เครื่องบินทหารรัสเซียบรรทุก 65 เชลยศึกยูเครน ตกใกล้พรมแดน คร่า 74 ชีวิตยกลำ รัสเซียลั่นฝีมือยูเครนยิง - ยูเครนอ้างไม่รู้จะขนเชลยศึกทางเครื่องบิน แม้มีการนัดแลกเปลี่ยนแล้ว
วันที่ 25 มกราคม 2567 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เกิดเหตุเครื่องบนขนส่งทางทหารของรัสเซีย ซึ่งบรรทุกเชลยศึกชาวยูเครน 65 คน ตกในพื้นที่แคว้นเบลโกรอด ของรัสเซีย บริเวณใกล้ชายแดนของยูเครน ส่งให้ทั้ง 74 ชีวิตบนเครื่องเสียชีวิตยกลำ ซึ่งล่าสุดทางการรัสเซียได้ออกมากล่าวหายูเครนว่าเป็นผู้ยิงขีปนาวุธทำลายเครื่องบินลำดังกล่าว
โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า ลูกเรือชาวรัสเซีย 6 คน และทหารรัสเซีย 3 นาย อยู่บนเครื่องบินขนส่งทางทหาร Ilyushin Il-76 ที่ถูกยิงตกใกล้แคว้นเบลโกรอด ในขณะที่การแลกเปลี่ยนเชลยศึกระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จะเกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันพุธ (24 มกราคม) ที่ด่านชายแดน ซึ่งทางยูเครนก็ทราบดีว่าเครื่องบินขนส่งสำหรับบรรทุกทหารยูเครนที่ถูกจับไว้ ถูกคาดหมายว่าจะอยู่ที่สนามบินในเบลโกรอด
"ด้วยการกระทำของผู้ก่อการร้าย ผู้นำยูเครนได้แสดงโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาแล้ว โดยไม่สนใจชีวิตพลเมืองของตนเอง" กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุในแถลงการณ์
ขณะที่ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เรียกร้องให้มีการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยชี้ว่ารัสเซียกำลังพยายามหาเหตุผลเบื้องหลังการกระทำผิดทางอาญาของยูเครน ซึ่งต่อมาโฆษกของสหประชาชาติได้ยืนยันว่า จะมีการจัดประชุมในวันที่ 25 มกราคม
ทางด้านยูเครน ได้เรียกร้องให้รัสเซียออกมาชี้แจงสถานการณ์ทั้งหมดจากเหตุการณ์นี้ แม้ไม่ได้ยืนยันตรง ๆ ว่าเป็นผู้ยิงเครื่องบินลำดังกล่าวตก โดยประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่ารัสเซียกำลังเล่นกับชีวิตเชลยศึกชาวยูเครน ตลอดจนความรู้สึกของคนที่พวกเขารัก และอารมณ์ของชุมชนเรา
ทั้งนี้ หลังจากหยุดภารกิจไปนาน กองทัพยูเครนเปิดเผยว่าจะยังเดินหน้าปฏิบัติการทำลายเครื่องบินขนส่งทางอากาศของรัสเซีย ซึ่งเชื่อว่าใช้บรรทุกขีปนาวุธที่ใช้โจมตียูเครน โดยระบุว่าสังเกตเห็นเครื่องบินทหารรัสเซียลงจอดที่เบลโกรอด ซึ่งมีบางอย่างเชื่อมโยงกับการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียที่เมืองคาร์คิฟ และเมืองอื่น ๆ ของยูเครน
ขณะที่ผู้บัญชาการกองทัพอากาศยูเครน กล่าวหารัสเซียว่ามีความพยายามบ่อนทำลายการสนับสนุนจากนานาชาติต่อยูเครน ทั้งที่ยูเครนมีสิทธิ์ปกป้องตัวเอง รวมถึงทำลายสิ่งที่เป็นการโจมตีทางอากาศจากผู้รุกราน
นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองทางทหาร GUR ของยูเครน เปิดเผยว่ายูเครนไม่ได้รับการร้องขอให้รับประกันความปลอดภัยรอบ ๆ เบลโกรอด ซึ่งแตกต่างจากการแลกเปลี่ยนเชลยศึกครั้งก่อน ๆ รวมถึงไม่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการขนส่งเชลยศึกว่าจะใช้วิธีการหรือเส้นทางใด ซึ่งจากพื้นฐานข้อมูลนี้ ทาง GUR มองว่าเป็นการวางแผนและกระทำโดยเจตนาของรัสเซีย เพื่อทำให้สถานการณ์ในยูเครนเกิดความไม่มั่นคง และทำให้แรงสนับสนุนนานาชาติต่อยูเครนอ่อนแอลง
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า เจ้าหน้าที่เรดาร์ตรวจพบการปล่อยขีปนาวุธ 2 ลูก ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุเครื่องบินตก
ขณะที่หน่วยข่าวกรองยูเครน
ยืนยันว่ามีแผนการแลกเปลี่ยนเชลยศึกกันจริงในวันพุธ (24 มกราคม)
ซึ่งทหารรัสเซียที่ถูกจับเป็นเชลยศึก
ได้ถูกส่งไปยังจุดแลกเปลี่ยนที่ตกลงกันไว้ตามเวลา ทั้งหมดปลอดภัยดี
"เครื่องบินขนส่งได้ลงจอดในพื้นที่ 30 กิโลเมตรของเขตสู้รบ อันเป็นระยะที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งไม่ว่าจะในกรณีใดก็ต้องมีการหารือกันทั้ง 2 ฝ่าย มิเช่นนั้นจะเป็นอันตรายต่อกระบวนการแลกเปลี่ยนทั้งหมด" หน่วยข่าวกรองระบุ
ในคลิปที่โพสต์ลงเทเลแกรมโดย Baza ซึ่งเชื่อมโยงกับบริการด้านความมั่งคงของรัสเซีย เผยให้เห็นเครื่องบินขนาดใหญ่ลำหนึ่งที่ตกลงสู่พื้น ใกล้หมู่บ้านยาโบลโนโว ในภูมิภาคเบลโกรอด และระเบิดเป็นลูกไฟ
ด้าน อังเดร คาร์ตาโปลอฟ สมาชิกรัฐสภารัสเซียและนายพลที่เกษียณอายุแล้ว กล่าวกับ SHOT สำนักข่าวท้องถิ่น ว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่ผู้ควบคุมระบบขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศของยูเครน จะเข้าใจผิดว่าเครื่องบินขนส่งนั้น เป็นเครื่องบินทหารหรือเฮลิคอปเตอร์ซึ่งเป็นเป้าหมาย นี่คือการกระทำโดยเจตนาเพื่อบ่อนทำลายการแลกเปลี่ยนเชลยศึก
คาร์ตาโปลอฟ ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ชี้ว่า เครื่องบินขนส่งอีกลำที่บรรทุกเชลยศึกชาวยูเครน 80 คน ในการแลกเปลี่ยนนั้น สามารถวกกลับมาได้ทัน
รอยเตอร์สเผยว่า ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ในทันทีว่ามีใครอยู่บนเครื่องบินดังกล่าว แต่ทั้ง 2 ประเทศมีการแลกเปลี่ยนเชลยศึกกันเป็นประจำ นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ขณะที่ภูมิภาคเบลโกรอดซึ่งมีพรมแดนติดยูเครน ตกอยู่ใต้การโจมตีจากยูเครนบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รวมถึงการโจมตีด้วยขีปนาวุธเมื่อเดือนธันวาคม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 25 ราย
ขอบคุณข้อมูลจาก Reuters

วันที่ 25 มกราคม 2567 สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เกิดเหตุเครื่องบนขนส่งทางทหารของรัสเซีย ซึ่งบรรทุกเชลยศึกชาวยูเครน 65 คน ตกในพื้นที่แคว้นเบลโกรอด ของรัสเซีย บริเวณใกล้ชายแดนของยูเครน ส่งให้ทั้ง 74 ชีวิตบนเครื่องเสียชีวิตยกลำ ซึ่งล่าสุดทางการรัสเซียได้ออกมากล่าวหายูเครนว่าเป็นผู้ยิงขีปนาวุธทำลายเครื่องบินลำดังกล่าว
โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า ลูกเรือชาวรัสเซีย 6 คน และทหารรัสเซีย 3 นาย อยู่บนเครื่องบินขนส่งทางทหาร Ilyushin Il-76 ที่ถูกยิงตกใกล้แคว้นเบลโกรอด ในขณะที่การแลกเปลี่ยนเชลยศึกระหว่างรัสเซีย-ยูเครน จะเกิดขึ้นในช่วงบ่ายวันพุธ (24 มกราคม) ที่ด่านชายแดน ซึ่งทางยูเครนก็ทราบดีว่าเครื่องบินขนส่งสำหรับบรรทุกทหารยูเครนที่ถูกจับไว้ ถูกคาดหมายว่าจะอยู่ที่สนามบินในเบลโกรอด
"ด้วยการกระทำของผู้ก่อการร้าย ผู้นำยูเครนได้แสดงโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาแล้ว โดยไม่สนใจชีวิตพลเมืองของตนเอง" กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุในแถลงการณ์
ขณะที่ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย เรียกร้องให้มีการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยชี้ว่ารัสเซียกำลังพยายามหาเหตุผลเบื้องหลังการกระทำผิดทางอาญาของยูเครน ซึ่งต่อมาโฆษกของสหประชาชาติได้ยืนยันว่า จะมีการจัดประชุมในวันที่ 25 มกราคม
ทางด้านยูเครน ได้เรียกร้องให้รัสเซียออกมาชี้แจงสถานการณ์ทั้งหมดจากเหตุการณ์นี้ แม้ไม่ได้ยืนยันตรง ๆ ว่าเป็นผู้ยิงเครื่องบินลำดังกล่าวตก โดยประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนว่ารัสเซียกำลังเล่นกับชีวิตเชลยศึกชาวยูเครน ตลอดจนความรู้สึกของคนที่พวกเขารัก และอารมณ์ของชุมชนเรา
ทั้งนี้ หลังจากหยุดภารกิจไปนาน กองทัพยูเครนเปิดเผยว่าจะยังเดินหน้าปฏิบัติการทำลายเครื่องบินขนส่งทางอากาศของรัสเซีย ซึ่งเชื่อว่าใช้บรรทุกขีปนาวุธที่ใช้โจมตียูเครน โดยระบุว่าสังเกตเห็นเครื่องบินทหารรัสเซียลงจอดที่เบลโกรอด ซึ่งมีบางอย่างเชื่อมโยงกับการโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียที่เมืองคาร์คิฟ และเมืองอื่น ๆ ของยูเครน
ขณะที่ผู้บัญชาการกองทัพอากาศยูเครน กล่าวหารัสเซียว่ามีความพยายามบ่อนทำลายการสนับสนุนจากนานาชาติต่อยูเครน ทั้งที่ยูเครนมีสิทธิ์ปกป้องตัวเอง รวมถึงทำลายสิ่งที่เป็นการโจมตีทางอากาศจากผู้รุกราน
นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองทางทหาร GUR ของยูเครน เปิดเผยว่ายูเครนไม่ได้รับการร้องขอให้รับประกันความปลอดภัยรอบ ๆ เบลโกรอด ซึ่งแตกต่างจากการแลกเปลี่ยนเชลยศึกครั้งก่อน ๆ รวมถึงไม่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการขนส่งเชลยศึกว่าจะใช้วิธีการหรือเส้นทางใด ซึ่งจากพื้นฐานข้อมูลนี้ ทาง GUR มองว่าเป็นการวางแผนและกระทำโดยเจตนาของรัสเซีย เพื่อทำให้สถานการณ์ในยูเครนเกิดความไม่มั่นคง และทำให้แรงสนับสนุนนานาชาติต่อยูเครนอ่อนแอลง
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า เจ้าหน้าที่เรดาร์ตรวจพบการปล่อยขีปนาวุธ 2 ลูก ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุเครื่องบินตก
"เครื่องบินขนส่งได้ลงจอดในพื้นที่ 30 กิโลเมตรของเขตสู้รบ อันเป็นระยะที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งไม่ว่าจะในกรณีใดก็ต้องมีการหารือกันทั้ง 2 ฝ่าย มิเช่นนั้นจะเป็นอันตรายต่อกระบวนการแลกเปลี่ยนทั้งหมด" หน่วยข่าวกรองระบุ
ในคลิปที่โพสต์ลงเทเลแกรมโดย Baza ซึ่งเชื่อมโยงกับบริการด้านความมั่งคงของรัสเซีย เผยให้เห็นเครื่องบินขนาดใหญ่ลำหนึ่งที่ตกลงสู่พื้น ใกล้หมู่บ้านยาโบลโนโว ในภูมิภาคเบลโกรอด และระเบิดเป็นลูกไฟ
ด้าน อังเดร คาร์ตาโปลอฟ สมาชิกรัฐสภารัสเซียและนายพลที่เกษียณอายุแล้ว กล่าวกับ SHOT สำนักข่าวท้องถิ่น ว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่ผู้ควบคุมระบบขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศของยูเครน จะเข้าใจผิดว่าเครื่องบินขนส่งนั้น เป็นเครื่องบินทหารหรือเฮลิคอปเตอร์ซึ่งเป็นเป้าหมาย นี่คือการกระทำโดยเจตนาเพื่อบ่อนทำลายการแลกเปลี่ยนเชลยศึก
คาร์ตาโปลอฟ ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ชี้ว่า เครื่องบินขนส่งอีกลำที่บรรทุกเชลยศึกชาวยูเครน 80 คน ในการแลกเปลี่ยนนั้น สามารถวกกลับมาได้ทัน
รอยเตอร์สเผยว่า ไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ในทันทีว่ามีใครอยู่บนเครื่องบินดังกล่าว แต่ทั้ง 2 ประเทศมีการแลกเปลี่ยนเชลยศึกกันเป็นประจำ นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มปฏิบัติการพิเศษทางทหารต่อยูเครน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ขณะที่ภูมิภาคเบลโกรอดซึ่งมีพรมแดนติดยูเครน ตกอยู่ใต้การโจมตีจากยูเครนบ่อยครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รวมถึงการโจมตีด้วยขีปนาวุธเมื่อเดือนธันวาคม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 25 ราย
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Reuters