองคนฝรั่งมันยิงเลย เดี๋ยวนี้ยุคใหม่ด้วยซ้ำ ขนาดเอาผู้ต้องหาไปที่เกิดเหตุยังใช้คอมมานโดเลย เพราะกลัวว่าคนไม่พอใจมารุมทำร้าย ถามว่าใช้ได้ไหม ใช้ได้
- เส้นทางการเงิน ก่อนหน้านี้มีการจับกุมตัวนายตาล มีความเชื่อมโยงกับเจ้าของเว็บพนันออนไลน์เว็บหนึ่ง มีการขยายผลจนมาถึงมินนี่ สุชานันท์ ปรากฏมินนี่มีความสัมพันธ์กับ พ.ต.อ. ภาคภูมิ ผมก็ไม่รู้ว่าเชิงชู้สาวหรือเปล่า แต่มีภาพนั่งตักและเอามือโอบกันไป เมื่อวานพี่เรวัชว่าไงนะ ?
พล.ต.ท. เรวัช : นายภาคภูมิ นอกจากคดีอาญา มึงไปแก้ตัวกับเมียให้ดี คดีนี้ไม่ขาดอายุความ
พล.ต.ต. วิชัย : เขาเรียกตายซ้ำตายซาก
พล.ต.ท. เรวัช : รอดคุกแล้วมาตายที่บ้านอีก ตายซ้ำตายซาก
- มีความเชื่อมโยง เพราะมีการใช้คำว่ามีความสัมพันธ์กัน เขาเชื่อกันว่าภาคภูมิพามินนี่มางานเลี้ยงบิ๊กโจ๊กเลี้ยงให้ลูกน้อง เลี้ยงสังสรรค์ให้ลูกน้องที่มาดูแลคุณพ่อ ซึ่งคุณพ่อท่านเสีย มินนี่ไปร้องเพลงกับบิ๊กโจ๊ก ปรากฏว่าพอคลิปนี้หลุดออกมา กลายเป็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือสังคมตั้งคำถามว่า อ้าว ทำไมมินนี่ผู้ต้องหาคดีเว็บออนไลน์ไปอยู่ในภาพนี้กับบิ๊กโจ๊กได้ไง บิ๊กโจ๊กบอกว่าผมไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่รู้จัก ผมเลี้ยงลูกน้อง ส่วนลูกน้องจะพาใครมาก็สิทธิ์ของเขา ไม่ได้ไปห้ามใคร หลังจากนั้นถึงมีภาพคู่ระหว่างภาคภูมิกับมินนี่โอบกอดกันออกมา ทุกคนเลยมองว่าหรือภาคภูมิพาเข้ามา ประเด็นที่สอง ตำรวจมีการขยายผล มินนี่ถูกจับ ตำรวจไปตรวจสอบโทรศัพท์ พบว่ามีการเชื่อมโยง มีการพูดคุยกับทางภาคภูมิ และมีการโอนเงิน โดยผ่านบัญชีของพุฒิพงษ์ พูนศรี ซึ่งบิ๊กโจ๊กบอกว่าภาคภูมิต้องตอบเรื่องนี้ให้ได้ว่าบัญชีพุฒิพงษ์ซึ่งเป็นผู้ต้องหามาอยู่ในมือภาคภูมิได้อย่างไร ที่แน่ ๆ เป็นบัญชีม้าและโอนจากมินนี่เข้ามา 50 กว่าครั้ง เป็นเงิน 3,659,890 บาท คนถือบัญชีคือภาคภูมิ แล้วเส้นทางการเงินจากพุฒิพงษ์ซึ่งเป็นบัญชีม้า มันยิงมาอีกบัญชี คือ ครรชิต สองสมาน เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด ตอนนี้ยังหนีอยู่ แต่บัญชีครรชิตอยู่ในมือ พ.ต.ท. คริษฐ์ เลขาฯ บิ๊กโจ๊ก แล้วคริษฐ์มีการกระจายเงินออกไปบัญชีครรชิต แล้วออกไปหาตำรวจแต่ละนาย มีการโอนให้แม่ไปจ่ายค่ารักษาให้พ่อบิ๊กโจ๊ก โอนให้น้องชายบิ๊กโจ๊ก ค่าน้ำ-ค่าไฟต่าง ๆ นานา มาจากคริษฐ์ ซึ่งเป็นเลขาฯ หรือพ่อบ้าน บิ๊กโจ๊กเมื่อเช้าพูดกับพี่สรยุทธในคุยนอกจอ บอกว่าผมก็ไม่ทราบว่าทำไมคริษฐ์ทำแบบนี้ ติดการพนันหรือเปล่าก็ไม่แน่ แต่บิ๊กโจ๊กเคยนำเงินก้อนหนึ่งให้คริษฐ์เพื่อไปจ่ายโน่นนี่นั่น ปรากฏว่าคริษฐ์แทนที่จะเอาเงินที่บิ๊กโจ๊กให้ไปจ่ายคนอื่น กลับกลายเป็นเอาเงินจากบัญชีม้าไปจ่ายแทน แล้วมีการเชื่อมโยงแบบนี้ เงินไปถึงแบบนี้ บิ๊กโจ๊กจะเดือดร้อนไหม เรื่องบัญชีม้าที่ไม่ควรอยู่ในมือตำรวจ แล้วมาอยู่ได้ไง ตำรวจอย่าง 2 ท่านเคยมีบัญชีม้าอยู่ในมือหรือเปล่า ?
พล.ต.ท. เรวัช : ไม่มีหรอก ไม่มีแน่นอน
พล.ต.ต. วิชัย : อันดับแรกการที่บิ๊กโจ๊กร้องเพลงกับน้องคนนี้ เราต้องให้ความเป็นธรรมกับบิ๊กโจ๊ก เขาอาจไม่รู้ก็ได้ว่าคนนี้เกี่ยวข้องกับเว็บพนันบอล แต่ถ้าผู้หญิงคนนี้ถูกจับก่อนมาร้องเนี่ย อย่างนี้น่าคิดแน่นอน แต่ถ้าร้องก่อนถูกจับไม่เป็นไร อาจไม่รู้ แต่ถ้าจับแล้วมาร้อง รองโจ๊กก็เหนื่อย
- พี่เรวัชมองยังไงเรื่องลูกน้องบิ๊กโจ๊กที่มีส่วนพัวพันกับบัญชีม้า ?
พล.ต.ท. เรวัช : ดูว่าตำรวจ 2 คนที่ถือบัญชีม้าอาจจะมีการรับส่วย เพราะอยู่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจ เหมือนผมมองตัวผม ที่ผมเป็นแค่รองผู้การ ตำรวจน้ำ แล้วผมมีหน้าที่ในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิด คือพวกน้ำมันเถื่อน ผมไม่ได้รับเงินสักบาท ไอ้จ่าได้คนละแสน ที่คอยไปซื้อกาแฟให้ผมบ้าง ซื้อหนังสือพิมพ์ให้บ้าง จนกระทั่งผมถามว่าทำไมมาดูแลผมดีเหลือเกิน ผมก็ไม่ใช่ผู้การ เพียงแต่มันมาเช็กเท่านั้นว่าผมจะไปเหนือไปใต้ ไปออกจับเมื่อไหร่ ถ้าผมลงทะเล ไอ้พวกน้ำมันเถื่อนจะได้เข้าไปเขตทะเลหลวง ผมมองในภาพอย่างนี้ ไม่ได้แก้ตัวให้ใคร หรือเข้าข้างใคร คนใกล้ตัวผู้ใหญ่คอยส่งข่าวให้ แม้แต่ใครทำบ่อน ทีมไหนที่ปราบบ่อน มันก็ต้องหาทางวิ่งเต้นอย่างนี้ แต่เด็ก 2 คนที่ถือบัญชีม้าค่อนข้างลำบาก ต้องตอบคำชี้แจงให้ได้ เหมือนชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองที่ไปจับเธค จับผับต่าง ๆ ตัวปลัดอำเภอ ตัว ผอ. นี่ไม่เอาตังค์นะ แต่พวกนี้แทบจ้างยามเฝ้าเลย สถานบริการต่าง ๆ ว่าชุดนี้จะไปไหน จะขึ้นเหนือล่องใต้ส่งข่าวหน่อยนะ มันก็ให้เงิน
- พี่แต้มมองไง ?
พล.ต.ต.วิชัย : เราจะเห็นได้เลยว่าคุณผู้หญิงกับ พ.ต.อ. ภาคภูมิ มีความสัมพันธ์กัน ตัวเงินถ้าคู่นี้ให้เงินคนจะให้คริษฐ์ ทำไมต้องผ่านบัญชีม้าให้ซับซ้อนทำไม แสดงว่ามีเงื่อนงำจากพุฒิพงษ์ มึงยังต้องเงื่อนงำไปครรชิตอีกถึงจะมาคริษฐ์ ทำไมต้องทำซับซ้อนอย่างนี้ ถ้ามันไม่มีลับลมคมใน ถ้าภาคภูมิให้มาก็จบแล้ว ภาคภูมิบอกว่าเงินนี้เป็นของคนนั้นคนนี้
- จะบอกว่าถ้ามินนี่โอนเข้าบัญชีพุฒิพงษ์ แล้วบัญชีพุฒิพงษ์ฝั่งภาคภูมิถืออยู่ จริง ๆ ภาคภูมิสามารถเอาเข้าบัญชีอื่น ๆ ได้เลย ?
พล.ต.ต. วิชัย : ภาคภูมิโอนเข้าบัญชีคริษฐ์ได้เลย จะต้องไปผ่านบัญชีม้าทำไม กฎหมายบอกว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา การกระทำของคุณเป็นเครื่องชี้เจตนาว่าเจตนาคุณบริสุทธิ์หรือเปล่า ถามว่าครรชิตบัญชีม้าและติดยาเสพติดด้วย จะโอนให้คริษฐ์ได้ยังไง คริษฐ์จะรับทำไมวะ ตรงนี้แหละที่ทำให้คนสงสัย
- ครรชิตเคยต้องคดีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ คดียาเสพติดอื่น ๆ อีก 5 คดี ?
พล.ต.ต. วิชัย : แล้วตอนนี้หนีอยู่ หรือบัญชีตัวนี้คริษฐ์ถืออยู่ แล้วจะเอามาโดยตรงไม่ได้ ก็ต้องโอน การโอนเงินมันทำให้สลับซับซ้อนเหมือนมีเงื่อนงำ คนก็เลยสงสัย มันเป็นที่มาของการออกหมายจับ
- ถ้าลูกน้องทำแบบนี้ ลูกพี่ซวยไหม ?
พล.ต.ต. วิชัย : รองโจ๊กท่านคงไม่เอาหรอก ท่านไม่เกี่ยวข้องหรอก แต่คนพวกนี้ทำให้เกี่ยวกับรองโจ๊ก แต่ที่เกี่ยวที่สุดคือดันโอนไปให้แม่ให้อะไรต่าง ๆ รองโจ๊กจะแก้ตัวยังไงว่าไม่รู้เรื่อง รองโจ๊กต้องชี้แจงตรงนี้ให้ได้ ถ้าชี้แจงไม่ได้ เรายังไม่รู้ว่าที่ตรวจสอบตรงนี้ยังมีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า มีคดีอื่นอีกหรือเปล่าที่จะผ่านกลุ่มกระบวนการไอ้พวกนี้ มันก็จะหนักนะ
- พี่แต้มคิดว่ารองโจ๊กไม่น่าเกี่ยวข้อง แต่พอลูกน้องทำแบบนี้อาจมีความเชื่อมโยง ต้องชี้แจงให้ชัด ?
พล.ต.ต. วิชัย : ใช่ มันมีการโอนให้แม่ 2.8 ล้าน เยอะนะ สอง โอนให้น้องชายอีก เกี่ยวข้องยังไง
- เท่าที่ฟังรองโจ๊กบอกว่าจริง ๆ คริษฐ์เหมือนเป็นเลขาฯ เวลาจัดการเรื่องอะไรก็ส่งให้คริษฐ์จัดการเพราะท่านงานเยอะ รองโจ๊กจะโอนเงินไปให้คริษฐ์เพื่อไปจ่ายทีเดียว ?
พล.ต.ต. วิชัย : ถูกต้อง เพราะท่านไม่มีเวลาไปทำหรอก
- แต่รองโจ๊กบอกว่าผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอยู่ดี ๆ เงินที่ผมให้คริษฐ์ไปจ่าย มันกลับกลายเป็นว่าเอาจากบัญชีม้าไปจ่ายแทน ?
พล.ต.ต. วิชัย : นี่แหละ รองโจ๊กต้องชี้แจงตัวนี้ 2 คนชื่อคริษฐ์ก็ต้องชี้แจง แล้วคริษฐ์ชี้แจงลำบากมาก เพราะเงินนั้นได้มาจากบัญชีม้า คุณจะชี้แจงยังไง เพราะไม่ได้เงินจากบิ๊กโจ๊กไง ถ้าเอาเงินจากบิ๊กโจ๊กไปจ่ายก็โอเค แต่นี่เงินที่เอาไปจ่ายคือเงินจากบัญชีม้า อันนี้แหละจะสอบสวนลำบาก
พล.ต.ท. เรวัช : ไม่ใช่บัญชีม้าหรอก ผมว่าเหมือนเจ้าของบ่อน เจ้าของซ่อง โอนเงินให้ผม ผมก็กลัวมีเรื่อง อาจเอาบัตรประจำตัวเด็กติดยามาบอกว่า เฮ้ย เปิดบัญชีนี้ให้หน่อยสิ ตัดตอนผมไปก่อน (หัวเราะ) คิดแบบซวยฉิบหาย เด็กไง แต่ถามว่าเราต้องมามองภาพปัจจุบันก่อน โจ๊กเขามีอำนาจ มีบทบาทสูง เงินแค่นี้อุดรูแม่งไม่ได้เลย มันน้อยเกิน ขนาดมีเหตุการณ์จังหวัดชลบุรี เรียก 140 ล้าน พลเอกจะฟาด เหมือนใครจะให้ตังค์ผม ผมเป็นพลโท พี่แต้มเป็นพลตรี ก็ต้องเป็นหมื่น แต่มาให้สิบบาท แต่ถ้ามองชาวบ้านเงินนี้ดูเยอะ แต่ถ้าคนอยู่ระดับนี้มันเล็กน้อย ถ้าซื้อแลมโบกินี่ให้ 30 ล้านก็ว่าไปอย่าง พูดเรื่องว่าถ้าเขาจะติดสินบนแล้วเขารู้เรื่อง แต่ถ้าเป็นเงินไม่สุจริต แล้วรับสินบน เกิน 3 พันบาท ก็ผิด ก็ต้องไปชี้แจงกันเอา แต่มองในฐานะมีประสบการณ์ ถ้าจะรับสินบนมันน้อยเกิน แต่ถ้าเด็ก ๆ แอบรับ พวกหมาตามเกวียนรับ นาย พ่อนายป่วย ผมช่วยจัดการให้แล้วนะครับ จะมีงานศพผมจัดการให้แล้วนะครับ ค่าดอกไม้ธูปเทียน มาไล่รายละเอียดไม่ได้ คุณอยู่กับผมเจอหน้ากันแบบนี้ ออกไปก็ไม่รู้ไปไหนแล้ว แต่พวกที่ไปจับกุมเขาก็ต้องทำตามพยานหลักฐาน แม้จะโยงแค่ร้อยบาทพันบาทเขาก็ต้องจับ
- อีกอันที่สงสัย จริง ๆ แล้วคริษฐ์ คนถือบัญชีม้าของครรชิต ผู้ต้องหาคดียา แต่คนรับเงินใช้บัญชีจริงหมดเลย ?
พล.ต.ต. วิชัย : เหมือนครรชิตเป็นตัวรับมา แล้วมาแบ่งมาโอนกันตรงนี้
- แล้วทำไมนายตำรวจอื่น ๆ ถึงใช้บัญชีจริงไปรับจากบัญชีม้า ?
พล.ต.ต. วิชัย : เพราะคนรับไม่รู้หรอกโอนมาจากบัญชีอะไร คริษฐ์โอนให้มันก็รับ โดยไม่รู้ว่าเป็นบัญชีม้า ก็ซวยหมดเลย มันชัดเจน
พล.ต.ท. เรวัช : คริษฐ์มันไม่อยากไปชี้แจง ปปง. ไง ผมว่าไม่ต้องไปตามจับหรอกครรชิตไม่รู้เรื่อง ตำรวจยึดบัตรไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เอาบัตรครรชิตมาแล้วเปิดบัญชีธนาคาร แล้วทำเป็นว่าโอนออนไลน์ในนามไอ้ครรชิต อาจมีความไว้ใจกันระหว่างแบงก์กับไอ้นี่ นี่ผมสันนิษฐานเอานะ ผิดถูกไม่รู้
พล.ต.ต. วิชัย : หรือครรชิตเป็นลูกน้องใกล้ชิดพุฒิพงษ์
พล.ต.ท. เรวัช : ไอ้พวกนี้ยอมให้เขาโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองเพราะเข้าใจว่าเงินบริสุทธิ์ แต่มันเป็นหัวหน้าชุดทำงาน ให้ขึ้นเหนือล่องใต้ บิ๊กโจ๊กเดี๋ยวก็ให้ไปเช็กเหนือสิ เช็กเบตงสิ ไอ้พวกนี้ต้องคุมทีมไปทำงาน คนเป็นนายก็ต้องจ่าย เดี๋ยวให้เงินไอ้นี่ติดกระเป๋าไปสิ ผมเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น พวกนี้ถึงยอมให้โอนเข้าบัญชีตัวเอง ซวยโดยคริษฐ์
พล.ต.ต. วิชัย : มันผิดปกติ ยอดโอนไม่เท่ากัน คนนั้น 4.2 แสน อีกคน 4.5 แสน อีกคนล้านกว่า มันผิดที่คริษฐ์เอาเงินมาจากไหน
พล.ต.ท. เรวัช : คริษฐ์ต้องชี้แจงว่าเอาเงินที่ไหน ถ้าเงินบริสุทธิ์ก็ไม่เป็นไร
- แต่มันเป็นบัญชีม้า มินนี่โอนมาบัญชีพุฒิพงษ์ 50 กว่าครั้ง ซึ่งภาคภูมิถือบัญชีอยู่ ?
พล.ต.ต. วิชัย : พุฒิพงษ์ก็ไม่ได้ถือบัญชีตัวเอง ดันเอาบัญชีตัวเองให้ภาคภูมิถือ ภาคภูมิก็เป็นคนโอน
- สิ่งที่ตรงกับพี่แต้มและพี่เรวัชบอกคือฝั่งรองโจ๊กบอกว่าเวลามีงบลับมันไม่พอ ท่านจะควักเงินท่านเองให้คริษฐ์เอาไปให้ลูกน้องคนอื่นเพื่อทำงาน แต่ปรากฏว่าอยู่ดี ๆ คริษฐ์กลับไปเอาเงินจากบัญชีม้าไปจ่าย แต่เก็บเงินสดไว้ คริษฐ์จะตอบยังไง สุดท้ายแล้วคืออะไรกันแน่ แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าถ้ารู้ว่าบัญชีม้าทำไมกล้าเอาบัญชีจริงของเขาไปรับ เบื้องต้นตำรวจทั้ง 8 นายปฏิเสธ และปฏิเสธการให้เข้าตรวจสอบมือถือด้วย แล้วสุดท้ายรองโจ๊กยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ต้องไปดูข้อเท็จจริงอีกทีว่าเป็นอย่างไร แต่ที่เจ็บปวด ถ้าย้อนเวลากลับไปเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน เรื่องกำนันนก ครั้งนั้นบิ๊กโจ๊กบัญชาการเรื่องการจับกุมตัวตำรวจ 6 นายที่เกี่ยวข้องไปอารักขากำนันนก บิ๊กโจ๊กสั่งให้ พ.ต.ท. ภาคภูมิ เป็นคนจัดการเรื่องนี้ แต่อีก 2 สัปดาห์ต่อมา จากคนจับตำรวจ 6 คน คดีกำนันนก ถัดไป 2 อาทิตย์ วันนี้กลายเป็นผู้ต้องหาเอง แล้วถูกจับขึ้นรถเหมือนกัน สิ่งที่เหมือนกันคือเป็นตำรวจเหมือนกัน ต่างกรรม ต่างวาระ ต่างเวลา แค่ 2 สัปดาห์ ?
พล.ต.ต. วิชัย : ชีวิตมันเปลี่ยน
พล.ต.ท. เรวัช : อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
พล.ต.ต. วิชัย : กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา อะไรจะเกิดก็เกิด ชีวิตเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
- พี่แต้มคิดว่าจะจบยังไง ?
พล.ต.ต. วิชัย : มหากาพย์ เรื่องนี้ต้องต่อสู้กันหมด ตำรวจที่ถูกจับกุมเขาก็ต้องสู้ทุกตัวบทกฎหมาย คนจับกุมก็ต้องสู้ให้ได้ ถ้าแพ้ก็เดือดร้อน งานนี้ต้องเป็นมหากาพย์และลามไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่
พล.ต.ท. เรวัช : มันไม่สงบสุขแล้ว อยากให้น้อง ๆ อโหสิกันได้ก็อโหสิ รักกัน เหมือนเขี่ยบอลไปในสนาม ยังไม่รู้ใครจะแพ้ชนะ แต่เหนื่อยเหาะกันทั้งคู่
- ล่าสุดทีมข่าวแจ้งว่าอดีตผู้การชลบุรี แจ้งความบิ๊กโจ๊ก 157 แล้ว ?
พล.ต.ท. เรวัช : แจ้งรักษาสิทธิ์ เขาสอบวินัยรอดมาแล้ว
- อนาคตบิ๊กโจ๊กจากนี้ไปจะเป็นยังไง ?
พล.ต.ต. วิชัย : (ถอนใจ) ผมว่าเหนื่อย ถ้ามีการตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว มันไม่รู้จะออกทางไหน ตอนนี้นายกฯ ตั้งกรรมการสอบสวนแล้วใช่ไหม ทางพี่เรวัชเขาก็ต้องตั้งกรรมการสอบสวนด้วย สอง กรรมการสอบสวนยังไงต้องไปคู่กันแน่นอน ใครจะช่วยเหลือฝ่ายไหนแทบไม่ได้ อีกฝ่ายที่ต่อสู้กันเขาก็ต้องห้ำหั่นกันเหมือนกัน อย่างที่พี่เรวัชบอก เหนื่อยทั้งคู่
พล.ต.ท. เรวัช : เสือกัดเสือ เผลอ ๆ ตายทั้งคู่ ผมไม่เกี่ยวกับกรรมการที่นายกฯ ตั้งนะ ถ้า ผบ.ตร. จะตั้งก็ว่าไป ท่านนายกฯ ตั้งก็เรื่องท่านนายกฯ ของผมอิสระที่มาจากการเลือกตั้ง ผมเป็น 1 ใน 8 แต่วัตถุพยาน พยานเอกสาร พยานบุคคล เป็นชุดเดียวกัน ก็พูดมากไม่ได้
รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 26 กันยายน 2566 หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 เกาะติดเหตุการณ์ตำรวจไซเบอร์นำชุดคอมมานโดนำหมายค้นขอเข้าตรวจค้นบ้าน "พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ "บิ๊กโจ๊ก" รอง ผบ.ตร. เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ หลังมีความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยสัมภาษณ์ พล.ต.ท. เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด มาพร้อม พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 2
- หลังจากออกรายการไปเมื่อวาน เรื่องไปเรื่อย ๆ เลย ตอนนี้มีเจอลูกน้องบิ๊กโจ๊กพัวพันกับเส้นทางการเงินของเว็บพนันออนไลน์ ?
พล.ต.ท. เรวัช : โดยหลักของกฎหมายมันหยุดไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อวานคนบอกทำไมอึ้งเลย ไม่พูด ผมมี 2 สถานภาพ สถานภาพหนึ่งคือเป็นกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจถึงปี 2570 เรื่องที่ตำรวจกระทำความผิดทั้งหมดที่ชาวบ้านร้องเรียนมา หรือผมทราบด้วยตนเอง ผมต้องมาเป็นกรรมการพิจารณาโทษเขา จะไล่ออก ปลดออก หรือให้ออก เหมือนเป็นผู้พิพากษาเขา จะไปให้ความเห็นชี้ผิดชี้ถูกไม่ได้ มันเสีย เหมือนชักนำ กรรมการคนอื่นจะลำบากใจ จริง ๆ ผมไม่ได้กลัวใครเกลียดหรอก เพราะเขารู้นิสัยรู้สันดานผม ผู้บังคับบัญชายังด่าหลายคนเลยถ้าทำไม่ถูกไม่ต้อง แต่อะไรที่เราในฐานะกรรมการ มันสวมหมวกกรรมการพิจารณาโทษตำรวจ กรรมการมี 8 คน ผมเป็น 1 ใน 8
- มีการคุยกันหรือยังว่ามีเรื่องแบบนี้ ?
พล.ต.ท. เรวัช : รู้ครับ เดี๋ยวเอาเรื่องบรรจุเข้า แล้วพิจารณา ส่วนใหญ่เขาใช้ผมออกไปไต่สวนสืบสวน ว่า 140 ล้าน ใครผิดใครถูกบ้าง แล้วพิจารณาว่าไอ้คนนี้เอาไว้ไม่ได้ ให้ย้ายออกไปก่อน เราก็แจ้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ้าเราพิจารณาว่าให้พักราชการก่อนก็ต้องพัก หรือผมมาไต่สวนแล้วมีมูล ไอ้คนนี้ไล่ออก ผมก็ส่งไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เขาไล่ออก เขาก็มีสิทธิ์ไปร้องได้อีกชั้น คือกรรมการพิทักษ์คุณธรรม ผมก็เลยพูดไปฟันธงไม่ได้ พูดได้กลาง ๆ อันที่สองที่จุกอกคือมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ไงวะ น้องนุ่งมันทะเลาะกันหรือเปล่า ผมไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ผมกับพี่แต้มถ้าฟัดกันเจ็บทั้งคู่ เสือกับเสือฟัดกันต่างมีอิทธิฤทธิ์ ไม่งั้นก็ตายทั้งคู่ อยากให้คิดให้มากกว่านี้หน่อย แต่ผมก็เห็นใจนะผู้บังคับบัญชา ผมไม่ได้มองว่าเขาจะหักโค่นกันนะ เพราะใครจะเป็น ผบ.ตร. ก็รู้อยู่แล้ว เจ้าตัวก็รู้อยู่แล้ว รอง ผบ. ก็รู้อยู่แล้วว่าใครที่จะได้ มันไม่ใช่บิ๊กโจ๊ก บิ๊กโจ๊กเขาอยากให้ทางพรรคเพื่อไทย สมัยเขาคะแนนเสียงบูม ๆ มาก เขาชื่นชอบคือเรื่องปราบยาเสพติด เป็นขุนศึกปราบปรามยาเสพติดสมัยนั้น เขาอยากให้บิ๊กโจ๊กมาได้ไหม แต่บิ๊กโจ๊กเขาอยากเป็นตำรวจ ฉะนั้นโจ๊กไม่ใช่คู่แข่งที่จะเป็น ผบ.ตร. กว่าจะเกษียณตั้งอีก 7-8 ปี ถ้าเป็นก็ปิดหัวคนอื่นหมด ผมมองอย่างนี้นะ ข่าวผมอาจจะผิดก็ได้ แต่มักจะไม่ผิด แต่ทีมงานที่มันทำอาจไปบอกผู้บังคับบัญชาว่าตอนนี้ศาลออกหมายจับแล้ว แล้วทุกคนจะพิจารณาวันที่ 27 นี้ พวกที่เป็นนายพลต้องเข้า กตร. ต้องแสดงผลงาน ฝีมือ เขาเรียกมวยยก 5 จะหมดยกแล้ว ต้องเตะก้านคอโชว์กรรมการก่อน จะน็อกไม่น็อก มวยยก 5 โชว์งานชิ้นใหญ่ในกำมือออกให้ผู้บังคับบัญชาเห็น จะได้ย้ายไปในตำแหน่งที่ดีขึ้น หรือเลื่อนตำแหน่งขึ้น ผมยังไม่มองว่าผู้ใหญ่ทะเลาะกัน เพราะผู้ใหญ่ทะเลาะกันมีแต่เสียกับเสีย มันจะได้อยู่แล้ว แล้วจะไปทำทำไม
- ตามข่าวเรื่องนี้ไหม ?
พล.ต.ต. วิชัย : เอาเรื่องเป็นหลักก่อนนะ การที่ศาลจะออกหมายจับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ศาลต้องเชื่อได้ว่ากลุ่มบุคคลที่ออกหมายจับมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ถ้าอย่างน้อย 60-70 เปอร์เซ็นต์ เผลอ ๆ อาจ 100 เปอร์เซ็นต์ ศาลถึงออกหมายจับให้ ดังนั้นเราต้องเชื่อได้ว่าการที่ออกหมายจับนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เขาเลยมีการสืบสวนสอบสวนเป็นขั้นตอน พอศาลออกหมายจับแล้ว เขาก็ต้องไปจับกุมตรวจค้น เมื่อมีการไปจับกุม ตำรวจไม่จับกุมได้ไหม ได้ แต่ถามว่าตำรวจไปจับที่อื่นได้ไหม ก็ได้ ทำไมต้องไปจับตรงนั้น เราก็ต้องพิจารณาต่อไป แต่ถ้าออกหมายจับมาแล้วก็ต้องจับ เพราะคุณต้องรายงานศาลด้วย
- บิ๊กโจ๊กบอกให้กลับไป ถ้าจะเข้ามาค้นต้องเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูง บิ๊กโจ๊กบอกให้กลับไป เพราะเขาเป็นตำรวจชั้นผู้น้อย เขาเองเป็นรอง ผบ.ตร. ต้องมีระดับผู้บังคับบัญชามา ?
พล.ต.ต. วิชัย : เป็นไปไม่ได้ เวลาไปขอหมายค้น คุณต้องเขียนในหมายขอไว้ว่าใครเป็นผู้นำการตรวจค้น ศาลจะเขียนไว้ในนั้นเลยว่าให้ตรวจค้นตั้งแต่เวลานั้นถึงเวลานี้ โดยมีนาย ก. นายหมู นายหมา เป็นผู้นำการตรวจค้น ไม่จำเป็นว่าค้นต้องเอาผู้ใหญ่ที่เหนือกว่า ไม่งั้นผมไปค้นรัฐมนตรี ผมก็ต้องเอานายกฯ ไปสิ มันไม่ใช่ เพราะกฎหมายเขากำหนดอยู่แล้วว่าคนนำตรวจค้นเป็นใคร แต่ถ้าเป็นรอง ผบ.ตร. เรื่องกฎหมายไม่ผิด แต่เรื่องมารยาท อย่างน้อยเอาระดับผู้ใหญ่ ผู้บัญชาการมา อาจมาพูดคุยกับท่านว่ามีความจำเป็นอย่างนี้ มาชี้แจงก็ได้ แต่ถ้าพูดกฎหมายผิดไหม ไม่ผิด ก็ต้องแยกให้ถูก
- บิ๊กโจ๊กบอกว่าตอนตำรวจไปออกหมายค้นหรือหมายจับ ต้องใส่ยศ ใส่ชื่อต่าง ๆ นานา เหมือนมีการซ่อนเร้นปิดบัง ?
พล.ต.ต. วิชัย : เวลาคุณจะค้นบ้านใคร คุณต้องตรวจสอบก่อนว่าบ้านหลังนี้เป็นบ้านใคร อย่างน้อยไปถามเขต ทำการสืบสวนมา บ้านเป็นของนายเรวัช สมมตินะ พอรู้บ้านนายเรวัชก็ต้องไปบอกเขาว่าเป็นบ้านนายเรวัช ซึ่งมีผู้ต้องหาที่จะออกหมายจับพักอาศัยอยู่ แต่นี่มีประเด็นว่าผู้ต้องหาที่พักเป็นตำรวจ เราต้องไปบอกศาลไหมว่าเป็นตำรวจ ตามกฎหมายก็ไม่จำเป็นอีก เวลาออกหมายจับใครเขากดเลข 13 หลักเป็นหลัก เพราะบางทียศชื่อผม 13 หลัก ผมชื่อนายนะ ผมไม่ได้เอายศใส่ แล้วตำรวจเยอะมากที่ไม่เอายศใส่ในบัตรประชาชน เวลาออกหมายจับเขาต้องเอาจากเลข 13 หลัก แต่เรื่องแบบนี้ก็รู้อยู่แล้วว่านี่เป็นตำรวจ จะเป็นเทคนิคยังไง แต่กฎหมายผิดไหม ไม่ผิด แต่อาจผิดอย่างนี้ ทำไมไม่ออกยศก็ว่าไป แต่ตามกฎหมายต้องออกเลข 13 หลัก ส่งตามบ้านเลขที่อยู่ กฎหมายเขียนไว้หมด
- เป็นอย่างนั้นไหม ?
พล.ต.ท. เรวัช : ผมเห็นใจศาลที่ออกหมายจับนะ ท่านก็ไม่ได้มาเชี่ยวชาญเรื่องฝ่ายปกครองหรอก เวลาคนมาขอหมายจับ พนักงานจะพรินต์บัตรออกหมายจับคนนี้ ๆ ศาลก็ดูหลักฐานให้รัดกุม กว่าศาลจะออกหมายนี่ยากนะ ส่วนยศเป็นความละเอียดรอบคอบของพนักงานสอบสวน เช่น บัตรประจำตัวผมก็ชื่อนายเรวัช กลิ่นเกษร หรือ พล.ต.ท. เรวัช กลิ่นเกษร เพื่อบรรยายให้คนที่จะออกหมายจับ อย่างคุณหนุ่ม โหนกระแส หรือ นายกรรชัย เพื่อให้ศาลได้รู้ว่าออกหมายจับไม่ผิดคน เวลาศาลออกหมายค้น พนักงานสอบสวนไม่ได้บอกว่าเป็นบ้านใคร ขอค้นบ้านเลขที่นี้เพื่อจับผู้ต้องหา ศาลท่านก็ออกให้อยู่แล้ว เพราะการออกหมายจับใครได้ต้องมีพยานหลักฐานรัดกุมเขาถึงจะออกหมายจับได้
- ตำรวจบอกว่าไม่รู้ว่าเป็นบ้านบิ๊กโจ๊ก ?
พล.ต.ต. วิชัย : ถ้าไม่รู้ ถ้าเป็นผม ผมก็ต้องเข้าจับกุม เพราะถ้าไม่จับกุมวันนี้เดี๋ยวก็หนี แต่ถ้ารู้ก็มารยาทได้ ให้มามอบตัวได้ รับรองบิ๊กโจ๊กก็ต้องสั่งให้มอบตัว ถ้าคุณไม่สั่งนะ รองโจ๊กก็ผิดอีก ให้ที่พักอาศัยผู้ต้องหา ดังนั้นก็ต้องสั่ง ถ้าไม่รู้ก็ต้องจับ แต่จับโดยวิธีการอย่างไร ตำรวจมีขั้นตอนในการจับอยู่แล้ว
- จำเป็นต้องมีคอมมานโดไปอย่างนั้นไหม ?
พล.ต.ต. วิชัย : ระยะหลัง ๆ การจับกุมแถลงข่าวเขาจะทำระบบนี้หมด ทำเหมือนต่างประเทศ แต่ถ้าไปอย่างนี้ ถ้าเขารู้ว่าคนกลุ่มนี้เป็นตำรวจ คุณเดินหน่อมแน้มไป ถ้าเกิดปัญหายิงกันตายห่าเลย ถ้าเราเอากำลังตำรวจไปก็ทำให้ลดการสูญเสียได้ อาจทำให้คนร้ายกลัวได้ ฝรั่งเขาชอบทำแบบนี้มาก ถ้าไปคนสองคนฝรั่งมันยิงเลย เดี๋ยวนี้ยุคใหม่ด้วยซ้ำ ขนาดเอาผู้ต้องหาไปที่เกิดเหตุยังใช้คอมมานโดเลย เพราะกลัวว่าคนไม่พอใจมารุมทำร้าย ถามว่าใช้ได้ไหม ใช้ได้
- เส้นทางการเงิน ก่อนหน้านี้มีการจับกุมตัวนายตาล มีความเชื่อมโยงกับเจ้าของเว็บพนันออนไลน์เว็บหนึ่ง มีการขยายผลจนมาถึงมินนี่ สุชานันท์ ปรากฏมินนี่มีความสัมพันธ์กับ พ.ต.อ. ภาคภูมิ ผมก็ไม่รู้ว่าเชิงชู้สาวหรือเปล่า แต่มีภาพนั่งตักและเอามือโอบกันไป เมื่อวานพี่เรวัชว่าไงนะ ?
พล.ต.ท. เรวัช : นายภาคภูมิ นอกจากคดีอาญา มึงไปแก้ตัวกับเมียให้ดี คดีนี้ไม่ขาดอายุความ
พล.ต.ต. วิชัย : เขาเรียกตายซ้ำตายซาก
พล.ต.ท. เรวัช : รอดคุกแล้วมาตายที่บ้านอีก ตายซ้ำตายซาก
- มีความเชื่อมโยง เพราะมีการใช้คำว่ามีความสัมพันธ์กัน เขาเชื่อกันว่าภาคภูมิพามินนี่มางานเลี้ยงบิ๊กโจ๊กเลี้ยงให้ลูกน้อง เลี้ยงสังสรรค์ให้ลูกน้องที่มาดูแลคุณพ่อ ซึ่งคุณพ่อท่านเสีย มินนี่ไปร้องเพลงกับบิ๊กโจ๊ก ปรากฏว่าพอคลิปนี้หลุดออกมา กลายเป็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือสังคมตั้งคำถามว่า อ้าว ทำไมมินนี่ผู้ต้องหาคดีเว็บออนไลน์ไปอยู่ในภาพนี้กับบิ๊กโจ๊กได้ไง บิ๊กโจ๊กบอกว่าผมไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่รู้จัก ผมเลี้ยงลูกน้อง ส่วนลูกน้องจะพาใครมาก็สิทธิ์ของเขา ไม่ได้ไปห้ามใคร หลังจากนั้นถึงมีภาพคู่ระหว่างภาคภูมิกับมินนี่โอบกอดกันออกมา ทุกคนเลยมองว่าหรือภาคภูมิพาเข้ามา ประเด็นที่สอง ตำรวจมีการขยายผล มินนี่ถูกจับ ตำรวจไปตรวจสอบโทรศัพท์ พบว่ามีการเชื่อมโยง มีการพูดคุยกับทางภาคภูมิ และมีการโอนเงิน โดยผ่านบัญชีของพุฒิพงษ์ พูนศรี ซึ่งบิ๊กโจ๊กบอกว่าภาคภูมิต้องตอบเรื่องนี้ให้ได้ว่าบัญชีพุฒิพงษ์ซึ่งเป็นผู้ต้องหามาอยู่ในมือภาคภูมิได้อย่างไร ที่แน่ ๆ เป็นบัญชีม้าและโอนจากมินนี่เข้ามา 50 กว่าครั้ง เป็นเงิน 3,659,890 บาท คนถือบัญชีคือภาคภูมิ แล้วเส้นทางการเงินจากพุฒิพงษ์ซึ่งเป็นบัญชีม้า มันยิงมาอีกบัญชี คือ ครรชิต สองสมาน เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด ตอนนี้ยังหนีอยู่ แต่บัญชีครรชิตอยู่ในมือ พ.ต.ท. คริษฐ์ เลขาฯ บิ๊กโจ๊ก แล้วคริษฐ์มีการกระจายเงินออกไปบัญชีครรชิต แล้วออกไปหาตำรวจแต่ละนาย มีการโอนให้แม่ไปจ่ายค่ารักษาให้พ่อบิ๊กโจ๊ก โอนให้น้องชายบิ๊กโจ๊ก ค่าน้ำ-ค่าไฟต่าง ๆ นานา มาจากคริษฐ์ ซึ่งเป็นเลขาฯ หรือพ่อบ้าน บิ๊กโจ๊กเมื่อเช้าพูดกับพี่สรยุทธในคุยนอกจอ บอกว่าผมก็ไม่ทราบว่าทำไมคริษฐ์ทำแบบนี้ ติดการพนันหรือเปล่าก็ไม่แน่ แต่บิ๊กโจ๊กเคยนำเงินก้อนหนึ่งให้คริษฐ์เพื่อไปจ่ายโน่นนี่นั่น ปรากฏว่าคริษฐ์แทนที่จะเอาเงินที่บิ๊กโจ๊กให้ไปจ่ายคนอื่น กลับกลายเป็นเอาเงินจากบัญชีม้าไปจ่ายแทน แล้วมีการเชื่อมโยงแบบนี้ เงินไปถึงแบบนี้ บิ๊กโจ๊กจะเดือดร้อนไหม เรื่องบัญชีม้าที่ไม่ควรอยู่ในมือตำรวจ แล้วมาอยู่ได้ไง ตำรวจอย่าง 2 ท่านเคยมีบัญชีม้าอยู่ในมือหรือเปล่า ?
พล.ต.ท. เรวัช : ไม่มีหรอก ไม่มีแน่นอน
พล.ต.ต. วิชัย : อันดับแรกการที่บิ๊กโจ๊กร้องเพลงกับน้องคนนี้ เราต้องให้ความเป็นธรรมกับบิ๊กโจ๊ก เขาอาจไม่รู้ก็ได้ว่าคนนี้เกี่ยวข้องกับเว็บพนันบอล แต่ถ้าผู้หญิงคนนี้ถูกจับก่อนมาร้องเนี่ย อย่างนี้น่าคิดแน่นอน แต่ถ้าร้องก่อนถูกจับไม่เป็นไร อาจไม่รู้ แต่ถ้าจับแล้วมาร้อง รองโจ๊กก็เหนื่อย
- พี่เรวัชมองยังไงเรื่องลูกน้องบิ๊กโจ๊กที่มีส่วนพัวพันกับบัญชีม้า ?
พล.ต.ท. เรวัช : ดูว่าตำรวจ 2 คนที่ถือบัญชีม้าอาจจะมีการรับส่วย เพราะอยู่ใกล้ชิดผู้มีอำนาจ เหมือนผมมองตัวผม ที่ผมเป็นแค่รองผู้การ ตำรวจน้ำ แล้วผมมีหน้าที่ในการปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิด คือพวกน้ำมันเถื่อน ผมไม่ได้รับเงินสักบาท ไอ้จ่าได้คนละแสน ที่คอยไปซื้อกาแฟให้ผมบ้าง ซื้อหนังสือพิมพ์ให้บ้าง จนกระทั่งผมถามว่าทำไมมาดูแลผมดีเหลือเกิน ผมก็ไม่ใช่ผู้การ เพียงแต่มันมาเช็กเท่านั้นว่าผมจะไปเหนือไปใต้ ไปออกจับเมื่อไหร่ ถ้าผมลงทะเล ไอ้พวกน้ำมันเถื่อนจะได้เข้าไปเขตทะเลหลวง ผมมองในภาพอย่างนี้ ไม่ได้แก้ตัวให้ใคร หรือเข้าข้างใคร คนใกล้ตัวผู้ใหญ่คอยส่งข่าวให้ แม้แต่ใครทำบ่อน ทีมไหนที่ปราบบ่อน มันก็ต้องหาทางวิ่งเต้นอย่างนี้ แต่เด็ก 2 คนที่ถือบัญชีม้าค่อนข้างลำบาก ต้องตอบคำชี้แจงให้ได้ เหมือนชุดเฉพาะกิจกรมการปกครองที่ไปจับเธค จับผับต่าง ๆ ตัวปลัดอำเภอ ตัว ผอ. นี่ไม่เอาตังค์นะ แต่พวกนี้แทบจ้างยามเฝ้าเลย สถานบริการต่าง ๆ ว่าชุดนี้จะไปไหน จะขึ้นเหนือล่องใต้ส่งข่าวหน่อยนะ มันก็ให้เงิน
- พี่แต้มมองไง ?
พล.ต.ต.วิชัย : เราจะเห็นได้เลยว่าคุณผู้หญิงกับ พ.ต.อ. ภาคภูมิ มีความสัมพันธ์กัน ตัวเงินถ้าคู่นี้ให้เงินคนจะให้คริษฐ์ ทำไมต้องผ่านบัญชีม้าให้ซับซ้อนทำไม แสดงว่ามีเงื่อนงำจากพุฒิพงษ์ มึงยังต้องเงื่อนงำไปครรชิตอีกถึงจะมาคริษฐ์ ทำไมต้องทำซับซ้อนอย่างนี้ ถ้ามันไม่มีลับลมคมใน ถ้าภาคภูมิให้มาก็จบแล้ว ภาคภูมิบอกว่าเงินนี้เป็นของคนนั้นคนนี้
- จะบอกว่าถ้ามินนี่โอนเข้าบัญชีพุฒิพงษ์ แล้วบัญชีพุฒิพงษ์ฝั่งภาคภูมิถืออยู่ จริง ๆ ภาคภูมิสามารถเอาเข้าบัญชีอื่น ๆ ได้เลย ?
พล.ต.ต. วิชัย : ภาคภูมิโอนเข้าบัญชีคริษฐ์ได้เลย จะต้องไปผ่านบัญชีม้าทำไม กฎหมายบอกว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา การกระทำของคุณเป็นเครื่องชี้เจตนาว่าเจตนาคุณบริสุทธิ์หรือเปล่า ถามว่าครรชิตบัญชีม้าและติดยาเสพติดด้วย จะโอนให้คริษฐ์ได้ยังไง คริษฐ์จะรับทำไมวะ ตรงนี้แหละที่ทำให้คนสงสัย
- ครรชิตเคยต้องคดีจำหน่ายยาเสพติดให้โทษ คดียาเสพติดอื่น ๆ อีก 5 คดี ?
พล.ต.ต. วิชัย : แล้วตอนนี้หนีอยู่ หรือบัญชีตัวนี้คริษฐ์ถืออยู่ แล้วจะเอามาโดยตรงไม่ได้ ก็ต้องโอน การโอนเงินมันทำให้สลับซับซ้อนเหมือนมีเงื่อนงำ คนก็เลยสงสัย มันเป็นที่มาของการออกหมายจับ
- ถ้าลูกน้องทำแบบนี้ ลูกพี่ซวยไหม ?
พล.ต.ต. วิชัย : รองโจ๊กท่านคงไม่เอาหรอก ท่านไม่เกี่ยวข้องหรอก แต่คนพวกนี้ทำให้เกี่ยวกับรองโจ๊ก แต่ที่เกี่ยวที่สุดคือดันโอนไปให้แม่ให้อะไรต่าง ๆ รองโจ๊กจะแก้ตัวยังไงว่าไม่รู้เรื่อง รองโจ๊กต้องชี้แจงตรงนี้ให้ได้ ถ้าชี้แจงไม่ได้ เรายังไม่รู้ว่าที่ตรวจสอบตรงนี้ยังมีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า มีคดีอื่นอีกหรือเปล่าที่จะผ่านกลุ่มกระบวนการไอ้พวกนี้ มันก็จะหนักนะ
- พี่แต้มคิดว่ารองโจ๊กไม่น่าเกี่ยวข้อง แต่พอลูกน้องทำแบบนี้อาจมีความเชื่อมโยง ต้องชี้แจงให้ชัด ?
พล.ต.ต. วิชัย : ใช่ มันมีการโอนให้แม่ 2.8 ล้าน เยอะนะ สอง โอนให้น้องชายอีก เกี่ยวข้องยังไง
- เท่าที่ฟังรองโจ๊กบอกว่าจริง ๆ คริษฐ์เหมือนเป็นเลขาฯ เวลาจัดการเรื่องอะไรก็ส่งให้คริษฐ์จัดการเพราะท่านงานเยอะ รองโจ๊กจะโอนเงินไปให้คริษฐ์เพื่อไปจ่ายทีเดียว ?
พล.ต.ต. วิชัย : ถูกต้อง เพราะท่านไม่มีเวลาไปทำหรอก
- แต่รองโจ๊กบอกว่าผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอยู่ดี ๆ เงินที่ผมให้คริษฐ์ไปจ่าย มันกลับกลายเป็นว่าเอาจากบัญชีม้าไปจ่ายแทน ?
พล.ต.ต. วิชัย : นี่แหละ รองโจ๊กต้องชี้แจงตัวนี้ 2 คนชื่อคริษฐ์ก็ต้องชี้แจง แล้วคริษฐ์ชี้แจงลำบากมาก เพราะเงินนั้นได้มาจากบัญชีม้า คุณจะชี้แจงยังไง เพราะไม่ได้เงินจากบิ๊กโจ๊กไง ถ้าเอาเงินจากบิ๊กโจ๊กไปจ่ายก็โอเค แต่นี่เงินที่เอาไปจ่ายคือเงินจากบัญชีม้า อันนี้แหละจะสอบสวนลำบาก
พล.ต.ท. เรวัช : ไม่ใช่บัญชีม้าหรอก ผมว่าเหมือนเจ้าของบ่อน เจ้าของซ่อง โอนเงินให้ผม ผมก็กลัวมีเรื่อง อาจเอาบัตรประจำตัวเด็กติดยามาบอกว่า เฮ้ย เปิดบัญชีนี้ให้หน่อยสิ ตัดตอนผมไปก่อน (หัวเราะ) คิดแบบซวยฉิบหาย เด็กไง แต่ถามว่าเราต้องมามองภาพปัจจุบันก่อน โจ๊กเขามีอำนาจ มีบทบาทสูง เงินแค่นี้อุดรูแม่งไม่ได้เลย มันน้อยเกิน ขนาดมีเหตุการณ์จังหวัดชลบุรี เรียก 140 ล้าน พลเอกจะฟาด เหมือนใครจะให้ตังค์ผม ผมเป็นพลโท พี่แต้มเป็นพลตรี ก็ต้องเป็นหมื่น แต่มาให้สิบบาท แต่ถ้ามองชาวบ้านเงินนี้ดูเยอะ แต่ถ้าคนอยู่ระดับนี้มันเล็กน้อย ถ้าซื้อแลมโบกินี่ให้ 30 ล้านก็ว่าไปอย่าง พูดเรื่องว่าถ้าเขาจะติดสินบนแล้วเขารู้เรื่อง แต่ถ้าเป็นเงินไม่สุจริต แล้วรับสินบน เกิน 3 พันบาท ก็ผิด ก็ต้องไปชี้แจงกันเอา แต่มองในฐานะมีประสบการณ์ ถ้าจะรับสินบนมันน้อยเกิน แต่ถ้าเด็ก ๆ แอบรับ พวกหมาตามเกวียนรับ นาย พ่อนายป่วย ผมช่วยจัดการให้แล้วนะครับ จะมีงานศพผมจัดการให้แล้วนะครับ ค่าดอกไม้ธูปเทียน มาไล่รายละเอียดไม่ได้ คุณอยู่กับผมเจอหน้ากันแบบนี้ ออกไปก็ไม่รู้ไปไหนแล้ว แต่พวกที่ไปจับกุมเขาก็ต้องทำตามพยานหลักฐาน แม้จะโยงแค่ร้อยบาทพันบาทเขาก็ต้องจับ
- อีกอันที่สงสัย จริง ๆ แล้วคริษฐ์ คนถือบัญชีม้าของครรชิต ผู้ต้องหาคดียา แต่คนรับเงินใช้บัญชีจริงหมดเลย ?
พล.ต.ต. วิชัย : เหมือนครรชิตเป็นตัวรับมา แล้วมาแบ่งมาโอนกันตรงนี้
- แล้วทำไมนายตำรวจอื่น ๆ ถึงใช้บัญชีจริงไปรับจากบัญชีม้า ?
พล.ต.ต. วิชัย : เพราะคนรับไม่รู้หรอกโอนมาจากบัญชีอะไร คริษฐ์โอนให้มันก็รับ โดยไม่รู้ว่าเป็นบัญชีม้า ก็ซวยหมดเลย มันชัดเจน
พล.ต.ท. เรวัช : คริษฐ์มันไม่อยากไปชี้แจง ปปง. ไง ผมว่าไม่ต้องไปตามจับหรอกครรชิตไม่รู้เรื่อง ตำรวจยึดบัตรไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เอาบัตรครรชิตมาแล้วเปิดบัญชีธนาคาร แล้วทำเป็นว่าโอนออนไลน์ในนามไอ้ครรชิต อาจมีความไว้ใจกันระหว่างแบงก์กับไอ้นี่ นี่ผมสันนิษฐานเอานะ ผิดถูกไม่รู้
พล.ต.ต. วิชัย : หรือครรชิตเป็นลูกน้องใกล้ชิดพุฒิพงษ์
พล.ต.ท. เรวัช : ไอ้พวกนี้ยอมให้เขาโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองเพราะเข้าใจว่าเงินบริสุทธิ์ แต่มันเป็นหัวหน้าชุดทำงาน ให้ขึ้นเหนือล่องใต้ บิ๊กโจ๊กเดี๋ยวก็ให้ไปเช็กเหนือสิ เช็กเบตงสิ ไอ้พวกนี้ต้องคุมทีมไปทำงาน คนเป็นนายก็ต้องจ่าย เดี๋ยวให้เงินไอ้นี่ติดกระเป๋าไปสิ ผมเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น พวกนี้ถึงยอมให้โอนเข้าบัญชีตัวเอง ซวยโดยคริษฐ์
พล.ต.ต. วิชัย : มันผิดปกติ ยอดโอนไม่เท่ากัน คนนั้น 4.2 แสน อีกคน 4.5 แสน อีกคนล้านกว่า มันผิดที่คริษฐ์เอาเงินมาจากไหน
พล.ต.ท. เรวัช : คริษฐ์ต้องชี้แจงว่าเอาเงินที่ไหน ถ้าเงินบริสุทธิ์ก็ไม่เป็นไร
- แต่มันเป็นบัญชีม้า มินนี่โอนมาบัญชีพุฒิพงษ์ 50 กว่าครั้ง ซึ่งภาคภูมิถือบัญชีอยู่ ?
พล.ต.ต. วิชัย : พุฒิพงษ์ก็ไม่ได้ถือบัญชีตัวเอง ดันเอาบัญชีตัวเองให้ภาคภูมิถือ ภาคภูมิก็เป็นคนโอน
- สิ่งที่ตรงกับพี่แต้มและพี่เรวัชบอกคือฝั่งรองโจ๊กบอกว่าเวลามีงบลับมันไม่พอ ท่านจะควักเงินท่านเองให้คริษฐ์เอาไปให้ลูกน้องคนอื่นเพื่อทำงาน แต่ปรากฏว่าอยู่ดี ๆ คริษฐ์กลับไปเอาเงินจากบัญชีม้าไปจ่าย แต่เก็บเงินสดไว้ คริษฐ์จะตอบยังไง สุดท้ายแล้วคืออะไรกันแน่ แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าถ้ารู้ว่าบัญชีม้าทำไมกล้าเอาบัญชีจริงของเขาไปรับ เบื้องต้นตำรวจทั้ง 8 นายปฏิเสธ และปฏิเสธการให้เข้าตรวจสอบมือถือด้วย แล้วสุดท้ายรองโจ๊กยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ต้องไปดูข้อเท็จจริงอีกทีว่าเป็นอย่างไร แต่ที่เจ็บปวด ถ้าย้อนเวลากลับไปเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน เรื่องกำนันนก ครั้งนั้นบิ๊กโจ๊กบัญชาการเรื่องการจับกุมตัวตำรวจ 6 นายที่เกี่ยวข้องไปอารักขากำนันนก บิ๊กโจ๊กสั่งให้ พ.ต.ท. ภาคภูมิ เป็นคนจัดการเรื่องนี้ แต่อีก 2 สัปดาห์ต่อมา จากคนจับตำรวจ 6 คน คดีกำนันนก ถัดไป 2 อาทิตย์ วันนี้กลายเป็นผู้ต้องหาเอง แล้วถูกจับขึ้นรถเหมือนกัน สิ่งที่เหมือนกันคือเป็นตำรวจเหมือนกัน ต่างกรรม ต่างวาระ ต่างเวลา แค่ 2 สัปดาห์ ?
พล.ต.ต. วิชัย : ชีวิตมันเปลี่ยน
พล.ต.ท. เรวัช : อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
พล.ต.ต. วิชัย : กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา อะไรจะเกิดก็เกิด ชีวิตเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
- พี่แต้มคิดว่าจะจบยังไง ?
พล.ต.ต. วิชัย : มหากาพย์ เรื่องนี้ต้องต่อสู้กันหมด ตำรวจที่ถูกจับกุมเขาก็ต้องสู้ทุกตัวบทกฎหมาย คนจับกุมก็ต้องสู้ให้ได้ ถ้าแพ้ก็เดือดร้อน งานนี้ต้องเป็นมหากาพย์และลามไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่
พล.ต.ท. เรวัช : มันไม่สงบสุขแล้ว อยากให้น้อง ๆ อโหสิกันได้ก็อโหสิ รักกัน เหมือนเขี่ยบอลไปในสนาม ยังไม่รู้ใครจะแพ้ชนะ แต่เหนื่อยเหาะกันทั้งคู่
- ล่าสุดทีมข่าวแจ้งว่าอดีตผู้การชลบุรี แจ้งความบิ๊กโจ๊ก 157 แล้ว ?
พล.ต.ท. เรวัช : แจ้งรักษาสิทธิ์ เขาสอบวินัยรอดมาแล้ว
- อนาคตบิ๊กโจ๊กจากนี้ไปจะเป็นยังไง ?
พล.ต.ต. วิชัย : (ถอนใจ) ผมว่าเหนื่อย ถ้ามีการตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว มันไม่รู้จะออกทางไหน ตอนนี้นายกฯ ตั้งกรรมการสอบสวนแล้วใช่ไหม ทางพี่เรวัชเขาก็ต้องตั้งกรรมการสอบสวนด้วย สอง กรรมการสอบสวนยังไงต้องไปคู่กันแน่นอน ใครจะช่วยเหลือฝ่ายไหนแทบไม่ได้ อีกฝ่ายที่ต่อสู้กันเขาก็ต้องห้ำหั่นกันเหมือนกัน อย่างที่พี่เรวัชบอก เหนื่อยทั้งคู่
พล.ต.ท. เรวัช : เสือกัดเสือ เผลอ ๆ ตายทั้งคู่ ผมไม่เกี่ยวกับกรรมการที่นายกฯ ตั้งนะ ถ้า ผบ.ตร. จะตั้งก็ว่าไป ท่านนายกฯ ตั้งก็เรื่องท่านนายกฯ ของผมอิสระที่มาจากการเลือกตั้ง ผมเป็น 1 ใน 8 แต่วัตถุพยาน พยานเอกสาร พยานบุคคล เป็นชุดเดียวกัน ก็พูดมากไม่ได้