ช่างตะลึง เจอสายไฟต่อพ่วงบนดาดฟ้าซูเปอร์มาร์เกต ตามไปดู พบมีคนอยู่ในป้าย ใช้ชีวิตมาเป็นปีไม่มีใครรู้ ทึ่งจัดไม่มีบันได ปีนขึ้นไปยังไง
ในบรรดาที่อยู่มากมายซึ่งคนไร้บ้านใช้เป็นที่ซุกหัวนอน หลายคนอาจนึกถึงเพิงข้างทาง ป้ายรถเมล์ หรือแม้กระทั่งแคมป์ชั่วคราว แต่คงไม่มีใครคาดคิดอย่างแท้จริง ว่าป้ายไฟของร้านค้าจะถูกนำมาใช้เป็นรังลับ ๆ ของหญิงคนหนึ่งได้เช่นกัน จึงกลายเป็นเรื่องราวสุดพิลึกที่เว็บไซต์อ็อดดิตี้เซ็นทรัล นำมารายงานเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567
โดยพบว่า หญิงวัย 34 ปีรายหนึ่ง ในรัฐมิชิแกน สหรัฐฯ ได้แอบเข้าไปอยู่ในป้ายบนดาดฟ้าของซูเปอร์มาร์เกต Family Fare สาขาหนึ่งในเมืองมิดแลนด์ มาประมาณ 1 ปีแล้ว ซึ่งเป็นอะไรที่น่าทึ่งอย่างยิ่งเพราะไม่มีใครสังเกตความผิดปกตินี้เลย
กระทั่งไม่นานมานี้ ผู้รับเหมาก่อสร้างรู้สึกเอะใจแปลก ๆ เมื่อพบว่ามีสายไฟถูกต่อพ่วงบนหลังคาของซูเปอร์มาร์เกตดังกล่าว จึงตัดสินใจเดินตามสายไฟนั้นไป จนพบว่าสายถูกต่อเข้าไปในป้ายไฟของซูเปอร์มาร์เกตบริเวณดาดฟ้า ทำให้เขาพบว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญอาศัยอยู่ในป้ายดังกล่าว พร้อมเปลี่ยนป้ายร้านให้กลายเป็นที่อยู่แสนสบาย มีทั้งการปูพื้น และนำของใช้ต่าง ๆ เช่น โต๊ะขนาดเล็ก คอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ หรือแม้แต่เครื่องชงกาแฟ อยู่ภายในนั้น
เมื่อตำรวจถูกเรียกมา หญิงรายนี้ก็ยอมรับว่าเธอมีงานทำอยู่ที่อื่น แต่ไม่มีบ้าน จึงอาศัยอยู่ในป้ายนี้มาประมาณ 1 ปีแล้ว
เจ้าหน้าที่แบรนนอน วอร์เวน จากกรมตำรวจมิดแลนด์ ระบุว่า หญิงรายนี้เป็นคนไร้บ้าน และเรื่องที่เกิดขึ้นก็ทำให้เขาถึงกับเกาศีรษะ กลายเป็นว่ามีคนเคยพบเห็นหญิงคนนี้เป็นครั้งคราว แต่อยู่ ๆ เธอก็จะหายตัวไป ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปที่ไหน และไม่มีใครคิดว่าเธอจะปีนขึ้นไปบนดาดฟ้า
ที่น่าฉงนกว่านั้นคือบริเวณดาดฟ้าของอาคารแห่งนี้ไม่มีการติดบันได จึงเป็นที่น่าสงสัยอย่างยิ่งว่าเธอปีนขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าได้อย่างไร แต่หญิงรายนี้ก็ไม่ได้เฉลยให้ตำรวจรับรู้ จนทางตำรวจเรียกเธอว่าเป็นนินจาหลังคา
สำหรับการใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจัดว่าไม่ลำบาก เพราะตลอดช่วงเวลา 1 ปีที่แอบมาอาศัย เธอได้ทำการปูฟื้นไว้แล้ว และแอบใช้ไฟที่ต่อพ่วงมาจากเต้ารับบนดาดฟ้า นอกจากอุปกรณ์สำนักงานอย่างคอมพิวเตอร์และโต๊ะขนาดเล็กแล้ว ตำรวจยังพบเสื้อผ้าและของใช้อื่น ๆ ที่น่าจะพบเห็นได้ตามบ้านเรือนทั่วไป
ทั้งนี้ หลังถูกจับได้หญิงรายนี้ก็ถูกบอกให้ย้ายออกไป ซึ่งเธอก็ยอมย้ายออกไปทันทีหลังกล่าวขอโทษสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เธอปฏิเสธไม่ยอมติดต่อศูนย์บริการใด ๆ สำหรับคนไร้บ้าน ขณะที่เจ้าของสถานที่ก็ไม่ได้ฟ้องเอาผิดเธอ
"เธอกล่าวขอโทษและเดินไปตามทางของตัวเองต่อ ซึ่งเธอไปจะที่ไหนหลังจากนี้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน" เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก Odditycentral