เปิดพิรุธ นายหน้าอินเดียฆ่าหั่นศพพม่า เผยวงจรปิดซื้อตู้เย็นแช่ศพ ล่าสุดหลบหนีพ้นไทย


          เปิดพิรุธ นายหน้าอินเดีย คาดเอี่ยวฆ่าหั่นศพคนพม่า วงจรปิดจับนาทีซื้อตู้เย็น ล่าสุดหลบหนีพ้นไทย เพื่อนบ้านแฉพฤติกรรมกลุ่มแรงงาน


          กรณีพบศพนาย อาเซ ข่าย ชาวเมียนมา ถูกฆาตกรรมตัดหัวแยกชิ้นส่วน 6 ส่วน แช่ในตู้แช่ สีขาว บริเวณ ชั้น 2 ตึกแถวแห่งหนึ่ง ซอยสะแกงาม 35/3 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ตรวจสอบพบว่ามี นายซันดาราเวล ปกาดีส คูมา อายุ 23 ปี ชาวอินเดีย นายหน้าจัดหาแรงงานต่างชาติมาทำงานในประเทศไทย เป็นผู้มาขอเช่าตึกไว้พักอาศัย ก่อนพบว่าหนุ่มชาวอินเดียเดินทางกลับประเทศไป เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมานั้น

          อ่านข่าว : ช็อก ! พบชิ้นส่วนมนุษย์ ฆ่าหั่นศพยัดตู้เย็น แช่ทิ้งไว้ในอาคาร ท่อนบนหายปริศนา

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 22 มกราคม 2567 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า นายรัก ชาวเมียนมา เพื่อนของผู้เสียชีวิต เล่าว่า อาคารแห่งนี้ เป็นที่พัก สำหรับแรงงานชาวเมียนมาที่รอไปทำงาน โดยมี ซันดาราเวล ปกาดีส คูมา ชาวอินเดีย เป็นนายหน้าจัดหาแรงชาวต่างชาติมาทำงานในประเทศไทย มีสำนักงานอยู่ที่ซอยสาธุประดิษฐ์ 44 โดยแรงงานจะต้องจ่ายค่าดำเนินการจัดหางาน 15,000 บาท และมีค่าดำเนินการเรื่องเอกสาร 7,000 บาท 

          ก่อนหน้านี้ มีแรงงานเข้ามาพักอาศัยรวมกัน 5 คน แต่ว่าได้งานไปก่อน 4 คน เหลือเพียงผู้ตายยังอยู่ที่นี่ แต่เพื่อนพยายามติดต่อกลับมาหาผู้ตาย เมื่อคืนวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา แต่ติดต่อไม่ได้เลย พอวานนี้ (21 มกราคม) เพื่อนจะกลับมาเอากระเป๋าที่ตึก แต่ปรากฏว่า ที่ประตูมีกุญแจล็อกไว้ จึงโทร. หาเจ้าของตึก เพื่อขออนุญาตงัดประตูเข้าไป เมื่อเดินขึ้นไปชั้นสอง จึงพบตู้แช่เย็นใหม่เอี่ยมเสียบปลั๊กไว้ เมื่อเปิดออกดู ก็ถึงกับผงะ เพราะเจอเพื่อนถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ

          เบื้องต้นเพื่อนของผู้เสียชีวิต เผยผ่านล่ามว่า อาคารแห่งนี้เป็นที่พักสำหรับแรงงานชาวเมียนมา ที่นายหน้าชาวอินเดียพามาพักที่นี่ระหว่างรอหางาน โดยมีคนอาศัยอยู่ด้วยกัน 5 คน ซึ่งเพื่อนของผู้ตาย ได้งานไปก่อน 4 คน และไม่ได้กลับมาที่ตึกนี้อีก จึงเหลือเพียงผู้ตายคนเดียว ที่ยังอาศัยอยู่ที่นี่ การจะได้งานทำนั้น จะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าด้วย จึงยังไม่แน่ชัดว่า นี่คือสาเหตุที่ทำให้เกิดการฆาตกรรมหรือไม่ 


วงจรปิดนาทีชายอินเดียซื้อตู้เย็น แวะมาที่ตึกก่อนหลบหนี


          ภาพจากกล้องวงจรปิด วันที่ 19 มกราคม 2567 พบว่า เวลา 15.00 น. รถ MG สีแดง ของนายหน้าชาวอินเดีย ขับเข้ามาจอดที่ตึกหลังเกิดเหตุ แล้วก็ออกไป ขณะที่ กล้องวงจรปิดภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบอน จับภาพนายหน้าชาวอินเดียกับเพื่อนชาติเดียวกัน เข้าไปซื้อตู้แช่เย็นในเวลา 18.28 น. ก่อนจะขับรถกระบะสีดำบรรทุกตู้แช่แข็งออกไป

          จากนั้นเวลา 20.00 น. กล้องวงจรปิดบริเวณตึกเกิดเหตุ จับภาพรถ MG สีแดง ขับมาจอดที่ตึกอีกครั้ง และ ในเวลา 21.45 นาที รถคันดังกล่าวขับออกไปจากที่เกิดเหตุ และไม่ได้เดินทางกลับมาอีกเลย


          ขณะที่ พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า เบื้องต้น นายหน้าชาวอินเดีย ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ซึ่งต้องรอสอบปากคำเพื่อนผู้ตายทั้ง 4 คน ให้เรียบร้อยก่อน ส่วนมูลเหตุเชื่อว่า ผู้ตายน่าจะมีเหตุทะเลาะวิวาทกับนายหน้าชาวอินเดีย เนื่องจากพบร่องรอยการต่อสู้บริเวณห้องนอน ห้องน้ำ และจุดเกิดเหตุ โดยฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างไล่เลียงข้อมูลทั้งหมด ว่ามีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร รวมทั้งชาวเมียนมาเข้ามาในเมือง ถูกกฎหมายหรือไม่

          ส่วนข้อมูลล่าสุดของ ซันดาราเวล นายหน้าชาวอินเดีย พบว่า เพิ่งเดินทางออกจากประเทศไทยไป เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 20.50 น. ไปยังเมืองเจนไน ประเทศอินเดีย ขณะนี้ อยู่ระหว่างประสานกับทางการอินเดีย เพื่อขอตัวมาสอบปากคำ

          เบื้องต้นมีรายงานว่า ส่วนประเด็นการฆาตกรรมครั้งนี้ ตำรวจแบ่งเป็น 2 ประเด็น คือ 1. เรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินการหลบหนีเข้าประเทศ ค่าดำเนินการด้านเอกสาร และ 2. ประเด็นรักร่วมเพศ  ซึ่งขณะนี้ ได้ประสานไปยังประเทศอินเดีย เพื่อติดตามตัว ซันดาราเวล มาสอบปากคำแล้ว

เพื่อนบ้านเล่าพฤติกรรมบ้านที่เกิดเหตุ เผยพิรุธนายหน้าก่อนหลบหนี


          ล่าสุด ข่าวช่อง 3 รายงานว่า จากการสอบถาม คุณสยาม อายุ 47 ปี เพื่อนบ้านใกล้เคียง เปิดเผยว่า ตนเพิ่งเห็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวคล้ายแขกกลุ่มนี้มาอาศัยที่อาคารหลังดังกล่าวได้เกือบ 2 สัปดาห์ อยู่กันประมาณ 4-5 คน คล้ายเครือญาติ ลักษณะเป็นการเช่าอาศัย โดยมีนายหน้าที่มีลักษณะเหมือนแขกและมีรูปพรรณสัณฐานตรงตามที่ปรากฏในข่าว ขับรถยนต์สีแดงมาหาเกือบทุกวัน

          พฤติกรรมของชาวต่างด้าวกลุ่มนี้คือเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวเงียบ ไม่สุงสิงพูดคุยกับใคร ไม่เคยมาซื้อของร้านตัวเอง และมักจะปิดบ้านเงียบ ก่อนหน้าวันที่ 19 มกราคม ประมาณ 2-3 วัน เห็นว่าเพื่อนของผู้ตาย 3-4 คน ย้ายออกจากตึกหลังนี้ไป คาดว่าน่าจะได้งานแล้ว ยกเว้นตัวผู้ตายที่ยังไม่ได้งานและยังคงพักอาศัยอยู่ในตึกนี้แบบเงียบ ๆ และไม่มีใครเห็นว่าเขาออกมาจากตึกเพื่อไปซื้อหาอาหารแต่อย่างใด พบเห็นแต่นายหน้าที่มักจะขับรถมาที่ตึกหลังนี้เกือบทุกวัน

          กระทั่งวันที่ 19 มกราคม ตนเห็นผิดสังเกตว่า ช่วงประมาณบ่าย ๆ นายหน้าได้ขับรถคันสีแดงมาถอยจอดเข้าตึก ซึ่งถือว่าผิดปกติ เพราะตึกหลังนี้มีทางขึ้นที่สูงและปกติ นายหน้าจะขับรถมาจอดข้างถนนเท่านั้น แต่วันนั้นตนเห็นว่าเขาดูรีบ ๆ ที่จะถอยจอดขึ้นตึก แล้วก็รีบลงจากรถเข้าไปทำธุระในบ้าน สักพักก็รีบขับรถออกไปทันที ในขณะเดียวกันในช่วงเย็น ตนเห็นรถกระบะขนส่งสินค้า คล้ายตู้แช่เย็นตามที่ปรากฏในข่าว มาจอดเพื่อส่งตู้เข้าไปในอาคารหลังดังกล่าว แต่ตอนนั้นพวกตนก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งมาปรากฏเป็นข่าวว่ามีการฆ่าหั่นศพเกิดขึ้น


          โดยเมื่อวานนี้ประมาณบ่ายสาม กลุ่มเพื่อนซึ่งน่าจะเป็นญาติของผู้ตาย ได้กลับมาที่ตึกหลังนี้และพบว่ากุญแจล็อกจากด้านนอก จึงโทร. ไปขออนุญาตเจ้าของตึกเพื่อทุบกุญแจเข้าไป เมื่อพวกเขาเข้าไปได้สักพักก็วิ่งร้องไห้ออกมา พร้อมบอกว่าเพื่อนเขาถูกฆ่าหั่นศพตายแล้ว จึงรีบโทร. แจ้งตำรวจให้มาที่เกิดเหตุ

          ยืนยันว่า ตนอยู่ที่นี่มาเกือบ 15 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ย้ำว่าไม่เคยเกิดเหตุฆ่ากันตายในตึกหลังนี้ ที่ผ่านมานั้นตึกนี้มักจะมีคนเช่าเข้า ๆ ออก ๆ เป็นประจำ ส่วนใหญ่อยู่ประมาณหลักเดือนเกือบถึงปีก็ย้ายออก และมักจะมาเช่าเพื่อพักอาศัยหรือเปิดธุรกิจขายของเล็ก ๆ น้อยๆ แต่ลักษณะการนำแรงงานมาเช่าเพื่อหางานทำเพิ่งเกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก ส่วนตัวรู้สึกกลัวและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในซอย



ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้, ข่าวช่อง 3


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดพิรุธ นายหน้าอินเดียฆ่าหั่นศพพม่า เผยวงจรปิดซื้อตู้เย็นแช่ศพ ล่าสุดหลบหนีพ้นไทย อัปเดตล่าสุด 22 มกราคม 2567 เวลา 14:29:58 13,585 อ่าน
TOP
x close