เผยโฉม น้องเอ อดีตทหารหญิงรับใช้ถูกทารุณ ล่าสุดเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้รับการทำศัลยกรรมพลิกโฉม คืนลมหายใจ หลังถูกซ้อมจนจมูกหายใจได้ข้างเดียว
หลังจากที่เคยกลายเป็นข่าวใหญ่สุดหดหู่ กรณี น้องเอ (นามสมมติ) อดีตทหารหญิงรับใช้ ถูกนายจ้าง ส.ต.ท.หญิง ทำร้ายร่างกาย ทำให้จมูกแตกละเอียด หายใจได้ข้างเดียว ใบหน้าได้รับความเสียหายร้ายแรงจนผิดรูป
ที่ผ่านมา หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ได้ยื่นมือช่วยเหลือ โดยได้ประสานขอให้ ดร.เซปิง ไชยศาส์น ช่วยเหลือเคสนี้ พบว่าปัจจุบันน้องเอได้รับการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าจนประสบผลสำเร็จแล้ว ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยเปิดโฉมหน้าหลังการรักษามาก่อน จนกระทั่งตอนนี้ศาลจังหวัดราชบุรีมีคำพิพากษาแล้ว จึงขอเผยโฉมทั้งก่อนและหลังทำศัลยกรรมให้ประชาชนที่คอยส่งกำลังใจให้ได้ชมกัน
ดร.เซปิง ไชยศาส์น กล่าวว่า ทีมศัลยแพทย์ตกแต่งความงามได้ทำการผ่าตัดแก้ไขกระดูกอ่อนของผนังจมูก และปรับทางเดินหายใจด้านซ้ายที่อุดตัน ทำให้กลับมาหายใจด้วยโพรงจมูกด้านซ้ายได้เป็นปกติ การผ่าตัดแก้ไขหางตาด้วยการดึงหน้า ทำให้การมองเห็นกลับมาชัดเจนเป็นปกติ หางตายกสวยขึ้น นอกจากนี้ยังได้ผ่าตัดดึงหน้าผาก เพื่อทำลายพังผืดและยกกระชับเนื้อเยื่อบริเวณหน้าผาก
ในส่วนคางที่ดูผิดรูปและมีไขมันสะสมบริเวณแก้ม เหนียงและลำคอมาก จึงจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเสริมวัสดุทางการแพทย์ที่คาง รวมทั้งดูดไขมัน เพื่อแก้ไขให้รูปหน้ากลับมาเป็นปกติ ทำให้น้องเอกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติและมีใบหน้าที่สวยขึ้น
ดร.เซปิง เผยว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้หยิบยื่นโอกาสที่งดงามให้แก่น้องเอในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะการที่น้องเอถูกทำร้ายจนจมูกหายใจไม่ได้หนึ่งข้าง ซึ่งที่ผ่านมามีแพทย์หลายท่านที่ปฏิเสธการรักษา แต่เมื่อตนสามารถจัดหาทีมแพทย์เข้ามาช่วยเหลือทำการผ่าตัดให้จนน้องเอสามารถหายใจได้เป็นปกติดีแล้ว ทำให้น้องสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมาก
ในส่วนการศัลยกรรมแก้ไขจุดบกพร่องอื่น ๆ ทำให้น้องดูสวยขึ้น เป็นการเยียวยาจิตใจที่ดี ให้น้องได้มีโอกาสใช้ใบหน้าสร้างความมั่นใจ สร้างโอกาสในการทำงานเพื่อหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว การได้มอบใบหน้าใหม่ก็เสมือนเป็นการให้ชีวิตใหม่กับน้องเอ ซึ่งตนรู้สึกยินดีและดีใจกับน้องมาก ๆ
ด้าน น้องเอ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้หนูถูกทำร้ายสาหัสจนจมูกหายใจได้เพียงข้างเดียว หลังจากทำศัลยกรรมรักษาจมูก หนูเหมือนได้ชีวิตใหม่ ก่อนหน้านี้เข้าใจมาเสมอว่าการทำศัลยกรรมคือการทำให้สวยขึ้น แต่สำหรับหนูไม่ได้ทำให้สวยขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยคืนลมหายใจของหนูให้กลับมาหายใจได้อย่างคนปกติอีกครั้งด้วย ซึ่งตอนนี้หนูหายใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว
ทั้งนี้ หนูขอขอบพระคุณ ดร.เซปิง ที่กรุณาคืนลมหายใจให้ และยังช่วยเปลี่ยนใบหน้าที่เคยถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นคนขี้เหร่ ให้เพิ่งได้สัมผัสคำว่าสวยในชีวิตนี้
สำหรับคดีอาญา วันที่ 14 มีนาคม 2567 ศาลจังหวัดราชบุรี นัดฟังคำพิพากษา อดีต ส.ต.ท.หญิง หรือ เจ๊นุช และ แฟนหนุ่ม ที่ร่วมกันทำร้าย น.ส.ปัทมา ศิริรัตน์ หรือ น.ส.เอ อดีตทหารหญิงรับใช้ ซึ่งศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และ 2 มีความผิด ร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส, จำเลยที่ 1 มีความผิด กรรโชกทรัพย์ และ ข่มขืนใจ มีโทษจำคุก 13 ปี 5 เดือน พร้อมให้จำเลยที่ 1 ชดใช้เงินให้กับ น.ส.เอ เป็นจำนวนเงิน 365,620 บาท และจำเลยที่ 2 พกพาอาวุธ และไม่จ่ายค่าแรงตามกฎหมาย มีโทษจำคุก 4 ปี 1 เดือน และให้จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมกันชดใช้เงินเป็นจำนวน 350,616 บาท ให้กับ น.ส.เอ
หลังจากที่เคยกลายเป็นข่าวใหญ่สุดหดหู่ กรณี น้องเอ (นามสมมติ) อดีตทหารหญิงรับใช้ ถูกนายจ้าง ส.ต.ท.หญิง ทำร้ายร่างกาย ทำให้จมูกแตกละเอียด หายใจได้ข้างเดียว ใบหน้าได้รับความเสียหายร้ายแรงจนผิดรูป
ที่ผ่านมา หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ได้ยื่นมือช่วยเหลือ โดยได้ประสานขอให้ ดร.เซปิง ไชยศาส์น ช่วยเหลือเคสนี้ พบว่าปัจจุบันน้องเอได้รับการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าจนประสบผลสำเร็จแล้ว ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยเปิดโฉมหน้าหลังการรักษามาก่อน จนกระทั่งตอนนี้ศาลจังหวัดราชบุรีมีคำพิพากษาแล้ว จึงขอเผยโฉมทั้งก่อนและหลังทำศัลยกรรมให้ประชาชนที่คอยส่งกำลังใจให้ได้ชมกัน
ดร.เซปิง ไชยศาส์น กล่าวว่า ทีมศัลยแพทย์ตกแต่งความงามได้ทำการผ่าตัดแก้ไขกระดูกอ่อนของผนังจมูก และปรับทางเดินหายใจด้านซ้ายที่อุดตัน ทำให้กลับมาหายใจด้วยโพรงจมูกด้านซ้ายได้เป็นปกติ การผ่าตัดแก้ไขหางตาด้วยการดึงหน้า ทำให้การมองเห็นกลับมาชัดเจนเป็นปกติ หางตายกสวยขึ้น นอกจากนี้ยังได้ผ่าตัดดึงหน้าผาก เพื่อทำลายพังผืดและยกกระชับเนื้อเยื่อบริเวณหน้าผาก
ในส่วนคางที่ดูผิดรูปและมีไขมันสะสมบริเวณแก้ม เหนียงและลำคอมาก จึงจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเสริมวัสดุทางการแพทย์ที่คาง รวมทั้งดูดไขมัน เพื่อแก้ไขให้รูปหน้ากลับมาเป็นปกติ ทำให้น้องเอกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติและมีใบหน้าที่สวยขึ้น
ดร.เซปิง เผยว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้หยิบยื่นโอกาสที่งดงามให้แก่น้องเอในครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะการที่น้องเอถูกทำร้ายจนจมูกหายใจไม่ได้หนึ่งข้าง ซึ่งที่ผ่านมามีแพทย์หลายท่านที่ปฏิเสธการรักษา แต่เมื่อตนสามารถจัดหาทีมแพทย์เข้ามาช่วยเหลือทำการผ่าตัดให้จนน้องเอสามารถหายใจได้เป็นปกติดีแล้ว ทำให้น้องสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นมาก
ในส่วนการศัลยกรรมแก้ไขจุดบกพร่องอื่น ๆ ทำให้น้องดูสวยขึ้น เป็นการเยียวยาจิตใจที่ดี ให้น้องได้มีโอกาสใช้ใบหน้าสร้างความมั่นใจ สร้างโอกาสในการทำงานเพื่อหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว การได้มอบใบหน้าใหม่ก็เสมือนเป็นการให้ชีวิตใหม่กับน้องเอ ซึ่งตนรู้สึกยินดีและดีใจกับน้องมาก ๆ
ด้าน น้องเอ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้หนูถูกทำร้ายสาหัสจนจมูกหายใจได้เพียงข้างเดียว หลังจากทำศัลยกรรมรักษาจมูก หนูเหมือนได้ชีวิตใหม่ ก่อนหน้านี้เข้าใจมาเสมอว่าการทำศัลยกรรมคือการทำให้สวยขึ้น แต่สำหรับหนูไม่ได้ทำให้สวยขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังช่วยคืนลมหายใจของหนูให้กลับมาหายใจได้อย่างคนปกติอีกครั้งด้วย ซึ่งตอนนี้หนูหายใจได้ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว
ทั้งนี้ หนูขอขอบพระคุณ ดร.เซปิง ที่กรุณาคืนลมหายใจให้ และยังช่วยเปลี่ยนใบหน้าที่เคยถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นคนขี้เหร่ ให้เพิ่งได้สัมผัสคำว่าสวยในชีวิตนี้
สำหรับคดีอาญา วันที่ 14 มีนาคม 2567 ศาลจังหวัดราชบุรี นัดฟังคำพิพากษา อดีต ส.ต.ท.หญิง หรือ เจ๊นุช และ แฟนหนุ่ม ที่ร่วมกันทำร้าย น.ส.ปัทมา ศิริรัตน์ หรือ น.ส.เอ อดีตทหารหญิงรับใช้ ซึ่งศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และ 2 มีความผิด ร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส, จำเลยที่ 1 มีความผิด กรรโชกทรัพย์ และ ข่มขืนใจ มีโทษจำคุก 13 ปี 5 เดือน พร้อมให้จำเลยที่ 1 ชดใช้เงินให้กับ น.ส.เอ เป็นจำนวนเงิน 365,620 บาท และจำเลยที่ 2 พกพาอาวุธ และไม่จ่ายค่าแรงตามกฎหมาย มีโทษจำคุก 4 ปี 1 เดือน และให้จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมกันชดใช้เงินเป็นจำนวน 350,616 บาท ให้กับ น.ส.เอ