แม่ผัวแอบป้อนน้ำต้มสุกให้ลูกวัย 2 เดือน ลำไส้บวมจนเกือบถึงชีวิต ของแถมถึงตอนโต

          แม่สุดใจเจ็บ ย่าแอบป้อนน้ำต้มสุกให้ลูกน้อยวัย 2 เดือน ลำไส้บวมจนเกือบถึงชีวิต ป่วยไปนาน 20 วัน แถมมีผลถึงตอนโต

          การเลี้ยงเด็กในอดีตและปัจจุบันแตกต่างกันมาก บางอย่างที่เคยทำในสมัยก่อน ปัจจุบันก็มีผลพิสูจน์ทางการแพทย์ว่าอาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ในขณะที่คนรุ่นเก่าบางคนกลับยังมีความเชื่อฝังหัวว่า สมัยก่อนยังเลี้ยงแบบนั้นได้ ไม่เห็นเป็นอะไร ทำไมสมัยนี้จะเลี้ยงแบบเดียวกันไม่ได้ จนทำให้หลายครอบครัวต้องมีปัญหากันเพราะเหตุนี้

          วันที่ 1 มีนาคม 2567 เว็บไซต์ ETtoday เผยเรื่องราวของคุณแม่รายหนึ่งในประเทศมาเลเซีย เมื่อไม่นานมานี้ เธอได้ออกมาแชร์ประสบการณ์ทุกข์ใจ และเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับครอบครัวอื่น ๆ โดยเผยว่า ลูกน้อยวัย 2 เดือนของเธอ เกือบจะมีอันถึงแก่ชีวิต เหตุเพราะแม่ของสามีไม่ยอมฟัง หาว่าหลานผอมจนเกินไป จึงแอบป้อนน้ำต้มสุกให้กิน ทั้งที่เธอเคยย้ำไปหลายรอบว่ายังกินไม่ได้

          ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น คุณแม่รายนี้เผยว่า หลังจากเธอให้กำเนิดลูกสาวตัวน้อย แม่ของสามีก็มักจะมาบ่นให้ได้ยินอยู่เป็นประจำว่า ลูกของเธอผอมเกินไป เพราะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ พร้อมทั้งสั่งสอนให้เธอป้อนข้าวโอ๊ต อาหารเสริมอื่น ๆ ให้ลูกกินบ้าง แต่เธอก็ไม่เชื่อ เพราะเชื่อตามคำแนะนำของหมอว่า เด็กวัยเท่านี้ให้ดื่มแต่นมแม่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

          คุณแม่รายนี้พยายามบอกและย้ำกับแม่ของสามีหลายครั้งว่า อย่าให้ลูกของเธอกินอะไรอย่างอื่นโดยเด็ดขาด แต่ก็ดูเหมือนว่าแม่ของสามีจะไม่ยอมเชื่อเช่นเดียวกัน วันหนึ่งแม่สามีแอบป้อนน้ำให้ทารกกิน ตอนที่เธอเผลอ จนกระทั่งลูกสาวมีอาการผิดปกติอาเจียนและป่วยเป็นเวลานานถึง 20 วัน ทางแม่สามีถึงยอมบอกว่า ได้ป้อนน้ำต้มสุกให้หลานกิน

          แม่รีบพาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลโดยเร็ว จากนั้นแพทย์ได้ทำการตรวจเอกซเรย์ ก่อนที่จะพบว่าลำไส้ของเด็กมีอาการบวมผิดปกติ และมีอาการค่อนข้างรุนแรง หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอาจถึงแก่ชีวิตได้ แพทย์ได้ฉีดยาให้กับเด็ก พร้อมทั้งให้นอนพักรักษาและดูอาการที่โรงพยาบาล 3 วัน เมื่อผู้เป็นแม่เห็นลูกน้อยวัย 2 เดือนต้องอยู่ในสภาพเช่นนั้น ก็รู้สึกเจ็บปวดสุดหัวใจ

          แม้ว่าลูกสาวของเธอจะได้รับการรักษาจนปลอดภัย แต่ร่างกายของลูกสาวก็ยังคงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาจนถึงตอนโต ปัจจุบันลูกสาวของเธออายุ 4 ขวบ 2 เดือนแล้ว แต่ก็ยังมีอาการไม่ปกติในลักษณะเดียวกันคือ อยู่ ๆ ก็ปวดท้องกะทันหันและป่วยนานเป็น 1 สัปดาห์ แม่ต้องพาลูกสาวไปโรงพยาบาลเพื่อรับยา ทั้งที่ลูกเพิ่งจะอายุเพียงเท่านี้ แต่กลับต้องมาป่วยหนักอย่างที่ไม่ควรจะเป็น


          "เพียงเพราะดื่มน้ำต้มสุกเพียงเล็กน้อย ลูกสาวของฉันก็ป่วยกลายเป็นเช่นนี้ และเหตุการณ์นี้ก็เป็นแผลในใจฉันตลอด" ผู้เป็นแม่ กล่าว

          หลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ไป ก็เกิดประเด็นถกเถียงบนโลกออนไลน์ ทางแพทย์ชื่อว่าอาหมัด ซานฮาน (Ahmad Sanhan) ซึ่งมีชื่อเสียงบนโซเชียลมีเดียของมาเลเซีย ได้ออกมาอธิบายว่า เด็กทารกที่อายุต่ำกว่า 6 เดือนควรดื่มนมแม่เป็นหลัก ซึ่งในนมแม่มีสารอาหารและน้ำเพียงพอต่อเด็กแล้ว หากได้รับน้ำมากเกินไป จะส่งผลต่อลำไส้และกระเพาะอาหาร เกิดปัญหาได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และพัฒนาการล่าช้า อีกทั้งภูมิต้านทานของเด็กวัยนี้ยังน้อย จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินอาหาร

          นอกจากนี้ หากทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน ได้รับน้ำมากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะน้ำเป็นพิษได้ เนื่องจากไตของพวกเขายังทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ไม่สามารถกรองของเหลวได้ทัน เสียสมดุลน้ำภายในร่างกาย และหากได้รับน้ำมากเกินว่าที่ร่างกายจะปรับสมดุลได้ อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติต่อสมอง เกิดภาวะสมองบวม และเสียชีวิตได้

          สรุปก็คือ ไม่แนะนำให้ทารกไม่ดื่มน้ำเปล่าก่อนอายุ 6 เดือน เพราะนมแม่หรือนมชงตามสูตรสำหรับทารก มีสัดส่วนของน้ำมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพียงพอต่อสุขภาพของทารกแล้ว จึงไม่ควรเพิ่มความเสี่ยงใด ๆ เพื่อชีวิตและความปลอดภัยของเด็ก


ขอบคุณข้อมูลจาก ettoday