พ่อแม่ช็อกหนัก หลังรู้ว่าลูกวัย 2 ขวบติดเชื้อซิฟิลิสแบบไม่แสดงอาการ สืบเสาะจนรู้ว่าคุณยายที่คอยเลี้ยงหลานมีเชื้อด้วย คาดมาจากพฤติกรรมนี้ของยาย เป็นเรื่องใกล้ตัวมาก ๆ
วันที่ 22 พฤษภาคม 2567 เว็บไซต์ hk01 รายงานว่าที่โรงพยาบาลการแพทย์แผนจีนหางโจว ประเทศจีน ได้มีเคสที่แพทย์พบว่า เด็กชายวัย 2 ขวบติดเชื้อซิฟิลิส จนทำให้ทางครอบครัวถึงกับช็อก แพทย์จึงต้องสอบถามถึงพฤติกรรมทางเพศของคนในครอบครัวว่าเป็นอย่างไร รวมไปถึงส่งผู้ใหญ่ในบ้านไปตรวจหาเชื้อ ก่อนที่จะพบว่า คุณยายในบ้านมีเชื้อซิฟิลิส และนำเชื้อมาติดที่หลาน เพราะพฤติกรรมนี้
ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีเด็กชายที่ชื่อว่า เหาเหา (นามสมมุติ) วัย 2 ขวบ ได้เตรียมตัวที่จะเข้าผ่าตัดเล็กในโรงพยาบาลในหางโจว และก่อนที่จะผ่าตัด เจ้าหน้าที่ก็ต้องทำการตรวจเลือดก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อได้รับผลเลือดกลับมา กลับสร้างความตื่นตกใจครั้งใหญ่ เพราะพบว่าเด็กชายเหาเหา ติดเชื้อซิฟิลิส
จากนั้นทางคุณพ่อคุณแม่ จึงพาลูกไปตรวจหาเชื้อที่แผนกโรคผิวหนังของโรงพยาบาล และคุณหมอก็ส่งน้องเหาเหาไปตรวจเลือดอีกรอบ และผลก็ออกมาเหมือนเดิมคือ น้องเหาเหามีเชื้อซิฟิลิส แม้ว่ามันจะไม่รบกวนการใช้ชีวิต แต่หมอก็ต้องทำการรักษาน้องเหาเหาก่อน
และเมื่อคุณพ่อคุณแม่ ตรวจไม่พบเชื้อ คุณแม่ก็คิดว่าอาจจะเกิดจากการที่คุณตาคุณยายที่มาช่วยดูหลาน เป็นคนเอาเชื้อมาให้ คุณแม่จึงขอให้คุณตาคุณยายไปตรวจเลือด และผลออกมาคือ คุณตาไม่ติดเชื้อ และคุณยายมีเชื้อซิฟิลิส จึงอาจเป็นไปได้ที่คุณยายจะเอาเชื้อมาติดหลาน
ทั้งนี้ เชื้อซิฟิลิสมักจะติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ โดยทั่วไปจะเริ่มจากการมีแผลบริเวณอวัยวะเพศ ปาก หรือทวารหนัก และมักจะแพร่กระจายผ่านการสัมผัสบาดแผลกับผิวหนังหรือเยื้อบุต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายโดยผ่านรอยขีดข่วนหรือบาดแผลเล็ก ๆ บนผิวหนัง ซึ่งการแพร่กระจายสามารถเกิดได้ทั้งในระยะแรก หรือระยะที่มีแผลริมแข็ง หรือในระยะที่สองคือมีผืนจึ้น หรือแม้กระทั่งในช่วงแรก ๆ ที่ไม่แสดงอาการใด ๆ เลยก็ตาม
อย่างไรก็ตาม เชื้อซิฟิลิสมักไม่ติดต่อผ่านการใช้เสื้อผ้าร่วมกัน ใช้ห้องน้ไร่วมกัน หรือแม้แต่จับพื้นผิวต่าง ๆ ร่วมกัน แต่มีบางกรณีที่พบไม่บ่อยนัก และสามารถติดได้คือ ติดจากการสัมผัสโดยตรงกับบริเวณที่ติดเชื้อขณะนั้น เช่น การจูบ เป็นต้น