ยิ่งกว่าซีรีส์ นักกีฬาโอลิมปิกจ่อแต่งงานทายาทธุรกิจดัง โป๊ะถูกรุมแฉ ช็อกเขาไม่ใช่ผู้ชาย !

 
            นักกีฬาฟันดาบโอลิมปิก เพิ่งช้ำรักหย่าสามี ได้เจอรักใหม่ทายาทกลุ่มทุนดัง รักหวานชื่นเตรียมแต่งงาน ก่อนความจริงเปิดเผยจนจบไม่สวย

            เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 เว็บไซต์ KoreaJoongAngDaily รายงานประเด็นที่กำลังร้อนแรงและเป็นที่พูดถึงในเกาหลีใต้ กรณี นัม ฮยอน-ฮี อดีตนักกีฬาฟันดาบชื่อดัง เมื่อไม่นานนี้ทางครอบครัวของเธอแจ้งเอาผิดคู่หมั้นในข้อหาสะกดรอยตาม หลังจับได้ว่าอีกฝ่ายมีพฤติกรรมหลอกลวงเพียบ ทั้งยังพบว่าคนที่เป็นว่าที่สามี แท้จริงแล้วไม่ได้มีเพศชายแต่อย่างใด

            นัม ฮยอน-ฮี ปัจจุบันอายุ 42 ปี ก่อนหน้านี้เธอเพิ่งยุติเส้นทางรัก ตัดสินใจแยกทางกับ กง ฮโยซอก นักกีฬาโอลิมปิกหนุ่ม เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังแต่งงานกันมากว่า 12 ปี โดยเธอกับอดีตสามีมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ก่อนที่ต่อมา เธอจะมาพบรักครั้งใหม่กับ ชุน ชอง-โจ วัย 27 ปี จนกระทั่งความรักสุกงอมและเตรียมจะแต่งงานกัน แม้รักครั้งนี้ทั้งคู่จะอายุห่างกันถึง 15 ปีก็ตาม

            ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก หลังทั้งคู่ตัดสินใจเปิดใจกับนิตยสารชื่อดังเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดย นัม ฮยอน-ฮี เผยว่า เธอนั้นพบกับอีกฝ่ายเป็นครั้งแรกที่โรงเรียนฟันดาบของเธอ โดยที่ ชุน ชอง-โจ เดินทางมาพร้อมกับกลุ่มบอดี้การ์ด เพื่อลงทะเบียนเรียนฟันดาบ
            รายงานระบุว่า ชุน ชอง-โจ แนะนำตัวกับ นัม ฮยอน-ฮี ว่าเป็นลูกชายนอกกฎหมายของ ฟิลิป ชุน ประธานพาราไดส์ กรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโรงแรมและคาสิโน ซึ่งเขาถือเป็นทายาทรุ่นที่สามของตระกูล ส่วนดีกรีส่วนตัวนั้นก็เคยเป็นนักขี่ม้าระดับอาชีพ เคยชนะการแข่งขันระดับนานาชาติมาหลายครั้ง พร้อมอ้างด้วยว่า ช่วงหนึ่งต้องออกจากการอยู่ที่เกาหลีไปเนื่องจากได้รับอาการบาดเจ็บขณะมุ่งฝึกซ้อมเข้าเอกการขี่ม้าเพื่อเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก

            ปรากฏว่า หลังจากที่บทความนี้ถูกตีพิมพ์ กลับมีข้อมูลโต้แย้งออกมาจากผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยข้อมูลสำคัญคงหนีไม่พ้นเรื่องที่ ชุน ชอง-โจ แท้จริงแล้วไม่ใช่ผู้ชายแต่เป็นผู้หญิง เธอนั้น เติบโตที่เมืองคังฮวา อินชอน เธอเคยเข้าเรียนที่โรงเรียนอาชีวศึกษาขั้นสูงด้านการขี่ม้า ในเมืองนัมวอน จ.ช็อลลาใต้ แต่ก็ลาออกไปหลังเรียนแค่เพียงปีแรก

            นอกจากนี้ยังพบว่า ชุน ชอง-โจ เคยมีคดีข้อหาฉ้อโกง 2 กระทง จำคุก 15 เดือน ในปี 2563 และ 6 เดือน ในปี 2564 ซึ่งในแต่ละเคสล้วนเป็นกรณีที่ ชุน ชอง-โจ ใช้ความรักในการลวงผู้เสียหาย ครั้งหนึ่งไม่ได้ปิดบังว่าเป็นหญิง ส่วนอีกครั้งปลอมตัวตนว่าเป็นผู้ชาย โดยมีพฤติการณ์คือ การยืมเงินโดยไม่มีความตั้งใจที่จะชดใช้คืน รวมทั้งยังเคยหลอกผู้เสียหายให้หลงเชื่อว่าเป็นทายาทของกลุ่มพาราไดส์ กรุ๊ป มาแล้วเช่นกัน

            ชุน ชอง-โจ ถูกกล่าวหาว่าโกงเงินจำนวนมากจากเหยื่อหลายสิบราย โดยความเสียหายส่วนใหญ่ล้วนมาจากการที่เจ้าตัวหลอกลวงให้หลงเชื่อว่ากำลังจะแต่งงานและใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ซึ่งมีเคสหนึ่งที่ ชุน ชอง-โจ เข้าหาผู้เสียหายด้วยการอ้างตัวเป็นผู้ชายและฉ้อโกงเงินไปราว 51,541 เหรียญ (ราว1.8 ล้านบาท) ด้วยการลวงว่า เมื่อเจ้าตัวได้กลับไปทำธุรกิจของครอบครัว จะทำการแต่งตั้งฝ่ายหญิงให้เข้ามาเป็นผู้ช่วย ซึ่งขัดแย้งจากข้อมูลของการสืบสวน ซึ่งไม่พบว่าเจ้าตัวมีความสัมพันธ์กับกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ดังกล่าวแต่อย่างใด

            หลังกระแสข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ไป ในช่วงแรก นัม ฮยอน-ฮี ยังมีท่าทีปกป้อง ชุน ชอง-โจ และยังไม่เปลี่ยนแปลงเรื่องการตัดสินใจในการคบหาและจะแต่งงานกับอีกฝ่าย มองว่าข่าวที่ออกมานั้นมาจากกลุ่มคนที่มีเจตนาไม่ดี ส่วนฝ่าย ชุน ชอง-โจ ก็ยังประกาศบนโซเชียลว่า จะดำเนินการทางกฎหมายกับคนที่ออกมาใส่ร้าย พร้อมยังบอกว่า เมื่อถึงเวลาความจริงก็จะปรากฏเอง  

            รายงานระบุว่า นัม ฮยอน-ฮี รู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อของ ชุน ชอง-โจ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเธอนั้นได้รับข้อมูลโดยตรงจากกลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อซึ่งเข้ามาให้ข้อมูลถึงที่บ้านของเธอ โดยเฉพาะเรื่อง ชุน ชอง-โจ อ้างชื่อของเธอเพื่อหลอกลวงนักลงทุน ส่งผลให้ผู้คนต่างหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ  


            ขณะเดียวกัน นัม ฮยอน-ฮี เพิ่งพบความจริงด้วยว่า ชุน ชอง-โจ หลอกให้เธอเข้าใจผิดด้วยว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ ด้วยการดัดแปลงผลทดสอบการตั้งครรภ์ ส่วนเรื่องเพศที่อีกฝ่ายอ้างว่าเป็นชายนั้น เธอเชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นชายข้ามเพศที่ผ่านการผ่าตัดแปลงเพศ โดยพบว่าเจ้าตัวมีบัตรประจำตัว 2 ใบ ข้อมูลใบหนึ่งจดทะเบียนเป็นผู้ชาย และอีกใบเป็นผู้หญิง

            สื่อเผยว่า นัม ฮยอน-ฮี ตัดสินใจเลิกรากับ ชุน ชอง-โจ ย้ายออกจากบ้านพักในกรุงโซลและกลับไปพักอยู่กับครอบครัวเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม แต่อีกฝ่ายก็ยังตามราวีไม่เลิก ด้วยการตะโกนหน้าประตูซ้ำแล้วซ้ำเล่าและกดกริ่งที่ทางเข้าบ้านของแม่ฝ่ายหญิงในย่านซองนัม จังหวัดคยองกี ในเวลาราว 01.00 น. ทำให้ครอบครัวของ นัม ฮยอน-ฮี ตัดสินใจแจ้งตำรวจว่าอีกฝ่ายพยายามบุกเข้ามา ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกเชิญตัวไปที่โรงพัก

             ชุน ชอง-โจ ได้รับการปล่อยตัวจากการควบคุมตัวของในช่วงเช้าวันต่อมา โดยมีคำสั่งจำกัดไม่ให้เข้าใกล้ นัม ฮยอน-ฮี  ภายในระยะ 100 เมตร และห้ามการสื่อสารทั้งหมด รวมถึงการโทร. และส่งข้อความ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังมอบอุปกรณ์ให้ นัม ฮยอน-ฮี ให้สามารถกดเพื่อแจ้งเตือนถึงตำรวจได้ทันทีหาก ชุน ชอง-โจ พยายามจะเข้ามาทำร้าย โดยตำรวจยืนยันว่า จากประวัติแล้วเจ้าตัวเป็นผู้หญิงจริง และมีเคยมีคดีติดตัวกว่า 10 คดี

            ต่อมา พาราไดส์ กรุ๊ป ได้แถลงเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา ระบุว่า ข้อกล่าวหาและข่าวลือล่าสุดเกี่ยวกับกลุ่มและ ชุน ชอง-โจ ส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของแบรนด์อย่างมาก ยืนยันว่า การกล่าวอ้างของ ชุน ชอง-โจ ว่าเป็นลูกสมรสของครอบครัวเจ้าของกลุ่มพาราไดส์ กรุ๊ปนั้น ไม่เป็นความจริง นอกจากนี้ยังเตรียมจะเอาผิด ชุน ชอง-โจ ฐานเผยแพร่ข้อมูลให้สังคมเข้าใจผิด

ขอบคุณข้อมูลจาก KoreaJoongAngDaily