ไต้หวันตีข่าวฉาว นทท. ถูกรถชนในไทย รพ. เอกชน ปฏิเสธรับตัว สุดท้ายดับสลด

          ฉาวท่องเที่ยวไทย นักท่องเที่ยวไต้หวันถูกรถชน ส่ง รพ. เอกชน ใกล้ ๆ กลับถูกปฏิเสธไม่รับตัว ต้องพาไป รพ. ใหม่ที่ไกลกว่า 10 กม. สลดเสียชีวิตกลางทาง



          เหตุการณ์นี้กลายเป็นข่าวใหญ่ในไต้หวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไทยมีข้อกฎหมายที่ระบุอย่างชัดเจนว่าสถานพยาบาลไม่สามารถปฏิเสธการรับตัวผู้ป่วยฉุกเฉินได้ มิเช่นนั้นจะมีโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุผลในการปฏิเสธการรับตัวผู้บาดเจ็บ เป็นเพราะโรงพยาบาลเอกชนอาจมีปัญหาในการติดตามค่ารักษาพยาบาลจากนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ยากหรือไม่  

          ด้านกระทรวงการท่องเที่ยวของไต้หวัน เผยว่าหลังเกิดอุบัติเหตุในวันที่ 8 ธันวาคม ทางกระทรวงได้รับรายงานว่าผู้เสียชีวิต เป็นส่วนหนึ่งของคณะทัวร์ซึ่งมีลูกทัวร์ 19 คน กับหัวหน้าไกด์ ในช่วงเย็นวันที่ 7 ธันวาคม ผู้เสียชีวิตได้แจ้งกับหัวหน้าไกด์ว่าจะออกไปเที่ยวด้วยตัวเอง แต่ในช่วงที่รวมตัวกันเช้าวันที่ 8 ธันวาคม กลับไม่มีใครพบเห็นเขาอีก ทางทัวร์จึงไปแจ้งคนหายกับทางตำรวจ จนช่วงกลางวันจึงทราบข้อมูลเรื่องอุบัติเหตุดังกล่าว

          ด้าน เฉิน เจียนฉิน ผู้จัดการเอเจนซี่ท่องเที่ยว ได้ตั้งข้อสังเกตว่า บางครั้งนักท่องเที่ยวอาจเผชิญปัญหาแบบนี้ได้ โดยเฉพาะตามคลินิกเล็ก ๆ เมื่อเห็นว่าผู้ป่วยเป็นชาวต่างชาติ ด้วยความที่ไม่เข้าใจภาษาและกังวลว่าจะเกิดปัญหาตามมา จึงปฏิเสธไม่ยอมรับตัว หรือถ้าเห็นว่าอาการบาดเจ็บนั้นรุนแรงมากก็ไม่กล้ารับตัวเช่นกัน จึงเลือกจะส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลอื่นโดยเร็วที่สุดแทน

          ผู้ประกอบการเอเจนซี่ท่องเที่ยวอีกราย ยังเผยว่า บางโรงพยาบาลอาจกลัวปัญหาที่จะเกิดขึ้น หรือกังวลว่าผู้ป่วยจะไม่มีเงินพอจ่าย และไม่สามารถเก็บค่ารักษาพยาบาลจากพวกเขาได้ จึงปฏิเสธการรับตัว ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่แพทย์ก็ยังต้องมีหน้าที่ช่วยผู้ป่วยตอนที่สามารถทำได้ ทางเอเจนซี่เองก็ยังย้ำเตือนผู้ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ให้ทำประกันการเดินทางไว้ด้วย

          รายงานยังอ้างข้อมูลจาก WHO ในปี 2558 ซึ่งประกาศว่ามีคนมากถึง 36.2 คน ต่อ 100,000 คนในประเทศไทย ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ และชี้ว่าหลังนายกรัฐมนตรีคนใหม่เข้ารับตำแหน่งในปีนี้ก็ได้ให้ความสำคัญต่อการท่องเที่ยวมาก อย่างไรก็ตาม อาจจำเป็นต้องมีการปรับด้านทัศนคติของระบบรักษาพยาบาลต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย มิเช่นนั้นย่อมส่งผลกระทบเชิงลบต่อการท่องเที่ยวไทยได้

          ขณะที่เว็บไซต์ UDN ชี้ว่า ทางกระทรวงต่างประเทศไต้หวัน จะขอให้สำนักงานผู้แทนในไทยตรวจสอบสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับทางฝั่งไทย พร้อมแสดงความกังวลมายังทางการไทย ให้ดำเนินการอย่างจริงจัง ซึ่งจะมีทางชี้แจงเรื่องนี้อย่างเร็วที่สุด