จับสลากของขวัญปีใหม่ได้ทีวี 42 นิ้ว แต่ไม่ได้ใช้เพราะมีแล้ว จึงส่งมอบต่อให้มูลนิธิกระจกเงา เอาไปมอบให้คุณยายป่วยติดเตียงวัย 86 ปี จากบ้านที่เสียงเงียบ กลับกลายเป็นมีพลังขึ้นมาอีกครั้ง
ในการจับสลากของขวัญต่าง ๆ ก็มีหลายครั้งที่เรามักจับสลากได้ของที่ไม่ตรงกับไลฟ์สไตล์เรา หรือไม่ก็เป็นของที่เรามีอยู่แล้ว เช่น ทีวี โน้ตบุ๊ก ตู้เย็น ไมโครเวฟ พอได้ของเหล่านี้มา ก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรต่อ ยังไงก็ไม่ได้ใช้
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 เฟซบุ๊ก มูลนิธิกระจกเงา มีการเล่าเรื่องราวสุดประทับใจของพนักงานบริษัทรายหนึ่ง หลังจากที่จับสลากได้ทีวีขนาด 42 นิ้ว ในงานเลี้ยงปีใหม่ แต่ตัวเองนั้นมีทีวีอยู่แล้ว ไม่มีโอกาสได้ใช้ จึงนำมาบริจาคที่มูลนิธิกระจกเงา เพราะ อยากส่งต่อให้ใครสักคนได้ใช้ประโยชน์แทน
เมื่อได้รับทีวี ทีมงานก็นึกถึงผู้ป่วยติดเตียงครอบครัวหนึ่ง
ที่ญาติเคยขอความช่วยเหลือยังห้องประชาสัมพันธ์ว่า เธออยากได้ทีวีเก่า ๆ
สักเครื่องไว้เปิดให้คุณแม่วัย 86 ปีที่ป่วยติดเตียงดูคลายเครียด
เพราะเครื่องเดิมนั้นพังจนเปิดไม่ติดมาสักพักแล้ว
ส่วนประวัติคนเข้ามาติดต่อ คือลูกสาววัย 61 ปีที่อยู่ในสภาวะล้มละลายทางการเงินตั้งแต่โควิดจนตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น แถมต้องดูแลแม่ที่กระดูกสะโพกหัก ต้องอยู่ติดเตียงตลอด 3 ปี ทำให้เธอกับแม่แทบไม่เคยออกจากบ้านไปไหน และทีวีก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้แม่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ ไม่ให้บ้านเงียบเกินไป
ความรู้สึกของคนที่ป่วยติดเตียง ความบันเทิงในชีวิตที่เคยมีจะค่อย ๆ หายไป ยิ่งเป็นคนชราด้วยแล้ว ความเหงา ความอึดอัดจากการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มันกัดกินหัวใจ เสียงทีวีจึงเป็นอะไรที่มีความหมายมาก
ในวันที่ทีมงานติดตั้งโทรทัศน์ที่บ้าน หน้าเตียงของยายวัย 86 ปี ยายก็ยกมือกล่าวขอบใจ ส่วนลูกสาวก็บอกว่า ในวันที่ครอบครัวสิ้นหวัง ทีวีเครื่องนี้เหมือนขอนไม้ที่ลอยน้ำมา ขออนุโมทนาบุญให้คนที่บริจาคมาให้ ที่ช่วยทำให้แม่เรามีความสุขสักเรื่องในชีวิต
![คอมเมนต์]( "คอมเมนต์")
ในการจับสลากของขวัญต่าง ๆ ก็มีหลายครั้งที่เรามักจับสลากได้ของที่ไม่ตรงกับไลฟ์สไตล์เรา หรือไม่ก็เป็นของที่เรามีอยู่แล้ว เช่น ทีวี โน้ตบุ๊ก ตู้เย็น ไมโครเวฟ พอได้ของเหล่านี้มา ก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรต่อ ยังไงก็ไม่ได้ใช้
วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2567 เฟซบุ๊ก มูลนิธิกระจกเงา มีการเล่าเรื่องราวสุดประทับใจของพนักงานบริษัทรายหนึ่ง หลังจากที่จับสลากได้ทีวีขนาด 42 นิ้ว ในงานเลี้ยงปีใหม่ แต่ตัวเองนั้นมีทีวีอยู่แล้ว ไม่มีโอกาสได้ใช้ จึงนำมาบริจาคที่มูลนิธิกระจกเงา เพราะ อยากส่งต่อให้ใครสักคนได้ใช้ประโยชน์แทน
ส่วนประวัติคนเข้ามาติดต่อ คือลูกสาววัย 61 ปีที่อยู่ในสภาวะล้มละลายทางการเงินตั้งแต่โควิดจนตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น แถมต้องดูแลแม่ที่กระดูกสะโพกหัก ต้องอยู่ติดเตียงตลอด 3 ปี ทำให้เธอกับแม่แทบไม่เคยออกจากบ้านไปไหน และทีวีก็เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้แม่ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ ไม่ให้บ้านเงียบเกินไป
ความรู้สึกของคนที่ป่วยติดเตียง ความบันเทิงในชีวิตที่เคยมีจะค่อย ๆ หายไป ยิ่งเป็นคนชราด้วยแล้ว ความเหงา ความอึดอัดจากการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ มันกัดกินหัวใจ เสียงทีวีจึงเป็นอะไรที่มีความหมายมาก
ในวันที่ทีมงานติดตั้งโทรทัศน์ที่บ้าน หน้าเตียงของยายวัย 86 ปี ยายก็ยกมือกล่าวขอบใจ ส่วนลูกสาวก็บอกว่า ในวันที่ครอบครัวสิ้นหวัง ทีวีเครื่องนี้เหมือนขอนไม้ที่ลอยน้ำมา ขออนุโมทนาบุญให้คนที่บริจาคมาให้ ที่ช่วยทำให้แม่เรามีความสุขสักเรื่องในชีวิต
