ทนายแฉ รพ.กรมราชทัณฑ์ ใส่ท่อช่วยหายใจผิด ไปลงหลอดอาหาร ทำบุ้ง ทะลุวัง เสียชีวิต ด้าน กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงแล้ว รักษาตามกระบวนการและวิชาชีพ
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
วันที่ 19 พฤษภาคม 2567 ไทยพีบีเอส รายงานว่า นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตนางสาวเนติพร หรือบุ้ง ทะลุวัง ว่า ทาง รพ.กรมราชทัณฑ์ ยังไม่ได้ส่งรายละเอียด 5 วันการรักษาบุ้ง ก่อนเสียชีวิตวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตามที่เคยร้องขอไป
ส่วนเหตุผลที่ขอเพียง 5 วัน เพื่อเลี่ยงข้ออ้างที่ว่า ถ้าขอผลการรักษายาวกว่านั้นต้องใช้เวลา และข้อมูลเพียง 5 วันก็ย้อนหลังที่จะบ่งชี้การรักษาว่าได้มาตรฐานหรือไม่ รวมถึงคลิปจากกล้องวงจรปิดก็ยังไม่ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ทาง รพ.ธรรมศาสตร์ ให้ความร่วมมือนับตั้งแต่วันเสียชีวิต รายละเอียดการรักษามีเยอะ และเคยแถลงเบื้องต้นว่า สาเหตุเสียชีวิตมาจากภาวะหัวใจล้มเหลว ขาดอากาศหายใจ
ผลของการใส่ท่อช่วยหายใจผิดจุด ทำให้ลมที่ออกไปจะเข้าไปที่ท้องและลำไส้ และวันที่ชันสูตร ตนเห็นว่าท้องบวมมาก ในลำไส้เต็มไปด้วยลม ทำให้การวัดค่าหายใจมีค่าลมหายใจเป็น 0 เมื่อถึงมือแพทย์ของ รพ.ธรรมศาสตร์ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่ให้รายงาน และปิดบังการรักษา
นอกจากนี้ ยังพบสารบางอย่างที่จะแยกแยะจากผลตรวจเลือดต่อไป ตนยืนยันว่า นางสาวเนติพรเริ่มรับอาหารและมีการให้ยาและให้โพแทสเซียมก็รับมาตลอด ไม่มีข้อมูลว่าเคยปฏิเสธการรับยาและโพแทสเซียม
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ขณะที่กรมราชทัณฑ์ ออกแถลงการณ์สรุปได้ว่า ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ ชี้แจงกระบวนการรักษาและการช่วยชีวิตของนางสาวเนติพรว่า ทีมบุคลกรทางการแพทย์ ช่วยชีวิตในภาวะวิกฤตตามมาตรฐานการรักษาพยาบาล โดยมีแพทย์ใส่ท่อช่วยหายใจ นวดหัวใจ ให้ยากระตุ้นหัวใจ ยากระตุ้นความดันโลหิตตามมาตรฐานการช่วยชีวิตชั้นสูง และบุคลากรทางการแพทย์ให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา จนส่งตัวไปถึง รพ.ธรรมศาสตร์
กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่า เราให้การดูแลรักษาผู้ต้องขังตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข มีบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการช่วยชีวิตผู้ป่วย ได้มาตรฐานถูกต้องทุกอย่าง ตลอดกระบวนการรักษาที่เป็นไปตามหลักวิชาชีพ
ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ขอให้ติดตามข้อมูลทางการแพทย์และผลการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตจาก รพ.ธรรมศาสตร์ เพื่อเป็นข้อมูลที่เชื่อถือได้ต่อไป ส่วนประวัติการรักษานางสาวเนติพร ได้เตรียมพร้อมให้ทนายความและญาติมารับมอบเอกสารในวันเปิดทำการแล้ว
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส