คนลาวรีวิว เข้าโรงพยาบาลไทย เงินไม่พอ เขียนไทยไม่ได้ ทำยังไง หมอเมตตาจนต้องยกมือไหว้

          คนลาวรีวิว มาเข้าโรงพยาบาลในไทย กลาง กทม. เงินไม่พอ เขียนไทยไม่ได้ แต่หมอ-พยาบาล ไม่เคยดูถูก เป็นครั้งแรกที่เห็นหมอรับไหว้ขอบคุณคนไข้ ขอบคุณมาก ๆ ที่ให้โอกาสในชีวิต

          ในปัจจุบันได้มีแรงงานต่างชาติที่มาทำงานในไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมาย จะได้รับสิทธิด้านการรักษาพยาบาลตามระบบประกันสังคม มีสิทธิอย่างเท่าเทียมและเข้าถึงการรักษาแบบคนไทยทุกประการ อย่างไรก็ตาม ในบางครั้งที่เกิดเหตุการณ์แรงงานต่างด้าวขาดสิทธิ ประกันขาด แต่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล แล้วจะต้องทำอย่างไร

          ล่าสุด YouTube น้ำมนต์ Channel ซึ่งเป็นชาวลาวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ได้มารีวิวการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เมื่อเขาไม่สามารถเขียนภาษาไทยได้ เงินไม่พอจ่าย แต่ได้รับความเมตตาจากโรงพยาบาลในไทย และการบริการที่ดี จนเขาก็ต้องยกมือไหว้ขอบคุณคนไทยที่มีน้ำใจให้คนลาวมาก ไม่ได้แบ่งแยกว่าเป็นต่างด้าวแล้วจะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากคนไทย


          ทั้งนี้ คุณน้ำมนต์ได้เผยว่า น้องสาวของเขามีอาการไข้ 2 วัน น้องสาวได้ไปคลินิก แต่ทางคลินิกแนะนำให้ไปโรงพยาบาลแทน น้องสาวจึงโทร. หาคุณน้ำมนต์ที่เป็นพี่ชาย ให้พาไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน กทม. แถวถนนสามเสน ซึ่งเขาก็ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลในไทย เคยแต่เข้าโรงพยาบาลที่ สปป.ลาว

          เมื่อไปถึงโรงพยาบาลแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ตอนแรกก็อ่านและตรงไปที่ประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่ก็ถามว่าคนไข้เป็นอะไร เขาก็บอกว่าน้องสาวเป็นไข้ได้ 2 วันแล้ว เจ้าหน้าที่จึงให้กรอกประวัติ แต่คุณน้ำมนต์บอกว่าตนกรอกเอกสารไม่เป็น เพราะเป็นคนต่างด้าว เจ้าหน้าที่จึงขอพาสปอร์ต ขอใบอนุญาตทำงาน เพื่อมากรอกข้อมูลให้

          จากนั้นจึงไปวัดความดันและวัดไข้ และพาคนไข้ขึ้นเตียง เจ้าหน้าที่บอกให้คุณน้ำมนต์รอข้างนอก และเข็นพาคนไข้เข้าห้องฉุกเฉินทันที คุณน้ำมนต์ก็รอไปนาน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่มาประชาสัมพันธ์หาญาติ มีการเขียนใบสั่งยาและใบเสร็จมาให้เพื่อให้คุณน้ำมนต์ฺไปจ่ายเงินก่อน ทั้งหมด 3 รอบ คิดเป็นเงินประมาณ 8,000 บาท

          คนลาวประทับใจ รักษาพยาบาลในไทย กับการบริการที่ดีมาก ผ่อนได้ ช่วยได้ มีพยาบาลดูแล ขอบคุณคนไทย

          คุณน้ำมนต์มาโรงพยาบาลตั้งแต่บ่าย 2 จนกระทั่ง 23.00 น. ก็ยังไม่เห็นน้องสาวออกมาจากห้องฉุกเฉิน คุณน้ำมนต์ก็ห่วงน้อง แต่ด้วยความเป็นคนบ้านนอก ก็ไม่กล้าเข้าไปถาม สิ่งที่รู้คร่าว ๆ คือน้องสาวต้องใช้เลือด และตอนเที่ยงคืนก็มีการประกาศหาญาติอีก และเห็นเจ้าหน้าที่เข็นน้องสาวออกมาไปห้องพักฟื้น คุณน้ำมนต์ก็เลยเดินไปพร้อมน้องสาว

          เมื่อถึงห้องพักฟื้น ก็มีพยาบาลอายุประมาณ 20 ต้น ๆ ทั้งหมด 3 คน เข้ามาสอบถามหลายอย่าง และถามว่าญาติกังวลอะไรหรือไม่ ญาติมีประกันหรือไม่ หรือญาติมีสิทธิ์ไหนหรือไม่ แต่น้องสาวซึ่งเคยมีประกันแต่ไม่ได้ต่อประกัน ก็บอกกับพยาบาลว่า ตนไม่มีประกัน พยาบาลเลยถามว่า ญาติมีกำลังจ่ายเท่าไร คุณน้ำมนต์ก็บอกว่าตอนนี้ตนเหลือเงิน 5,000 บาท และถามต่อว่า ที่มีคนมารักษาแล้วไม่มีเงินจ่าย หรือผ่อนจ่ายได้ไหม หรือลดราคาค่ารักษาพยาบาลได้ไหม พยาบาลก็บอกว่า ทำได้

          คุณน้ำมนต์ก็ถามต่อว่า ถ้าสมมุติหมดเงิน 5,000 บาทที่มีแล้ว ยังรักษาน้องไม่หาย จะทำอย่างไร พยาบาลก็บอกว่า จะมีการปรึกษาสังคมสงเคราะห์อีกครั้ง หรือไม่อย่างนั้นก็ให้ญาติมาผ่อนจ่ายได้ จนคุณน้ำมนต์ก็ตกใจว่าทำแบบนี้ได้ด้วย


          นอกจากนี้ พยาบาลและคุณหมอ ทุกคนต่างพูดจาดี ไม่มีกระแทก ที่ต่างประเทศมีแต่คนไข้ขอบคุณหมอ ที่ไทยหมอกลับขอบคุณคนไข้ และเมื่อตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายได้ ก็ให้ญาติกลับบ้าน และมาเยี่ยมได้เป็นเวลา ที่โรงพยาบาลมีอาหารให้กิน มีพยาบาลดูแล แตกต่างกับที่อื่นที่ตนไปใช้บริการมา ที่ญาติต้องหาอาหารให้คนไข้เอง ญาติต้องนอนเฝ้าคนไข้ด้วย

          "ข้าพเจ้าขอยกมือไหว้ ขอบคุณพยาบาลไทย ขอบคุณหมอไทย ขอบคุณคนไทย ข้าพเจ้าซาบซึ้งน้ำใจมาก"
    
          คุณน้ำมนต์ตกใจมากที่โรงพยาบาลไทยสามารถติดหนี้ค่ารักษาได้ ลดค่ารักษาได้ ผ่อนจ่ายค่ารักษาได้ มีอาหารให้คนไข้กิน มีคนเฝ้าคนไข้แทน และเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ทำให้คนไข้และญาติมีกำลังใจที่ดี จากที่เป็นหนัก ๆ ก็ช่วยให้โรคหายไปครึ่งหนึ่ง