ทนายวัฒนา พูดถึงเหตุที่ยุให้นุ ฟ้องครอบครองปรปักษ์ มันเป็นสิทธิ์ จี้จุดเดือดอาย ในโหนกระแส

           ทนายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายความของ นุ ภานุมาศ ผู้เสียชีวิตหลังจากที่ไปฟ้องครอบครองปรปักษ์ ซัน - อาย เผยเหตุใดกล้ายุให้ฟ้อง ทำเอาซันส่ายหัว อายเดือด พร้อมลั่น ถ้าไม่เล่นแรงก่อน ตนก็ไม่เล่นแรงคืน

          วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ในช่วงหนึ่งของรายการโหนกระแส หนุ่ม กรรชัย ได้มีการโฟนอินหาทนายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายความของฝั่งนุ ภานุมาศ คู่กรณีที่ไปยึดบ้านและฟ้อครอบครองปรปักษ์กับ ซันและอาย หลานของอากู๋เหม เจ้าของบ้าน ซึ่งทางหนุ่ม กรรชัย ได้ถามว่า ทำไมทนายวัฒนา ถึงไม่แนะนำลูกความว่าบ้านนี้ไม่ใช่ของคุณ คืนเขาไปเถอะ การครอบครองปรปักษ์มันเป็นการฟ้องที่ไม่สุจริต ทนายวัฒนาบอกว่า กฎหมายก็คุ้มครองคนไม่สุจริตอยู่แล้ว (กรรชัยอึ้ง) คำว่าปรปักษ์คือ มันต้องเป็นชื่อของคนอื่นมาก่อน จนกว่าเราจะได้สิทธิ์ตามกฎหมาย

          เมื่อพูดถึงคลิปเสียงที่นุโทร. หาอากู๋เหม เรื่องที่ทนายแนะนำให้ฟ้องครอบครองปรปักษ์ เพราะว่าทางซันและอายฟ้องนุและพวกในข้อหาบุกรุก จนนุก็ยอมรับว่านุไม่เป็นตัวของตัวเอง นุไม่อยากทำแต่ก็ทำ ซึ่งทางทนายบอกว่า ตนไม่ได้แนะนำ เขาไม่ใช้สิทธิ์ก็ได้ ทุกคนก็พูดแบบนี้ ทุกคนมีความเห็นว่า คุณนุถูกฟ้องคดีอาญา นางศรีพรรณ (พี่สาวของนุ) ก็ถูกกล่าวหาด้วย แต่นางศรีพรรณโดนฟ้องมากกว่า

          เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไร ที่ทนายวัฒนาเป็นต้นเหตุให้นุคิดสั้น ทนายวัฒนาบอกว่า ตนไม่รู้สึกอะไร อาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน เรื่องมันเกิดขึ้น คุณอายกับคุณซันก็ปรึกษานักกฎหมาย มีทนายความ และเริ่มต้นด้วยการเล่นงานหนักกันแบบนี้ คนอื่นเขาอาจจะเริ่มต้นดี บางคนพูดคุยกันแล้วตกลงกันได้ก็มี

          คุณโชคดีที่มาเจอคนครอบครองปรปักษ์ ถ้าเขาพ่ายแพ้เขาก็ยอมรับ ถ้าเขาชนะ ก็อาจจะมีการคืนบ้านให้ แม้บ้านตรงนี้จะเป็นบ้านของคุณอายและคุณซัน แต่ที่ดินข้างนอก รัฐก็สามารถยึดคืนได้ (ซันส่ายหัว) เพื่อเอามาเฉลี่ยให้คนจน เอามาแจกจ่ายคนจน ซึ่งทำให้อายพูดว่า "ทนายก็โชคดีนะคะที่มาเจอพวกหนู"


          เมื่อทางหนุ่ม กรรชัย ถามว่า คุณซันและคุณอายไม่แฮปปี้เลยที่ทนายวัฒนาบอกว่า ซันและอายใช้สื่อกดดันจนนุฆ่าตัวตาย ทนายบอกว่า ตนอยู่ฝั่งตรงข้าม ตนก็ไม่แฮปปี้เหมือนกัน ตนก็ไม่ได้รู้จักทั้ง 2 คน เป็นการส่วนตัว แต่เมื่อสิทธิ์ทางกฎหมายมีอยู่ เราก็ต้องใข้สิทธิ์ตามครรลองของกฎหมาย เพื่อปกป้องสิทธิ์ของลูกความ ซึ่งเราชี้ผิดถูกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ตนก็ไม่อยากกล่าวหาฝ่ายตรงข้าม ถ้าไม่มาเล่นแรงกับตนก่อน ตนก็จะไม่มาตอบโต้


          ด้านอายบอกว่า ถ้าพูดตามหลักกฎหมาย ตนก็สู้ตามหลักกฎหมายทั้งหมด มันแปลกไหมที่เราไปเจอคนอื่นมาอยู่ในบ้าน เราก็ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเหมือนกันที่จะแจ้งบุกรุก ลักทรัพย์ และเสียทรัพย์ และเราก็ไปร้องสื่อก็คือสิทธิ์ตามกฎหมาย และเรื่องนี้ผิด-ไม่ผิดอย่างไร สังคมก็เห็นอยู่แล้ว

          ด้านทนายวัฒนา บอกว่า เราไม่ควรใช้สื่อเป็นตัวนำเกินสมควร ผู้สื่อข่าวก็มีสิทธิ์ที่จะแสดงข้อเท็จจริง แต่เราก็ไม่ควรทำเกินสมควร ทั้งบนสื่อกระแสหลักและสื่อออนไลน์ส่วนตัว คดีนี้อยู่ที่ศาล และน่าจะมีการเคารพยำเกรงต่อศาลบ้าง

          ด้านช่อง 3 เผยว่า คดีที่มีการฟ้องร้องนั้น มีอยู่ 3 คดี คือ

คดีบุกรุกบ้านอากู๋ ซึ่งทำตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้ว่าบุกรุก มีผู้ถูกร้องคือ

          - น.ส.ศรีพรรณ (พี่สาวของนุ ภานุมาศ และแม่บ้าน)
          - น.ส.ภานุมาศ (ผู้เสียชีวิต)
          - นางนิตยา (ญาติของนุ ภานุมาศ)
          - นายพลกิจ (เจ้าของบริษัท และคู่สัญญาการประปา สามีของ นุ ภานุมาศ)
          - น.ส.มาลี (เพื่อนบ้าน)

          คดีที่ 2 คือคดีร้องครอบครองปรปักษ์ โดยที่มี น.ส.ศรีพรรณ เป็นผู้ร้องเอาผิด

          คดีที่ 3 คือ อากู๋เหม แจ้งความบุกรุก รอบที่ 2 เพื่อเอาผิด น.ส.ศรีพรรณ ที่ สน.โคกคราม