ลูกค้ารถยนต์ไฟฟ้า EV ยี่ห้อดัง เจอหนูแทะฝาครอบแบตฯ เจอศูนย์คิดค่าซ่อม 620,000 บาท ชาวเน็ตดราม่าสนั่น
![รถไฟฟ้า EV]( "รถไฟฟ้า EV")
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
วันที่ 23 ตุลาคม 2566 เพจเฟซบุ๊ก Blink Drive ออกมาแชร์ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นหนึ่ง หลังฝาครอบแบตเตอรี่ได้รับความเสียหายจากการถูกหนูกัดแทะเป็นรูโหว่เล็กน้อย แต่เมื่อส่งเคลมไปพบว่าทางศูนย์คิดค่าซ่อมถึง 6 แสนบาท โดยในใบเคลมประกันระบุชัดว่าวัสดุส่วนที่เสียหายคือพลาสติก
โพสต์ดังกล่าวระบุว่า "แผลนี้ราคา 600,000 บาทนะครับ ถึงคุณจะเคลมประกันได้ 100% ซึ่งเอาจริง ๆ มันไม่ควรจะต้องเคลมแพงขนาดนั้นก็เถอะ คุณก็ต้องรู้เอาไว้ว่า เขาจะใช้ข้ออ้างนี้ในการขึ้นเบี้ยในปีหน้าโดยให้เหตุผลว่า แบตฯ EV โดนหนูแทะเยอะมาก (เหมารวม) ทำให้เราเสียเงินค่าเปลี่ยนแบตฯ ไปเยอะ
อาจจะทำให้เราต้องขึ้นเบี้ยประกันไปถึงปี 2025 (อะไรก็ว่าไป) คุณคิดว่าเคสนี้มันผิดที่ user ที่จอดรถให้หนูแทะ (ฝาครอบพลาสติกของ) แบตฯ หรือมันผิดที่การผลิตครับ ? เพราะเท่าที่ดูมาคือรถ EV ส่วนใหญ่ (99%) บนโลกไม่ออกแบบฝาครอบแบตฯ เป็นพลาสติกนะครับ"
ปรากฏว่า หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป มีผู้คนเข้ามาวิจารณ์ถึงประเด็นนี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะประเด็นที่ค่ายรถยนต์เลือกใช้ถึงวัสดุที่ไม่ทนทานมาครอบแบตฯ จนกระทั่งเกิดผลกระทบต่อผู้ใช้งานง่ายเกินไป มองว่าค่ายรถยนต์ควรปรับเปลี่ยนวัสดุเป็นฝาเหล็กเหมือนมาตรฐานทั่วไปเพื่อแก้ปัญหานี้
นอกจากนี้หลายคนมองว่าหากตรวจสอบแล้วหากแบตฯ ไม่เสียหาย ก็ควรจะเปลี่ยนแค่ฝาครอบก็เพียงพอหรือไม่ เพราะการคิดค่าซ่อมราคาเท่านี้อาจส่งผลให้ผู้ใช้รถเสี่ยงต้องจ่ายเบี้ยประกันรถสูงขึ้นมากในอนาคต
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
วันที่ 23 ตุลาคม 2566 เพจเฟซบุ๊ก Blink Drive ออกมาแชร์ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นหนึ่ง หลังฝาครอบแบตเตอรี่ได้รับความเสียหายจากการถูกหนูกัดแทะเป็นรูโหว่เล็กน้อย แต่เมื่อส่งเคลมไปพบว่าทางศูนย์คิดค่าซ่อมถึง 6 แสนบาท โดยในใบเคลมประกันระบุชัดว่าวัสดุส่วนที่เสียหายคือพลาสติก
โพสต์ดังกล่าวระบุว่า "แผลนี้ราคา 600,000 บาทนะครับ ถึงคุณจะเคลมประกันได้ 100% ซึ่งเอาจริง ๆ มันไม่ควรจะต้องเคลมแพงขนาดนั้นก็เถอะ คุณก็ต้องรู้เอาไว้ว่า เขาจะใช้ข้ออ้างนี้ในการขึ้นเบี้ยในปีหน้าโดยให้เหตุผลว่า แบตฯ EV โดนหนูแทะเยอะมาก (เหมารวม) ทำให้เราเสียเงินค่าเปลี่ยนแบตฯ ไปเยอะ
อาจจะทำให้เราต้องขึ้นเบี้ยประกันไปถึงปี 2025 (อะไรก็ว่าไป) คุณคิดว่าเคสนี้มันผิดที่ user ที่จอดรถให้หนูแทะ (ฝาครอบพลาสติกของ) แบตฯ หรือมันผิดที่การผลิตครับ ? เพราะเท่าที่ดูมาคือรถ EV ส่วนใหญ่ (99%) บนโลกไม่ออกแบบฝาครอบแบตฯ เป็นพลาสติกนะครับ"
ปรากฏว่า หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป มีผู้คนเข้ามาวิจารณ์ถึงประเด็นนี้เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะประเด็นที่ค่ายรถยนต์เลือกใช้ถึงวัสดุที่ไม่ทนทานมาครอบแบตฯ จนกระทั่งเกิดผลกระทบต่อผู้ใช้งานง่ายเกินไป มองว่าค่ายรถยนต์ควรปรับเปลี่ยนวัสดุเป็นฝาเหล็กเหมือนมาตรฐานทั่วไปเพื่อแก้ปัญหานี้
นอกจากนี้หลายคนมองว่าหากตรวจสอบแล้วหากแบตฯ ไม่เสียหาย ก็ควรจะเปลี่ยนแค่ฝาครอบก็เพียงพอหรือไม่ เพราะการคิดค่าซ่อมราคาเท่านี้อาจส่งผลให้ผู้ใช้รถเสี่ยงต้องจ่ายเบี้ยประกันรถสูงขึ้นมากในอนาคต
