อัยการตีกลับคดีเด็กกราดยิงกลางห้างดัง ชี้ ขั้นตอนการสอบสวนไม่ถูกต้องและเด็กไม่มีความสามารถในการขึ้นศาล ให้กลับไปทำสำนวนใหม่ตอนที่เด็กหายเป็นปกติ ชี้ คดีนี้อายุความสูงสุด 20 ปี
วันที่ 28 ธันวาคม 2566 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่ สน.ปทุมวัน ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ในคดีที่เด็กอายุ 15 ปี เป็นผู้ต้องหาก่อเหตุยิงคนในห้างดังเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่่ผ่านมา
คดีนี้ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ตรวจสอบสำนวนการสอบสวนแล้วปรากฏข้อเท็จจริงในสำนวนว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566 พนักงานสอบสวนส่งผู้ต้องหาที่เป็นเด็กไปยังสถาบันกัลยาณราชนครินทร์ เพื่อตรวจบำบัดและรักษา
นอกจากนี้ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 สถาบันกัลยาณราชนครินทร์
มีการส่งรายงานผลการตรวจวินิจฉัยและประเมินความสามารถของจิตแพทย์
ทีมสหวิชาชีพ นิติจิตเวช ผลคือ
ผู้ต้องหาไม่มีความเข้าใจตระหนักรู้เรื่องของข้อกล่าววหา
ไม่มีความสามารถพูดคุยและตอบคำถาม รวมทั้งไม่สามารถควบคุมพฤติกรรม
อารมณ์ของตัวเองได้ ทำให้สรุปได้ว่า ผู้ต้องหาไม่สามารถต่อสู้คดีได้
ดังนั้น การสอบสวนของพนักงานสอบสวน และสั่งฟ้องผู้ต้องหาจึงเนการมิชอบ เพราะไม่รอผลการวินิจฉัยจากแพทย์การ จึงมีคำสั่งให้คืนสำนวนการสอบสวนคดีนี้ไยังพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป หลังจากส่งสำนวนมาในวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา
นายนาเคนทร์ เปิดเผยว่า การคืนสำนวนครั้งนี้ ไม่มีการวินิจฉัยเนื้อหาของสำนวน เพราะเห็นว่า กระบวนการสอบสวนมิชอบด้วยกฎหมาย จึงส่งกลับไปปทำให้ชอบด้วยกฎหมาย และเมื่อผู้ต้องหาหาย่วย สามารถต่อสู้คดีได้ ให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนให้เสร็จสิ้น แล้วส่งสำนวนมาให้อีกครั้งภายในอายุความตามกฎหมาย ซึ่งมีอายุความสูงสุด 20 ปี
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
วันที่ 28 ธันวาคม 2566 เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว รายงานว่า นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่ สน.ปทุมวัน ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ในคดีที่เด็กอายุ 15 ปี เป็นผู้ต้องหาก่อเหตุยิงคนในห้างดังเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่่ผ่านมา
คดีนี้ พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ตรวจสอบสำนวนการสอบสวนแล้วปรากฏข้อเท็จจริงในสำนวนว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566 พนักงานสอบสวนส่งผู้ต้องหาที่เป็นเด็กไปยังสถาบันกัลยาณราชนครินทร์ เพื่อตรวจบำบัดและรักษา
เบื้องต้น ทางสถาบันกัลยาณราชนครินทร์ รับตรวจวินิจฉัยทางนิติจิตเวชแบบผู้ป่วยใน เพราะเชื่อว่า ผู้ต้องหามีอาการป่วยทางจิตและไม่สามารถสู้คดีได้ และยังมีข้อเท็จจริงอีกว่า วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 พนักงานงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนคำให้การของผู้ต้องหา โดยที่ยังไม่ได้รับลผการตรวจประเมินและวินิจฉัยจากแพทย์ที่เปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น รวมถึงไม่ได้สอบสวนแพทย์ผู้ตรวจรักษาให้ได้ความกระจ่างชัดเพื่อประกอบคดี
ดังนั้น การสอบสวนของพนักงานสอบสวน และสั่งฟ้องผู้ต้องหาจึงเนการมิชอบ เพราะไม่รอผลการวินิจฉัยจากแพทย์การ จึงมีคำสั่งให้คืนสำนวนการสอบสวนคดีนี้ไยังพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องต่อไป หลังจากส่งสำนวนมาในวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา
นายนาเคนทร์ เปิดเผยว่า การคืนสำนวนครั้งนี้ ไม่มีการวินิจฉัยเนื้อหาของสำนวน เพราะเห็นว่า กระบวนการสอบสวนมิชอบด้วยกฎหมาย จึงส่งกลับไปปทำให้ชอบด้วยกฎหมาย และเมื่อผู้ต้องหาหาย่วย สามารถต่อสู้คดีได้ ให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนให้เสร็จสิ้น แล้วส่งสำนวนมาให้อีกครั้งภายในอายุความตามกฎหมาย ซึ่งมีอายุความสูงสุด 20 ปี
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
