x close

เปิดคดีช็อก ฆ่าสาวท้อง 7 เดือน ลูกครึ่งไทย แม่ใจสลายเล่านาทีเจอศพ คนร้ายคือแฟนหนุ่ม


            เปิดคดีช็อก ฆ่าสาวท้อง 7 เดือน ลูกครึ่งไทย-สวีเดน พบฝีมือแฟนหนุ่มผู้ลี้ภัย เลือกฆ่าคนรักเพื่อรักษาเกียรติ แม่เหยื่อใจสลาย พบศพลูกด้วยตัวเอง

ฆ่าแฟน
ภาพจาก TikTok @juliaelneborg

            วันที่ 5 เมษายน 2567 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานเหตุฆาตกรรมช็อกสวีเดนที่เกิดขึ้นกับ ซากา ฟอร์สเกรน เอลเนบอร์ก หญิงสาววัย 20 ปี ลูกครึ่งไทย-สวีเดน ซึ่งถูกสงสัยว่าเป็นคดีการฆ่าเพื่อรักษาเกียรติยศ โดยฝีมือของแฟนหนุ่มผู้ลี้ภัยชาวโซมาเลีย เพราะไม่อยากเผชิญความอับอายในการบอกครอบครัวมุสลิมของตัวเอง ว่าเขากำลังคบหากับหญิงต่างศาสนาและกำลังจะมีลูกด้วยกัน

            เป็นเวลายาวนานเกือบ 1 ปี กว่าที่ โมฮาเมดามิน อับดิริเสก อิบราฮิม วัย 22 ปี จะถูกตั้งข้อหาเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมแฟนสาว โดยเขามีกำหนดขึ้นศาลในวันที่ 10 เมษายน อย่างไรก็ตาม โมฮาเมดามินยังปฏิเสธการกระทำผิดใด ๆ และยืนยันว่าเขารักแฟนสาวมาก

ฆ่าแฟน
ภาพจาก TikTok @juliaelneborg

ฆ่าแฟนสาวท้อง 7 เดือน แทนการบอกความจริงพ่อแม่


            สำหรับคดีความที่เกิดขึ้นนั้น ซากา ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ลูกชายได้ 7 เดือน ถูกพบในสภาพถูกสายไฟรัดคอเสียชีวิต ภายในแฟลตของเธอเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 โดยผู้ที่พบศพก็คือแม่ของเธอนั่นเอง ส่วนผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ก็คือแฟนหนุ่มของซากา ซึ่งเป็นผู้ลี้ภัยชาวโซมาเลีย เนื่องจากเขาไม่ต้องการเผชิญความอับอายในการสารภาพความจริงกับครอบครัวมุสลิมของตน ว่าเขากำลังคบกับสาวผิวขาวต่างศาสนา และเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา

            รายงานเผยว่า ครอบครัวของโมฮาเมดามินเป็นชาวมุสลิมที่เคร่งศาสนา ชายหนุ่มจึงเติบโตมากับครอบครัวที่ไม่ยอมรับการคบหาสาวผิวขาว และให้คบกับหญิงมีมาจากวัฒนธรรมเดียวกันเท่านั้น ดังนั้นแม้เขาจะคบหากับซากามานานถึง 2 ปีแล้ว แต่ก็ยังเก็บความสัมพันธ์นี้ไว้เป็นความลับ เพราะเชื่อว่าแม่เขาจะไม่ยอมรับ
 
            อัยการระบุว่า แทนที่โมฮาเมดามินจะสารภาพความจริงกับครอบครัวเรื่องที่แฟนสาวตั้งครรภ์ เขาเลือกที่จะไปหาเธอที่แฟลตและลงมือสังหาร

ฆ่าแฟน
ภาพจาก TikTok @juliaelneborg

แม่ใจสลาย เล่าเหตุการณ์เจอลูกครั้งสุดท้าย จนพบศพ


            จากเอกสารทางคดี มาลิสา เอลเนบอร์ก แม่ของผู้เสียชีวิตเคยให้การกับชุดสืบสวนว่า ในวันที่ 28 เมษายน 2566 เธอนัดพบกับเพื่อน ๆ โดยที่ลูกสาวมาร่วมโต๊ะอาหารด้วย วันนั้นซากามีท่าทางกังวลใจ เพราะแฟนหนุ่มมีแผนจะสารภาพความจริงกับพ่อแม่เขา เรื่องที่ตัวเองกำลังจะเป็นพ่อคน และแม้ซากาจะมีช่วงเวลาดี ๆ ที่ร้านอาหาร แต่เห็นได้ชัดว่าเธอเช็กดูโทรศัพท์มือถือบ่อยแค่ไหน

            จากนั้นแม่กับเพื่อน ๆ ก็แยกตัวไปยังสถานที่อื่นในเมือง โดยที่ซากาตัดสินใจกลับไปรอแฟนหนุ่มที่แฟลต ตอนนั้นแม่กับเพื่อน ๆ ยังอวยพรเด็กสาวให้โชคดี โดยไม่รู้ว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเขาได้เห็นเธอตอนยังมีชีวิต

            กระทั่งวันรุ่งขึ้น (29 เมษายน) แม่กลับไปเอาของที่แฟลตของลูกสาว แต่เมื่อเคาะประตูแล้วก็ไม่มีใครตอบรับ เธอจึงตะโกนผ่านกล่องจดหมายเข้าไปแต่ก็ยังไม่มีการตอบสนอง เธอจึงใช้กุญแจของตัวเองไขเข้าห้อง แล้วก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าประตูไม่ได้ล็อก ทั้งที่ปกติลูกสาวของเธอจะล็อกประตูเสมอไม่ว่าจะออกจากห้องไปซักผ้าหรือรับจดหมาย

            จากนั้นแม่เธอเริ่มมองหาเงาของลูกสาวไปทั่วห้อง พร้อม ๆ กับคุยโทรศัพท์กับลูกสาวคนโตไปด้วย กระทั่งในที่สุดเธอก็มองเห็นมีดที่ตกอยู่ รวมเห็นศพของลูกสาวเสียชีวิตพร้อมทารกในครรภ์ มาลิสาเผยว่าตอนนั้นเธอกรีดร้องใส่โทรศัพท์และร้องไห้อย่างบ้าคลั่งด้วยความโศกเศร้า เธอพยายามเข้าไปเช็กดูว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ก่อนจะเห็นว่ามีสายไฟพันอยู่รอบคอลูก จึงรีบโทร. ตามหน่วยฉุกเฉินให้เข้ามาตรวจสอบทันที

ฆ่าแฟน
ภาพจาก TikTok @juliaelneborg

            นับตั้งแต่นั้นอัยการได้กล่าวหาแฟนหนุ่มของซากา ว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ แต่เพิ่งมีการตั้งข้อกล่าวหาต่อชายคนนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หรือเกือบ 1 ปี นับตั้งแต่เกิดเหตุฆาตกรรม

            ในคำฟ้องของอัยการ ระบุชัดเจนว่า โมฮาเมดามิ ลงมือสังหารซากา ด้วยวิธีรัดคอจนขาดอากาศหายใจ ส่งผลต่อหลอดลมและเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง โดยการฆาตกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นในบริบทของการรักษาเกียรติ เพราะฝ่ายชายต้องการรักษาหรือฟื้นฟูเกียรติของตัวเองกับครอบครัว ด้วยการฆ่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ลูกของตัวเอง
 

            อนึ่ง รายงานยังพบว่าในช่วงที่ซากาเพิ่งทราบข่าวการตั้งครรภ์ แฟนหนุ่มพยายามโน้มน้าวให้เธอยุติการตั้งครรภ์มาแล้ว แต่ซากาตื่นเต้นดีใจมากที่จะได้เป็นแม่คน เธอยืนยันที่จะเลี้ยงดูเด็กคนนี้เองต่อให้ไม่ได้รับการสนับสนุนจากแฟนหนุ่มก็ตาม แต่แล้วต่อมาท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป เขาตัดสินใจจะแต่งงานกับเธอและมีแผนจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม โมฮาเมดามิไม่เชื่อว่าครอบครัวของตัวเองจะยังคงมีเกียรติ หากเขามีลูกกับแฟนสาว แต่เขาก็ไม่ได้บอกความจริงเรื่องนี้กับเธอเพราะกลัวเธอรู้สึกผิด
 
            อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานใด ๆ บ่งชี้ว่าครอบครัวของฝ่ายชายเกี่ยวข้องกับการสั่งการ หรือเป็นฝ่ายขอให้เขาฆ่าเธอหรือไม่ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจพบดีเอ็นเอของโมฮาเมดามิได้จากบริเวณใต้เล็บของผู้ตาย

ฆ่าแฟน
ภาพจาก TikTok @juliaelneborg

ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดคดีช็อก ฆ่าสาวท้อง 7 เดือน ลูกครึ่งไทย แม่ใจสลายเล่านาทีเจอศพ คนร้ายคือแฟนหนุ่ม อัปเดตล่าสุด 10 เมษายน 2567 เวลา 16:22:38 73,551 อ่าน
TOP