สาวนุ่งสั้น-เกาะอกจิ๋ว จุดพลุดอกไม้ไฟริมถนน คนขี่จักรยานมาแทบล้ม ชาวเน็ตจำได้เป็นสาวสเกตบอร์ดคนรู้จัก ก่อนโดนรวบตัว
วันที่ 5 ตุลาคม 2566 เว็บไซต์ Hk01 รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีคลิปวิดีโอของหญิงสาวรายหนึ่ง ถูกแชร์เป็นไวรัลที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดบนโซเชียลมีเดียของฮ่องกง ภายหลังจากเธอออกมาจุดพลุดอกไม้ไฟที่บริเวณริมถนนสาธารณะ จนสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่ชมอย่างมาก ก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอว่าเป็นคนที่รู้จักบนโซเชียลมีเดีย ทำให้เธอถูกตำรวจเข้าจับกุมในที่สุด
ตามรายงานเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตอนช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา บนทางเท้าด้านนอกตึกพักบนถนนในเขตหยวนหลง ของฮ่องกง หญิงสาวรายดังกล่าวสวมกางเกงขาสั้นกุด และเสื้อเกาะอกตัวจิ๋วสีขาว เดินถือพลุดอกไม้ไฟออกไปจุดอยู่ริมถนนอย่างสนุกสนาน รอบข้างมีคนถ่ายคลิปและหัวเราะขำขันชอบอกชอบใจ
ในขณะเดียวกัน ประกายไฟพุ่งออกมาจากแท่งดอกไม้ไฟและตกไปยังบริเวณถนน ซึ่งในตอนนั้นจะเห็นว่า มีคนคนหนึ่งกำลังขี่จักรยานมาที่ตรงนั้นพอดี เขาตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้านหน้า จึงได้รีบเบี่ยงจักรยานออกไปที่กลางถนนเพื่อหลีกเลี่ยงประกายดอกไม้ไฟที่เห็น
ภายหลังจากคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวถูกนำไปแชร์บนโลกออนไลน์ ก็กลายเป็นประเด็นร้อนแรง ผู้คนต่างพากันตำหนิพฤติกรรมของเธอ ทั้งนี้มีบางรายจำได้ว่าเธอคือใคร โดยเผยว่าเธอคือสาวที่รู้จักบนโซเชียลมีเดีย อินสตาแกรมของเธอมีผู้ติดตามราว 21,000 ฟอลโลเว่อร์ เธอมักจะอัปโหลดวิดีโอสั้น ๆ เกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง ซึ่งจุดเด่นก็คือจะชอบสวมชุดสั้นเซ็กซี่ลักษณะคล้ายในคลิปดังกล่าว และเล่นสเกตบอร์ด
ต่อมา วันที่ 3 ตุลาคม ทางตำรวจในพื้นที่ก็ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวจุดพลุดอกไม้ไฟในที่สาธารณะอย่างผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คน ภายหลังจากสืบสวนก็ได้เข้าจับกุม หญิงสาววัย 24 ปีรายนี้ พร้อมตั้งข้อหาใช้พลุหรือประทัดอย่างผิดกฎหมาย เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สิน ขณะนี้เธอกำลังอยู่ระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบสวน
ตามกฎหมายของฮ่องกง ดอกไม้ไฟและประทัดจัดเป็นวัตถุอันตราย ผู้ที่ผลิต จัดเก็บ ขนส่ง หรือใช้วัตถุอันตรายอย่างผิดกฎหมาย จะต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 12 เดือน และปรับ 200,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 944,000 บาท) ทั้งนี้ หากบุคคลใดจุดพลุดอกไม้ไฟอย่างไม่ตั้งใจ หรือประมาทเลินเล่อ จนก่อให้เกิดความเสียหายหรืออันตรายแก่ผู้อื่น จะต้องได้รับโทษสูงสุดจำคุก 3 เดือน และปรับ 2,000 ดอลลาร์ (ราว 9,400 บาท)
ขอบคุณข้อมูลจาก Hk01
วันที่ 5 ตุลาคม 2566 เว็บไซต์ Hk01 รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้มีคลิปวิดีโอของหญิงสาวรายหนึ่ง ถูกแชร์เป็นไวรัลที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดบนโซเชียลมีเดียของฮ่องกง ภายหลังจากเธอออกมาจุดพลุดอกไม้ไฟที่บริเวณริมถนนสาธารณะ จนสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ที่ชมอย่างมาก ก่อนที่จะมีการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเธอว่าเป็นคนที่รู้จักบนโซเชียลมีเดีย ทำให้เธอถูกตำรวจเข้าจับกุมในที่สุด
ตามรายงานเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตอนช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา บนทางเท้าด้านนอกตึกพักบนถนนในเขตหยวนหลง ของฮ่องกง หญิงสาวรายดังกล่าวสวมกางเกงขาสั้นกุด และเสื้อเกาะอกตัวจิ๋วสีขาว เดินถือพลุดอกไม้ไฟออกไปจุดอยู่ริมถนนอย่างสนุกสนาน รอบข้างมีคนถ่ายคลิปและหัวเราะขำขันชอบอกชอบใจ
ในขณะเดียวกัน ประกายไฟพุ่งออกมาจากแท่งดอกไม้ไฟและตกไปยังบริเวณถนน ซึ่งในตอนนั้นจะเห็นว่า มีคนคนหนึ่งกำลังขี่จักรยานมาที่ตรงนั้นพอดี เขาตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้านหน้า จึงได้รีบเบี่ยงจักรยานออกไปที่กลางถนนเพื่อหลีกเลี่ยงประกายดอกไม้ไฟที่เห็น
ภายหลังจากคลิปวิดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวถูกนำไปแชร์บนโลกออนไลน์ ก็กลายเป็นประเด็นร้อนแรง ผู้คนต่างพากันตำหนิพฤติกรรมของเธอ ทั้งนี้มีบางรายจำได้ว่าเธอคือใคร โดยเผยว่าเธอคือสาวที่รู้จักบนโซเชียลมีเดีย อินสตาแกรมของเธอมีผู้ติดตามราว 21,000 ฟอลโลเว่อร์ เธอมักจะอัปโหลดวิดีโอสั้น ๆ เกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง ซึ่งจุดเด่นก็คือจะชอบสวมชุดสั้นเซ็กซี่ลักษณะคล้ายในคลิปดังกล่าว และเล่นสเกตบอร์ด
ต่อมา วันที่ 3 ตุลาคม ทางตำรวจในพื้นที่ก็ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาวจุดพลุดอกไม้ไฟในที่สาธารณะอย่างผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คน ภายหลังจากสืบสวนก็ได้เข้าจับกุม หญิงสาววัย 24 ปีรายนี้ พร้อมตั้งข้อหาใช้พลุหรือประทัดอย่างผิดกฎหมาย เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สิน ขณะนี้เธอกำลังอยู่ระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบสวน
ตามกฎหมายของฮ่องกง ดอกไม้ไฟและประทัดจัดเป็นวัตถุอันตราย ผู้ที่ผลิต จัดเก็บ ขนส่ง หรือใช้วัตถุอันตรายอย่างผิดกฎหมาย จะต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด 12 เดือน และปรับ 200,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 944,000 บาท) ทั้งนี้ หากบุคคลใดจุดพลุดอกไม้ไฟอย่างไม่ตั้งใจ หรือประมาทเลินเล่อ จนก่อให้เกิดความเสียหายหรืออันตรายแก่ผู้อื่น จะต้องได้รับโทษสูงสุดจำคุก 3 เดือน และปรับ 2,000 ดอลลาร์ (ราว 9,400 บาท)
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Hk01
