เปิดเคสสะพรึง สาวยอมรับ กินตัวอ่อนเด็กที่ทำแท้ง ทำเป็นไส้ห่อเกี๊ยววันละ 3 ครั้ง เชื่อช่วยทำให้มีลูก หมอฟังแล้วกุมขมับ ยุคนี้แล้วยังมีความเชื่อแบบผิด ๆ
ดร.โต่ว เผยถึงเคสที่น่าสะพรึงกลัวนี้ว่า คนไข้หญิงแต่งงานมานาน 5-6 ปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ จึงหันมาใช้วิธีเหนือธรรมชาติ ที่เชื่อว่าหากกินตัวอ่อนของเด็กที่ถูกทำแท้งตอนอายุครรภ์ 2 เดือนเข้าไป จะช่วยให้เธอตั้งครรภ์ได้ โดยคนไข้ยอมรับว่านำตัวอ่อนทารกมาบด ยัดเป็นไส้เกี๊ยวและซาลาเปา โดยจะกินวันละ 3 ครั้ง
ภาพจาก 窦医生讲不孕
คนไข้ยอมรับว่า ต้องกินน้ำตามเข้าไปเพื่อช่วยให้ตัวเองกลืนเกี๊ยวลงท้องได้ แต่หลังจากกินตัวอ่อนเข้าไป แทนที่จะตั้งครรภ์กลับเริ่มมีปัญหาต่าง ๆ เช่น ผื่นขึ้น มีอาการคัน หลังรู้สึกร้อน และเริ่มมีอาการปวด ซึ่งไม่มั่นใจว่าเกี่ยวข้องอะไรกันหรือไม่
ดร.โต่ว ได้ฟังคำสารภาพของคนไข้สาวแล้วก็แทบไม่อยากเชื่อ เธอถามคนไข้ว่าไปเอาความเชื่อนี้มาจากไหน และกลืนลงเข้าไปได้อย่างไร เธอไม่คิดเลยว่าในยุคสมัยนี้แล้ว ยังมีคนทำตาความเชื่อผิด ๆ แบบนี้อยู่อีก
ทั้งนี้ ดร.โต่ว เผยว่าสาเหตุของภาวะมีบุตรยากของคนไข้ ก็คือท่อนำไข่ตีบตัน ซึ่งควรจะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง แทนที่จะทำอะไรงมงายเช่นนั้น โดยเตือนว่าการกินตัวอ่อนทารกไปนั้นมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ และอาจทำให้ติดเชื้อจากโรคติดต่อที่เด็กเป็นพาหะได้
ภาพจาก 窦医生讲不孕
ภาพจาก 窦医生讲不孕
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก UDN, Singapore Uncensored