แท็กซี่วอนผู้โดยสาร หยุดร้องเรียนเวลาไม่รับ โดนปรับเพราะไม่อยากเจอรถติด คนแนะแนวทางสั้น ๆ

 

             ทั้งนี้ แท็กซี่คนดังกล่าวบอกว่า การที่คนขับแท็กซี่ไม่ไปส่งผู้โดยสารตามที่ท่านต้องการ เพราะมีเหตุผลส่วนตัวมากมาย เช่น รถติด หรือไปในเส้นทางที่ไม่มีผู้โดยสาร ต้องตีรถเปล่ากลับ ต้นทุนของแท็กซี่กับอัตราค่าโดยสารในปัจจุบันไม่สอดคล้องกัน ค่าเช่า ค่าเชื้อเพลิง ตกวันละ 1,000-2,000 บาท และต้องใช้เวลาขับ 10-12 ชม. กว่าจะคืนทุน ถ้าฝนตกหนักรถติดกว่าปกติ ผู้โดยสารก็น้อยลง

             ถ้าเรียกแล้วแท็กซี่ไม่ไป ให้ท่านเรียกแท็กซี่คันใหม่ หรือใช้แอปฯ เรียกเอา บางครั้งรถติดมาก ๆ ผู้โดยสารก็ขอลงกลางทางก็มี แล้วแบบนี้คนขับจะไปร้องเรียนกับใคร ตนเข้าใจว่าตนอาจจะทำผิด พ.ร.บ.จราจร แต่ค่าปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท ทำให้แท็กซี่ต้องดิ้นรนขอเงินคนอื่นมาใช้ เงินหายาก ขอความเห็นใจ พร้อมกับลงท้ายว่า ที่ตนได้ใบสั่งนั้นไม่ใช่เพราะปฏิเสธผู้โดยสาร

             นอกจากนี้ เขายังบอกว่า จริง ๆ เขาโดนเปรียบเทียบปรับใบละ 1,000 ทั้งหมด 4 ใบ 4,000 บาท แต่ได้ต่อรองขอให้ปรับเหลือใบละ 400 บาท และไปขอยืมเงินคนทางบ้านมาจ่ายค่าปรับ
             อย่างไรก็ตาม กลับมีคนมาตอบคอมเมนต์แบบฉ่ำ ๆ ทั้งที่บอกว่า นี่คือที่มาของคำว่า ก่อนจะโทษคนอื่น ให้โทษตัวเองก่อน บางคนก็บอกว่า ถ้าเรื่องมากนักก็ไม่ต้องขับ ถ้าไม่ไหวก็เปลี่ยนอาชีพไปทำอย่างอื่นแทน ถ้าอาชีพนี้มันทำยาก ก็ไปหาทำอย่างอื่นที่ไม่ต้องบริการผู้โดยสาร ในขณะที่แท็กซี่บางคนก็เข้ามาบอกว่า คงมีแต่คนอาชีพเดียวกันที่เข้าใจกัน จนเจอตอกกลับว่า ถ้าอย่างนั้นก็ขับรถรับ-ส่งพวกเดียวกันแล้วกัน ไม่ต้องไปรับ-ส่งผู้โดยสารหรอก