ทีมงานสัปเหร่อ ร้องไห้หนักมาก กลางรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ พูดถึงทุกขั้นตอนการทำงาน ด้านต้องเต ผู้กำกับและเขียนบท ถึงกับร้องไห้คุมตัวเองไม่ไหว
ภาพจากรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ในตอนนี้ต้องบอกว่า ภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อ ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีหนังเรื่องไหนทำได้มาก่อน จากการเป็นภาพยนตร์ในจักวาลไทบ้าน พูดอีสานทั้งเรื่อง แต่โดนใจผู้ชม ที่นอกจากจะให้ความสุขยังให้แง่คิดในเรื่องความตาย และคุณค่าของการใช้ชีวิต จนตอนนี้รายได้ของภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อ ทะลุ 400 ล้านไปแล้ว
ล่าสุด นักแสดงในเรื่องสัปเหร่อ ได้แก่ ต้องเต ธิติ, เน็ค-นฤพล รับบทเจิด, ตาต้า ชาติชาย ที่รับบท บักเซียง, สัปเหร่อศักดิ์ และแพมมี่-สุธิดา นางเอกรับบทผีใบข้าว ได้มาร่วมพูดคุยในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ โดยมีช่วงหนึ่งที่ทำเอาทั้งทีมงานทั้งหมดถึงกับร้องไห้ ให้กับความสำเร็จเกินความคาดหมายของหนังเรื่องนี้ด้วย
ภาพจากรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ทั้งนี้ ต้องเตบอกว่า ในกระบวนการทำบทของเรื่อง สัปเหร่อ ตนก็ต้องทดลองถอดจิตตามวิธีที่ศึกษามา แต่เมื่อถามว่าเจอสิ่งที่คนอื่นเจอไหม ต้องเตบอกว่า มันอาจจะเป็นการหลับแล้วฝันไป จิตเราอาจจะเพ่งเกินไปจนฝัน มันไม่ได้เจอสถานที่อลังการแบบที่ว่ากัน แต่เป็นสถานที่จริงที่มันเรียบ ๆ ต้องเตเป็นคนที่ทำวิจัยทุกอย่างเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ และได้เอามาเขียนและกำกับลงไป
ตาต้าร์ ชาติชาย บอกว่า ต้องเตเป็นคนที่เอาเรื่องราวจากความฝันมาทำงาน เช่น ทำเอ็มวีของปาล์มมี่ เขาก็เอาเรื่องราวจากในฝันมาทำ นึกอะไรไม่ออกก็นอนแล้วฝัน แล้วเอาสิ่งที่อยู่ในฝันมาทำ
ส่วนคำคมของหนังที่ว่า "ความตายฆ่าเราได้ครั้งเดียว แต่ความรักฆ่าเราได้เรื่อย ๆ จนกว่าเราจะตาย" ต้องเตบอกว่า ตนเอามาจากเฟซบุ๊กและเอามาแต่งต่อ
ต้องเต เน็ค ตาต้า แพมมี่ ร้องไห้ ตอนแรกแค่คิดว่าไม่เจ๊งก็พอ ทำหนังในแบบของตัวเอง แม้รู้ว่าคนชอบยังไง
ในขณะเดียวกัน ช่วงหนึ่งทั้งทีมงานของเรื่องสัปเหร่อ ทั้ง ต้องเต ตาต้า เน็ต และแพมมี่ ต่างร้องไห้ออกมากลางรายการ จากนี้ชีวิตของแต่ละคนจะไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะต้องเตที่ร้องไห้ออกมาอย่างหนักจนคุมตัวเองไม่ไหว
แพมมี่ ในบทใบข้าว บอกว่า ตนรอมา 7 ปีในบทใบข้าว กว่าจะมาเล่นและหนังประสบความสำเร็จ ตนก็ต้องขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่ให้การต้อนรับพวกเราอย่างดี
ด้านต้องเต บอกว่า ตั้งแต่ภาคแรกจนภาคนี้ อย่างภาคแรกก็เป็นปรากฏการณ์หนังอีสานแท้ ๆ และต้องเตก็เคยบอกว่าอยากให้ตนได้สร้างหนังอีสานที่ทำรายได้มากที่สุด ซึ่งสำหรับต้องเตแล้ว นี่เหมือนกับรางวัลตอบแทนความเหนื่อยยาก ความสำเร็จนี้ไม่ใช่แค่ของเรา แต่เป็นของทุกคน เราไม่รู้ว่าจะทำหนังทำไมถ้าไม่มีคนดู แต่นี่มีคนชอบเยอะมาก ตอนแรกแค่คิดว่าไม่เจ๊งก็พอแล้ว แต่นี่คือ คนพร้อมที่จะสนับสนุน (ต้องเตร้องไห้) ในตอนแรกคิดว่า ทีมงานจะทัวร์โรงภาพยนตร์แค่อีสานกับกรุงเทพฯ อีกนิดหน่อย แต่กระแสที่มีคนรอทั่วทุกภาค เราก็ต้องไป ซึ่งปรากฏารณ์นี้เริ่มก่อนที่อีสาน คนดูติดแถวหน้าเลย
ด้านตาต้าเสริมว่าบอกว่า ตนดีใจแทนต้องเต (ตาต้าร้องไห้) ต้องเตแบกทุกความกดดันไว้คนเดียว ต้องเตทำงาน คิดและอยู่กับตัวเองมาระยะใหญ่ ๆ และถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ตนก็อยากให้กำลังใจเขามากกว่านี้ เราไม่คิดว่าเราจะเดินทางมาถึงจุดนี้ ตนดีใจแทนต้องเตที่มีคนรักเขามานานมาก
ภาพจากรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ภาพจากรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ภาพจากรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ภาพจากรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ภาพจากรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ในตอนนี้ต้องบอกว่า ภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อ ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีหนังเรื่องไหนทำได้มาก่อน จากการเป็นภาพยนตร์ในจักวาลไทบ้าน พูดอีสานทั้งเรื่อง แต่โดนใจผู้ชม ที่นอกจากจะให้ความสุขยังให้แง่คิดในเรื่องความตาย และคุณค่าของการใช้ชีวิต จนตอนนี้รายได้ของภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อ ทะลุ 400 ล้านไปแล้ว
ล่าสุด นักแสดงในเรื่องสัปเหร่อ ได้แก่ ต้องเต ธิติ, เน็ค-นฤพล รับบทเจิด, ตาต้า ชาติชาย ที่รับบท บักเซียง, สัปเหร่อศักดิ์ และแพมมี่-สุธิดา นางเอกรับบทผีใบข้าว ได้มาร่วมพูดคุยในรายการ กรรมกรข่าว คุยนอกจอ โดยมีช่วงหนึ่งที่ทำเอาทั้งทีมงานทั้งหมดถึงกับร้องไห้ ให้กับความสำเร็จเกินความคาดหมายของหนังเรื่องนี้ด้วย
ภาพจากรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ทั้งนี้ ต้องเตบอกว่า ในกระบวนการทำบทของเรื่อง สัปเหร่อ ตนก็ต้องทดลองถอดจิตตามวิธีที่ศึกษามา แต่เมื่อถามว่าเจอสิ่งที่คนอื่นเจอไหม ต้องเตบอกว่า มันอาจจะเป็นการหลับแล้วฝันไป จิตเราอาจจะเพ่งเกินไปจนฝัน มันไม่ได้เจอสถานที่อลังการแบบที่ว่ากัน แต่เป็นสถานที่จริงที่มันเรียบ ๆ ต้องเตเป็นคนที่ทำวิจัยทุกอย่างเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ และได้เอามาเขียนและกำกับลงไป
ตาต้าร์ ชาติชาย บอกว่า ต้องเตเป็นคนที่เอาเรื่องราวจากความฝันมาทำงาน เช่น ทำเอ็มวีของปาล์มมี่ เขาก็เอาเรื่องราวจากในฝันมาทำ นึกอะไรไม่ออกก็นอนแล้วฝัน แล้วเอาสิ่งที่อยู่ในฝันมาทำ
ส่วนคำคมของหนังที่ว่า "ความตายฆ่าเราได้ครั้งเดียว แต่ความรักฆ่าเราได้เรื่อย ๆ จนกว่าเราจะตาย" ต้องเตบอกว่า ตนเอามาจากเฟซบุ๊กและเอามาแต่งต่อ
ต้องเต เน็ค ตาต้า แพมมี่ ร้องไห้ ตอนแรกแค่คิดว่าไม่เจ๊งก็พอ ทำหนังในแบบของตัวเอง แม้รู้ว่าคนชอบยังไง
ในขณะเดียวกัน ช่วงหนึ่งทั้งทีมงานของเรื่องสัปเหร่อ ทั้ง ต้องเต ตาต้า เน็ต และแพมมี่ ต่างร้องไห้ออกมากลางรายการ จากนี้ชีวิตของแต่ละคนจะไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะต้องเตที่ร้องไห้ออกมาอย่างหนักจนคุมตัวเองไม่ไหว
แพมมี่ ในบทใบข้าว บอกว่า ตนรอมา 7 ปีในบทใบข้าว กว่าจะมาเล่นและหนังประสบความสำเร็จ ตนก็ต้องขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่ให้การต้อนรับพวกเราอย่างดี
ด้านต้องเต บอกว่า ตั้งแต่ภาคแรกจนภาคนี้ อย่างภาคแรกก็เป็นปรากฏการณ์หนังอีสานแท้ ๆ และต้องเตก็เคยบอกว่าอยากให้ตนได้สร้างหนังอีสานที่ทำรายได้มากที่สุด ซึ่งสำหรับต้องเตแล้ว นี่เหมือนกับรางวัลตอบแทนความเหนื่อยยาก ความสำเร็จนี้ไม่ใช่แค่ของเรา แต่เป็นของทุกคน เราไม่รู้ว่าจะทำหนังทำไมถ้าไม่มีคนดู แต่นี่มีคนชอบเยอะมาก ตอนแรกแค่คิดว่าไม่เจ๊งก็พอแล้ว แต่นี่คือ คนพร้อมที่จะสนับสนุน (ต้องเตร้องไห้) ในตอนแรกคิดว่า ทีมงานจะทัวร์โรงภาพยนตร์แค่อีสานกับกรุงเทพฯ อีกนิดหน่อย แต่กระแสที่มีคนรอทั่วทุกภาค เราก็ต้องไป ซึ่งปรากฏารณ์นี้เริ่มก่อนที่อีสาน คนดูติดแถวหน้าเลย
ด้านตาต้าเสริมว่าบอกว่า ตนดีใจแทนต้องเต (ตาต้าร้องไห้) ต้องเตแบกทุกความกดดันไว้คนเดียว ต้องเตทำงาน คิดและอยู่กับตัวเองมาระยะใหญ่ ๆ และถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ตนก็อยากให้กำลังใจเขามากกว่านี้ เราไม่คิดว่าเราจะเดินทางมาถึงจุดนี้ ตนดีใจแทนต้องเตที่มีคนรักเขามานานมาก
ภาพจากรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ต้องเตบอกว่า
ตอนที่ทำเราไม่ได้คิดถึงคนรอบข้างเลย เราดื้อที่จะทำเอง
เราดื้อที่เป็นตัวเอง เรารู้ว่าทำอย่างไรแฟนคลับถึงจะชอบ
แต่เราต้องการให้เป็นตัวเอง ถ้ามันเจ๊งขึ้นมาคือแย่เลย
ถ้าโดนขึ้นมาก็โดนคนเดียว อย่างเงินที่ได้มา
แม้จะเป็นเงินที่นายทุนให้มาอยู่แล้วเพื่อสร้างหนัง
แต่ตนรู้สึกว่าต้องหาเงินส่วนนี้มารับผิดชอบ เพราะเราทำเขาเจ๊ง
ซึ่งกว่าจะมาถึงวันนี้ก็กดดันมาก ตาต้าก็จะถามตลอดว่า หนังมันดีไหม
หนังมันได้บ่อ้าย ต้องเตก็บอกว่าหนังมันได้อยู่
เพื่อให้ต้องเตมั่นใจในงานของตัวเอง
ด้านเน็คบอกว่า ตนก็ไม่คิดว่าตอนแรกจะได้รับบทมาเยอะขนาดนี้ พอบทมันเยอะก็แสดงว่ามีคนคาดหวังและรอ ตนรู้สึกว่า ถ้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล ถ้ามันเจ๊งหรือไปต่อไม่ได้ มันก็ความผิดของตน เล่นแรก ๆ ก็ไม่เป็นธรรมชาติเลยเพราะเกร็ง ซึ่งต้องเตก็เคยบอกเน็คว่า "อย่ามาดหลาย" (อย่าเก๊ก) ซึ่งในคำอีสานถือว่าแรงมาก เหมือนกับด่าว่าหยิ่ง หัวสูง และคนในกองมันเยอะ เล่นหลายเทคไม่ผ่าน จนทำให้เน็คถึงกับไปแอบร้องไห้ แต่สุดท้ายเมื่อได้เล่นไป เน็คก็เป็นธรรมชาติมากขึ้น
สุดท้าย ต้องเตได้ขอบคุณทุกคนที่ช่วยซัพพอร์ตและให้การต้อนรับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างดี จากนี้ก็จะเอาแรงกดดันจากเรื่องนี้มาพัฒนาตัวเองให้ดี ๆ ยิ่งขึ้นไป
ด้านเน็คบอกว่า ตนก็ไม่คิดว่าตอนแรกจะได้รับบทมาเยอะขนาดนี้ พอบทมันเยอะก็แสดงว่ามีคนคาดหวังและรอ ตนรู้สึกว่า ถ้าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล ถ้ามันเจ๊งหรือไปต่อไม่ได้ มันก็ความผิดของตน เล่นแรก ๆ ก็ไม่เป็นธรรมชาติเลยเพราะเกร็ง ซึ่งต้องเตก็เคยบอกเน็คว่า "อย่ามาดหลาย" (อย่าเก๊ก) ซึ่งในคำอีสานถือว่าแรงมาก เหมือนกับด่าว่าหยิ่ง หัวสูง และคนในกองมันเยอะ เล่นหลายเทคไม่ผ่าน จนทำให้เน็คถึงกับไปแอบร้องไห้ แต่สุดท้ายเมื่อได้เล่นไป เน็คก็เป็นธรรมชาติมากขึ้น
สุดท้าย ต้องเตได้ขอบคุณทุกคนที่ช่วยซัพพอร์ตและให้การต้อนรับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างดี จากนี้ก็จะเอาแรงกดดันจากเรื่องนี้มาพัฒนาตัวเองให้ดี ๆ ยิ่งขึ้นไป
ภาพจากรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ภาพจากรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ภาพจากรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ