กทม. เผย 4 สาเหตุ ค่าฝุ่นจิ๋ว PM2.5 พุ่งกลางดึกทั่วกรุงเทพฯ - ปริมณฑล หลังประชาชนรู้สึกถึงกลิ่นไหม้ผิดปกติ เมื่อคืนวันที่ 20 มี.ค. 67
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร
จากกรณีเมื่อคืนวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา มีประชาชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รู้สึกถึง "กลิ่นไหม้" ที่ไม่ปกติ รวมถึงค่าฝุ่น PM2.5 พุ่งสูงขึ้น จนหลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงสาเหตุของกลิ่นไหม้ดังกล่าว
ล่าสุด (21 มีนาคม 2567) นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร ให้คำตอบถึงสาเหตุของค่าฝุ่น PM2.5 ที่กลับมาพุ่งสูงใน กทม. ดังนี้
1. ทิศทางลมวันที่ 20 มี.ค. 67 เป็นทิศตะวันออก (ตามภาพ) ซึ่งต่างจากวันอื่น ๆ ช่วงนี้ที่มาจากอ่าวไทย ส่วนจุดเผาในช่วง 24 ชม. ที่ผ่านมา พบที่ปริมณฑลหลายจุด
2. ระยะนี้สภาพอากาศแปรปรวน มีพายุฤดูร้อน ประกอบกับมีความกดอากาศสูงผ่านทางอีสานมาเมื่อวาน ส่งผลให้ความสูงของชั้นบรรยากาศผสม (Mixing Height) ลดต่ำลง ฝุ่นละอองเกิดการสะสมตัวเพิ่มมากขึ้น
3. ความชื้นในบรรยากาศทำให้เกิดฝุ่นละออง PM2.5 ทุติยภูมิ (Secondary PM2.5) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชนิดที่เกิดจากสารประกอบไนโตรเจนและแอมโมเนียจะเกิดปฏิกิริยาได้ดีในสภาวะที่มีความชื้นสูง
4. รูปแบบฝุ่นทุติยภูมิ (Secondary PM2.5) เกิดจากก๊าซบางชนิดที่ลอยอยู่ในอากาศ เช่น ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ทำปฏิกิริยากับแสงแดด กลายเป็นฝุ่นลอยอยู่ในอากาศ มักเกิดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร
แหล่งกำเนิดหลักของออกไซด์ของไนโตรเจน เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงในรถยนต์ การเผาไหม้ถ่านหินหรือก๊าซธรรมชาติ หรือกระบวนการอุตสาหกรรมในโรงงานผลิตปุ๋ยและวัตถุระเบิด อย่างไรก็ตาม ประชาชนควรตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน โดยสามารถตรวจสอบได้ทางแอปพลิเคชัน AirBKK / เว็บไซต์ www.airbkk.com เฟซบุ๊ก สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร, กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม, กรุงเทพมหานคร หรือ LINE ALERT
โดยหากคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้ม ซึ่งหมายถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก และควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ส่วนประชาชนกลุ่มเสี่ยง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร
ภาพจาก เฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร
ขอบคุณข้อมูลจาก pr-bangkok.com