สาวเผยประสบการณ์ ไปเกาหลีกับแฟน ตัวเธอผ่านเข้าไป แต่แฟนติด ตม. เกาหลี ก่อนโดนส่งกลับประเทศ เหตุแฟนใช้ภาษาอังกฤษไม่ดี ตอบคำถามตะกุกตะกัก ด้าน ตม. อ้าง ไม่มีศักยภาพในการมาเที่ยวเกาหลี
![ตม. เกาหลี ตม. เกาหลี]()
หนึ่งในประเทศที่คนไทยเดินทางไปจำนวนมาก แล้วก็มีเคสกรณีถูกส่งกลับก็เยอะ เนื่องจากมีกลุ่มคนไทยลักลอบเข้าไปทำงานที่นั่น หรือเรียกว่า ผีน้อย ประเทศนั้นก็คือ เกาหลีใต้
วันที่ 29 กันยายน 2566 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้รีวิวประสบการณ์เจอ ตม. เกาหลี โดยในวันเดินทางเธอสวมชุดสีดำ กางเกงสีดำ มีเสื้อคลุมอีกชั้น กระเป๋าเดินทางสีเหลืองขนาดใหญ่โหลดใต้เครื่อง ทาง ตม. ถามเธอแค่ 2 คำถามคือ "คุณจะมาอยู่ที่นี่กี่วัน" เธอตอบว่า "4 วัน" จากนั้น ตม. ก็ถามโรงแรมที่พัก พร้อมกับชี้ตรงช่องชื่อโรงแรมที่กรอกในใบ arrival card ซึ่งเธอก็ตอบไปตามความจริง และ ตม. ก็แสตมป์ให้เธอผ่านเข้าเมืองได้
อย่างไรก็ตาม แฟนของเจ้าของโพสต์กลับไม่ผ่าน ตม. เพราะตอบคำถามได้ไม่เคลียร์ เนื่องจากตื่นเต้นกับการเดินทางครั้งแรก รู้ทั้งรู้ว่าต้องตอบอะไร แต่ปากกลับตอบว่าไม่รู้ ทำให้ถูกส่งกลับเมืองไทย พร้อมกับที่ ตม. ให้เหตุผลว่า "ไม่มีศักยภาพมากพอที่จะเที่ยวประเทศเขา และไม่สามารถระบุรายละเอียดแจกแจงได้อย่างชัดเจน"
![ตม. เกาหลี ตม. เกาหลี]()
เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ได้บทเรียนว่า ความเชื่อที่ว่าถ้าเดินทางเข้าเกาหลีแล้วต้องแต่งตัวดี ๆ นั้น การแต่งตัวก็อาจจะมีส่วน แต่ที่แน่ ๆ ต้องสื่อสารให้รู้เรื่องว่าจะไปไหน ไปทำอะไรบ้าง เพื่อที่จะเอาตัวรอดในประเทศเขาได้ และการที่ไม่ค่อยได้ภาษาอังกฤษก็ทำให้เจ้าหน้าที่คิดว่าไม่ควรให้เข้าในประเทศ เพราะกลัวเอาตัวรอดไม่ได้ อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องชี้แจงชัดเจนคือ จำนวนเงินว่ามีเงินสดและเงินในการ์ดยังไงบ้าง
นอกจากนี้เธอก็ได้มาอธิบายเพิ่มเติมว่า เธอมีเอกสารที่พัก สถานที่พักจริงทุกอย่าง จ่ายเงินหมดแล้ว
![ตม. เกาหลี ตม. เกาหลี]()
ในขณะเดียวกันก็มีหลายคนที่มาแชร์ประสบการณ์การผ่าน ตม. เกาหลี เช่นกัน บางคนก็สามารถผ่านไปได้โดยที่ ตม. ไม่พูดอะไรด้วยสักคำ บางคนก็โดนถามเยอะถึงเรื่องสถานที่เที่ยว สถานที่พัก และถ้าไม่ได้ภาษาอังกฤษก็ให้คนที่ได้ภาษาเข้าไปก่อน และแนะนำว่ามากับอีกคน แต่เธอก็บอกเช่นกันว่าเธอก็ใช้วิธีนี้ และหลังจากที่แฟนเข้าห้องเย็นเธอก็มายืนรอข้างหน้า แต่ก็ไม่มีใครเรียกเธอไปเช่นกัน ดังนั้น สิ่งสำคัญของการผ่าน ตม. เกาหลี คือต้องขึ้นอยู่กับคนคนนั้นและการตอบคำถามของเจ้าตัวเอง

วันที่ 29 กันยายน 2566 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้รีวิวประสบการณ์เจอ ตม. เกาหลี โดยในวันเดินทางเธอสวมชุดสีดำ กางเกงสีดำ มีเสื้อคลุมอีกชั้น กระเป๋าเดินทางสีเหลืองขนาดใหญ่โหลดใต้เครื่อง ทาง ตม. ถามเธอแค่ 2 คำถามคือ "คุณจะมาอยู่ที่นี่กี่วัน" เธอตอบว่า "4 วัน" จากนั้น ตม. ก็ถามโรงแรมที่พัก พร้อมกับชี้ตรงช่องชื่อโรงแรมที่กรอกในใบ arrival card ซึ่งเธอก็ตอบไปตามความจริง และ ตม. ก็แสตมป์ให้เธอผ่านเข้าเมืองได้
อย่างไรก็ตาม แฟนของเจ้าของโพสต์กลับไม่ผ่าน ตม. เพราะตอบคำถามได้ไม่เคลียร์ เนื่องจากตื่นเต้นกับการเดินทางครั้งแรก รู้ทั้งรู้ว่าต้องตอบอะไร แต่ปากกลับตอบว่าไม่รู้ ทำให้ถูกส่งกลับเมืองไทย พร้อมกับที่ ตม. ให้เหตุผลว่า "ไม่มีศักยภาพมากพอที่จะเที่ยวประเทศเขา และไม่สามารถระบุรายละเอียดแจกแจงได้อย่างชัดเจน"

ทั้งนี้ ที่เจ้าของโพสต์เล่านั้นต้องการแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้ให้ทุกคนรู้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องเจอเหมือนกัน เพราะคนละคน คนละกรณี ซึ่งเธอนั้นก็เข้าใจได้ เพราะแฟนที่ตื่นเต้นและไม่เข้าใจภาษาอังกฤษมากขนาดนั้น พอทำอะไรผิดไปครั้งแรกทุกอย่างก็ล้มลงหมด ทั้งที่ซ้อมมาเป็นอย่างดีว่าต้องตอบอะไร เข้าใจทุกอย่างว่าจะไปไหน แต่พออยู่หน้า ตม. จริง ๆ กลับแตกตื่น ถือว่าเป็นบทเรียนไป อย่างน้อยเขาไม่ได้ห้ามเข้าประเทศตลอดไป ครั้งหน้าแค่อุดรอยรั่วเท่านั้น
เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ได้บทเรียนว่า ความเชื่อที่ว่าถ้าเดินทางเข้าเกาหลีแล้วต้องแต่งตัวดี ๆ นั้น การแต่งตัวก็อาจจะมีส่วน แต่ที่แน่ ๆ ต้องสื่อสารให้รู้เรื่องว่าจะไปไหน ไปทำอะไรบ้าง เพื่อที่จะเอาตัวรอดในประเทศเขาได้ และการที่ไม่ค่อยได้ภาษาอังกฤษก็ทำให้เจ้าหน้าที่คิดว่าไม่ควรให้เข้าในประเทศ เพราะกลัวเอาตัวรอดไม่ได้ อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องชี้แจงชัดเจนคือ จำนวนเงินว่ามีเงินสดและเงินในการ์ดยังไงบ้าง
นอกจากนี้เธอก็ได้มาอธิบายเพิ่มเติมว่า เธอมีเอกสารที่พัก สถานที่พักจริงทุกอย่าง จ่ายเงินหมดแล้ว
