แรงงานไทย เล่านาทีกลุ่มฮามาสบุกยิง - เผาแคมป์คนงาน นาทีเป็นตายต้องตัดสินใจ จะอยู่หรือไปก็เสี่ยงตาย ตัดสินใจวิ่งฝ่ากระสุน นอนหมอบในป่า
วันที่ 14 ตุลาคม 2566 รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 รายงานว่า นายวีระพล หลับจันทร์ แรงงานไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย ได้บอกเล่าประสบการณ์เลวร้ายที่สุดในชีวิต จากการบุกโจมตีของกลุ่มฮามาส โดยเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกับกลุ่มเพื่อนอยู่ในแคมป์คนงาน ซึ่งมีลักษณะเป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่ดัดแปลงเป็นห้องพัก ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น แต่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะปกติก็มักจะมีเสียงปืนและระเบิดดังอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็ไม่เคยมีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
แต่จากนั้นไม่นาน มีการยิงปืนเข้ามาในตู้คอนเทนเนอร์ ทุกคนจึงแอบลงไปใต้เตียง ได้ยินเสียงคนข้างนอกบอกให้วิ่ง และมีคนปาระเบิดใส่ในซอกห้อง ตนที่หลบอยู่ในห้องก็คอยฟังเสียงสัญญาณว่าคนที่อยู่ข้างนอกจะทำอะไร นาทีนั้น รู้แล้วว่า เสี่ยงตายแน่ ๆ แต่จากนั้นได้ยิงเสียงคล้ายมีการเทราดน้ำบางอย่างบนหลังคา จากนั้นก็มีเขม่าควันและเปลวไฟ ทำให้รู้ว่าเขาเผาแคมป์ด้วย
ตอนนั้นทุกคนมุดอยู่ใต้เตียงและมองหน้ากัน ตัดสินใจว่าหากออกไปข้างนอกก็ถูกยิง แต่หากยังอยู่ข้างในก็ถูกไฟคลอกเสียชีวิตเหมือนกัน จึงตัดสินใจที่จะวิ่งออกไปหากถูกยิงก็ยังเป็นศพที่พอจะตามหาได้ แต่หากอยู่ภายในห้องพักก็จะถูกไฟคลอกอาจจะไม่รู้ว่าเป็นใคร
ทุกคนพยายามวิ่งหลบกระสุนปืนเข้าไปยังป่าหลังสวนส้ม โดยนอนหมอบราบกับพื้น ห้ามพูดห้ามคุย ไม่กระดุกกระดิก หมอบกันอยู่แบบนั้นทั้งคืน 18.00 น. วันเกิดเหตุ จนถึง 11.00 น. วันต่อมา จึงมีคนไทยด้วยกันมาเดินตามหา และถามว่าใช่คนไทยหรือไม่ จึงตอบไปว่าใช่ แล้วก็มีการช่วยเหลือกัน
แรงงานไทยผู้รอดชีวิต ยังเปิดภาพให้ทีมข่าวดูร่องรอยความเสียหาย บริเวณที่พักซึ่งถูกเผาทำลาย ตู้แช่ขนาดใหญ่ที่เก็บของไม่หลงเหลือสภาพ ถูกทำลายจนหมด
ตนรอดชีวิตมาในครั้งนี้และได้รับการช่วยเหลือจากทางการไทยกลับถึงประเทศ จากนี้จะไม่ขอเดินทางกลับไปทำงานที่นั่นอีก เพราะไม่รู้ว่าชะตากรรมจะเป็นอย่างไร ในส่วนสภาพจิตใจก็ยังหวาดผวา ระหว่างนั่งเครื่องบินมาก็คอยมองท้องฟ้า กลัวว่าจะมีจรวดหรือกระสุน หรือระเบิดปาเข้ามาตลอดเวลา และเชื่อว่าเมื่อได้เจอครอบครัว อาการหวาดผวาเหล่านี้จะหมดไป
ทั้งนี้ ตนอยากขอบคุณทางการไทยที่ช่วยเหลือ และอยากขอร้องให้รีบช่วยเพื่อนชาวไทยด้วยกันให้กลับเร็วที่สุด เพราะตอนนี้อันตรายมาก
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์
วันที่ 14 ตุลาคม 2566 รายการเรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ ทางช่อง 3 รายงานว่า นายวีระพล หลับจันทร์ แรงงานไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย ได้บอกเล่าประสบการณ์เลวร้ายที่สุดในชีวิต จากการบุกโจมตีของกลุ่มฮามาส โดยเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ตนกับกลุ่มเพื่อนอยู่ในแคมป์คนงาน ซึ่งมีลักษณะเป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่ดัดแปลงเป็นห้องพัก ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น แต่ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะปกติก็มักจะมีเสียงปืนและระเบิดดังอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็ไม่เคยมีการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
แต่จากนั้นไม่นาน มีการยิงปืนเข้ามาในตู้คอนเทนเนอร์ ทุกคนจึงแอบลงไปใต้เตียง ได้ยินเสียงคนข้างนอกบอกให้วิ่ง และมีคนปาระเบิดใส่ในซอกห้อง ตนที่หลบอยู่ในห้องก็คอยฟังเสียงสัญญาณว่าคนที่อยู่ข้างนอกจะทำอะไร นาทีนั้น รู้แล้วว่า เสี่ยงตายแน่ ๆ แต่จากนั้นได้ยิงเสียงคล้ายมีการเทราดน้ำบางอย่างบนหลังคา จากนั้นก็มีเขม่าควันและเปลวไฟ ทำให้รู้ว่าเขาเผาแคมป์ด้วย
ตอนนั้นทุกคนมุดอยู่ใต้เตียงและมองหน้ากัน ตัดสินใจว่าหากออกไปข้างนอกก็ถูกยิง แต่หากยังอยู่ข้างในก็ถูกไฟคลอกเสียชีวิตเหมือนกัน จึงตัดสินใจที่จะวิ่งออกไปหากถูกยิงก็ยังเป็นศพที่พอจะตามหาได้ แต่หากอยู่ภายในห้องพักก็จะถูกไฟคลอกอาจจะไม่รู้ว่าเป็นใคร
ทุกคนพยายามวิ่งหลบกระสุนปืนเข้าไปยังป่าหลังสวนส้ม โดยนอนหมอบราบกับพื้น ห้ามพูดห้ามคุย ไม่กระดุกกระดิก หมอบกันอยู่แบบนั้นทั้งคืน 18.00 น. วันเกิดเหตุ จนถึง 11.00 น. วันต่อมา จึงมีคนไทยด้วยกันมาเดินตามหา และถามว่าใช่คนไทยหรือไม่ จึงตอบไปว่าใช่ แล้วก็มีการช่วยเหลือกัน
แรงงานไทยผู้รอดชีวิต ยังเปิดภาพให้ทีมข่าวดูร่องรอยความเสียหาย บริเวณที่พักซึ่งถูกเผาทำลาย ตู้แช่ขนาดใหญ่ที่เก็บของไม่หลงเหลือสภาพ ถูกทำลายจนหมด
ตนรอดชีวิตมาในครั้งนี้และได้รับการช่วยเหลือจากทางการไทยกลับถึงประเทศ จากนี้จะไม่ขอเดินทางกลับไปทำงานที่นั่นอีก เพราะไม่รู้ว่าชะตากรรมจะเป็นอย่างไร ในส่วนสภาพจิตใจก็ยังหวาดผวา ระหว่างนั่งเครื่องบินมาก็คอยมองท้องฟ้า กลัวว่าจะมีจรวดหรือกระสุน หรือระเบิดปาเข้ามาตลอดเวลา และเชื่อว่าเมื่อได้เจอครอบครัว อาการหวาดผวาเหล่านี้จะหมดไป
ทั้งนี้ ตนอยากขอบคุณทางการไทยที่ช่วยเหลือ และอยากขอร้องให้รีบช่วยเพื่อนชาวไทยด้วยกันให้กลับเร็วที่สุด เพราะตอนนี้อันตรายมาก