แม่ทรุด ลูกสาววัย 14 ป่วยโรคเบาหวาน เผยอาหารแต่ละมื้อที่ลูกสาวกินเป็นประจำ น้ำตาลสูง ได้แต่เสียใจเหมือนทำลายชีวิตลูก
เกาหมินหมิน นักโภชนาการชาวไต้หวัน ออกมาแชร์เรื่องดังกล่าวผ่านรายการโทรทัศน์ 醫師好辣 หลังเจอเคสของแม่ที่พาลูกสาววัย 14 ปี มาตรวจร่างกาย ก่อนจะพบว่าลูกสาวเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และค่าจากการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (HbA1c) ซึ่งจะได้ความเข้มข้นของน้ำตาลในเลือดเฉลี่ยสะสมช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา สูงถึง 12% - 13% มากกว่าเกณฑ์ปกติที่อยู่ระหว่าง 4% - 5.6%
เมื่อโรงเรียนเลิกเธอก็จะซื้อเชอหลุนปิ่งให้ลูกกินอีก 3 ชิ้น โดยเชอหลุนปิ่งเป็นขนมที่มีลักษณะคล้ายแป้งแพนเค้กกรอบ ๆ ด้านนอก และมีไส้ต่าง ๆ อยู่ภายใน จากนั้นทั้งครอบครัวก็จะออกไปกินมื้อค่ำด้วยกันอีกครั้งเมื่อพ่อเลิกงาน
ขณะที่อาหารเช้าของลูกสาวนั้น แม่ก็มักซื้อเอาจากร้านขายอาหารเช้า เนื่องจากเธอต้องรีบไปทำงานเช่นกัน ไม่มีเวลาเตรียมอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
เกาหมินหมิน ชี้ว่าอาหารของเด็กหญิงมีน้ำตาลทรายขาวประมาณที่สูงมาก อีกทั้งเมื่อไม่มีใครใส่ใจเรื่องการกินของเด็กเป็นเวลานาน ในที่สุดจึงเกิดเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งเมื่อแม่ได้ทราบสาเหตุก็ได้แต่ร้องไห้และโทษตัวเอง "ฉันทำลายชีวิตลูกงั้นเหรอ ?" ขณะที่ลูกสาวได้แต่ก้มหน้าลงเงียบ ๆ
นักโภชนาการถอนหายใจ เผยว่า เป็นเพราะแม่ร้องไห้เลยทำให้ลูกสาวรู้สึกเหมือนตัวเองก่ออาชญากรรมไปด้วย
ทั้งนี้ ประชาชนยังสามารถสังเกต 8 อาการเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้ด้วยตัวเอง ก่อนเข้ารับการรักษา เช่น
1. หิวน้ำบ่อย
2. ปัสสาวะบ่อย
3. หิวบ่อย
4. น้ำหนักลด
5. เหนื่อยง่าย
6. เห็นภาพมัว
7. เป็นแผลหายยาก
8. มีอาการคันตามผิวหนัง
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางคนอาจไม่ได้มีอาการตรงกับอาการด้านบนเสมอไป จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรตรวจสุขภาพตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Hk01