ไวรัล สาวโปรไฟล์ระดับเทพมาจุติ ปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับ 1 ตั้งแต่อายุ 18 ปี, จบปริญญาโทควบ 2 ใบตอนอายุ 21 ปี พร้อมประวัติการทำงานระดับเทพ มาสมัครงานธรรมดา ๆ แคนดิเดตที่เหลือถึงกับต้องถาม น้องรอดสายตาเฮดฮันเตอร์ได้ยังไง
![สมัครงาน]( "สมัครงาน")
ในการสมัครงานแต่ละครั้ง สิ่งที่นายจ้างต้องการเป็นอันดับแรกเลยก็คือโปรไฟล์ที่ดี การศึกษาที่ดี และประสบการณ์การทำงานที่ตรงสาย ซึ่งผู้สมัครที่มีโปรไฟล์โดดเด่นย่อมได้รับการพิจารณาก่อนแคนดิเดตคนอื่น ซึ่งล่าสุด 16 ธันวาคม 2566 ได้มีสาวคนหนึ่งได้ลงภาพเรซูเม่เพื่อสมัครงานในตำแหน่ง Management Trainee, Marketing, Business Development หากแต่พอไปส่องโปรไฟล์ของเธอดี ๆ แคนดิเดตที่เหลือมีซึมแน่นอน
โดยที่เธอมีคนนี้ปัจจุบันอายุเพียง 22 ปี แต่พบว่าโปรไฟล์ของเธอล้ำหน้าเด็กจบใหม่คนอื่น ๆ ไปมาก โดยเธอจบจากคณะบริหารธุรกิจ ม.รามคำแหง ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 ตั้งแต่อายุ 18 ปี และเป็นผู้แทนบัณฑิตในการกล่าวนำในงานรับปริญญา, จบปริญญาโทเกียรตินิยม MBA ในหลักสูตรภาษาอังกฤษ ควบคู่ไปกับเอกการตลาดและการเงินของ NIDA เป็นคนเดียวในรุ่นที่จบ ด้วยอายุเพียง 21 ปี และได้เรียนที่คณะนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณาและสื่อสารตราสินค้าจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1 ปี
นอกจากนี้ เธอยังมีประสบการณ์ก่อนการทำงานอย่างเป็นติวเตอร์, ผู้ช่วยสอนที่ NIDA, ผู้ช่วยวิจัยที่ NIDA, และทำงานแปลภาษาอังกฤษเกี่ยวกับรถซูเปอร์คาร์ลงช่อง Youtube และในส่วนประวัติการทำงานนั้น เธอยังเคยทำงานเป็นผู้จัดการด้านการขนส่ง, ผู้จัดการการตลาดสินค้าลักซ์ชูรี่ และผู้ประสานงานโปรเจกต์ และเคยทำงานกับผู้บริหารระดับสูงของแบรนด์ระดับโลกอย่าง Bulgari และ แลมโบร์กินีอีด้วย
![สมัครงาน]( "สมัครงาน")
ด้านหลายคนเจอโปรไฟล์ระดับเทพแบบนี้เข้าไป แคนดิเดตคนอื่นก็ถึงกับอ้าปากค้าง บ้างก็บอกว่าให้เธอไปสมัครงานที่ต่างประเทศเถอะ โปรไฟล์ระดับนี้มาทำงานในไทยอาจจะโดนกดเงินเดือน บางคนก็บอกว่าโปรไฟล์ขั้นนี้ทำไมถึงรอดสายตาของเหล่าเฮดฮันเตอร์ไปได้ เป็นไปได้ยังไงที่บริษัทจะไม่จองตัว เพราะเก่งครบทุกด้าน ทำงานแบบ Multitasking ได้ มีซอฟต์สกิล แถมยังสมัครงานในตำแหน่งธรรมดา ๆ บางคนถึงกับตั้งคำถามกับตัวเองว่า ฉันเกิดมาทำไม ! แบบนี้ต้องกอดงานที่ทำไว้แน่น ๆ แล้ว !
ในขณะเดียวกัน ก็มีคำถามว่า หาก HR จ้างเธอไปก็อาจจะมีคำถามถึงประสบการณ์การทำงานในแต่ละที่ที่น้อยนิด วุฒิการศึกษาและประวัติการศึกษาอาจจะช่วยแค่ในการสมัครงานเท่านั้น หลังจากนั้นจะดูประวัติการทำงานว่าทำอะไรได้บ้าง ตรงตามที่บริษัทต้องการหรือไม่ รวมไปถึงทัศนคติ การสื่อสาร การอยู่ร่วมกับคนอื่น มุมมองการทำงานและความคาดหวังในหน้าที่การงานที่ตรงกับที่บริษัทต้องการ ซึ่งเธอมีข้อด้อยตรงที่ผ่านการทำงานมา 2 ที่ใน 1 ปี ที่แรกอยู่ได้ 6 เดือน แห่งที่ 2 อยู่ได้ 4 เดือน ตรงนี้ก็อาจจะเป็นข้อด้อยที่ต้องไปตอบให้ได้
![สมัครงาน]( "สมัครงาน")
![สมัครงาน]( "สมัครงาน")
![สมัครงาน]( "สมัครงาน")
![สมัครงาน]( "สมัครงาน")
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมุล
ในการสมัครงานแต่ละครั้ง สิ่งที่นายจ้างต้องการเป็นอันดับแรกเลยก็คือโปรไฟล์ที่ดี การศึกษาที่ดี และประสบการณ์การทำงานที่ตรงสาย ซึ่งผู้สมัครที่มีโปรไฟล์โดดเด่นย่อมได้รับการพิจารณาก่อนแคนดิเดตคนอื่น ซึ่งล่าสุด 16 ธันวาคม 2566 ได้มีสาวคนหนึ่งได้ลงภาพเรซูเม่เพื่อสมัครงานในตำแหน่ง Management Trainee, Marketing, Business Development หากแต่พอไปส่องโปรไฟล์ของเธอดี ๆ แคนดิเดตที่เหลือมีซึมแน่นอน
โดยที่เธอมีคนนี้ปัจจุบันอายุเพียง 22 ปี แต่พบว่าโปรไฟล์ของเธอล้ำหน้าเด็กจบใหม่คนอื่น ๆ ไปมาก โดยเธอจบจากคณะบริหารธุรกิจ ม.รามคำแหง ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 ตั้งแต่อายุ 18 ปี และเป็นผู้แทนบัณฑิตในการกล่าวนำในงานรับปริญญา, จบปริญญาโทเกียรตินิยม MBA ในหลักสูตรภาษาอังกฤษ ควบคู่ไปกับเอกการตลาดและการเงินของ NIDA เป็นคนเดียวในรุ่นที่จบ ด้วยอายุเพียง 21 ปี และได้เรียนที่คณะนิเทศศาสตร์ เอกโฆษณาและสื่อสารตราสินค้าจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1 ปี
นอกจากนี้ เธอยังมีประสบการณ์ก่อนการทำงานอย่างเป็นติวเตอร์, ผู้ช่วยสอนที่ NIDA, ผู้ช่วยวิจัยที่ NIDA, และทำงานแปลภาษาอังกฤษเกี่ยวกับรถซูเปอร์คาร์ลงช่อง Youtube และในส่วนประวัติการทำงานนั้น เธอยังเคยทำงานเป็นผู้จัดการด้านการขนส่ง, ผู้จัดการการตลาดสินค้าลักซ์ชูรี่ และผู้ประสานงานโปรเจกต์ และเคยทำงานกับผู้บริหารระดับสูงของแบรนด์ระดับโลกอย่าง Bulgari และ แลมโบร์กินีอีด้วย
ด้านหลายคนเจอโปรไฟล์ระดับเทพแบบนี้เข้าไป แคนดิเดตคนอื่นก็ถึงกับอ้าปากค้าง บ้างก็บอกว่าให้เธอไปสมัครงานที่ต่างประเทศเถอะ โปรไฟล์ระดับนี้มาทำงานในไทยอาจจะโดนกดเงินเดือน บางคนก็บอกว่าโปรไฟล์ขั้นนี้ทำไมถึงรอดสายตาของเหล่าเฮดฮันเตอร์ไปได้ เป็นไปได้ยังไงที่บริษัทจะไม่จองตัว เพราะเก่งครบทุกด้าน ทำงานแบบ Multitasking ได้ มีซอฟต์สกิล แถมยังสมัครงานในตำแหน่งธรรมดา ๆ บางคนถึงกับตั้งคำถามกับตัวเองว่า ฉันเกิดมาทำไม ! แบบนี้ต้องกอดงานที่ทำไว้แน่น ๆ แล้ว !
ในขณะเดียวกัน ก็มีคำถามว่า หาก HR จ้างเธอไปก็อาจจะมีคำถามถึงประสบการณ์การทำงานในแต่ละที่ที่น้อยนิด วุฒิการศึกษาและประวัติการศึกษาอาจจะช่วยแค่ในการสมัครงานเท่านั้น หลังจากนั้นจะดูประวัติการทำงานว่าทำอะไรได้บ้าง ตรงตามที่บริษัทต้องการหรือไม่ รวมไปถึงทัศนคติ การสื่อสาร การอยู่ร่วมกับคนอื่น มุมมองการทำงานและความคาดหวังในหน้าที่การงานที่ตรงกับที่บริษัทต้องการ ซึ่งเธอมีข้อด้อยตรงที่ผ่านการทำงานมา 2 ที่ใน 1 ปี ที่แรกอยู่ได้ 6 เดือน แห่งที่ 2 อยู่ได้ 4 เดือน ตรงนี้ก็อาจจะเป็นข้อด้อยที่ต้องไปตอบให้ได้
