คดีสังหารหมู่เวียดนาม จองห้องพัก 7 คน มีคนหายปริศนา ล่าสุดรู้แล้วใคร เจอไซยาไนด์ที่แก้ว

         ตำรวจสงสัย จองห้องพัก 7 คน แต่มีคนหายตัวปริศนา ล่าสุดพบตัวแล้ว เป็นน้องสาวของผู้เสียชีวิต เดินทางออกนอกประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม ไม่เกี่ยวข้องกับคดี ที่เครื่องดื่มตรวจพบไซยาไนด์

         จากกรณีที่มีเหตุฆาตกรรม 6 ศพที่โรงแรมหรูใจกลางเมือง ทั้งหมดเป็นชาวเวียดนาม โดยในที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้ มีอาหารที่สั่งเข้ามา แต่ยังไม่ได้กิน ส่วนที่ศพมีรอยดำที่ปาก คล้ายกับการถูกวางยาพิษ ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นฝีมือใคร

         วันที่ 17 มิถุนายน 2567 ไทยพีบีเอส รายงานว่า พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. แถลงข่าวเกี่ยวกับคดีนี้ว่า มีผู้เสียชีวิตในห้องทั้งหมด 6 คน ทั้งหมดล้วนเข้ามาเช็กอินไม่พร้อมกัน ตั้งแต่วันที่ 13-14 กรกฎาคม แต่มีวันที่ต้องเช็กเอาต์พร้อมกันคือ วันที่ 15 กรกฎาคม


         สิ่งที่น่าสงสัยคือ มีชาวเวียดนามจองห้องทั้งหมด 7 คน แต่มาเช็กอิน 5 คน แบ่งเป็นชั้น 7 จำนวน 4 ห้อง และชั้น 5 จำนวน 1 ห้อง ซึ่ง 5 คนที่มาเช็กอินตรงกับผู้เสียชีวิต ส่วนศพที่ 6 กำลังตรวจสอบว่า มาได้อย่างไร และคนที่ 7 ที่จองห้องพักไว้ มีจริงไหม ? ถ้าหากไม่มีบุคคลที่ 7 แล้วอะไรคือมูลเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้

         ข้อมูลจากทางโรงแรม ระบุว่า ทั้งหมดมีการเก็บกระเป๋าจากชั้น 7 ไปรวมที่ชั้น 5 คาดว่า ทั้งหมดจะรู้จักกัน แต่ยังไม่มีการเดินทางออก เพราะบุคคลที่นัดหมายไม่มาพบ และโรงแรมก็ระบุอีกว่า ไม่มีการลงมาชำระเงิน


         ขณะเดียวกัน ในจุดเกิดเหตุประตูจะเปิดจากด้านหน้าไม่ได้ ดังนั้นแม่บ้านที่เข้ามาตรวจสอบก่อนพบศพ ต้องเข้ามาจากด้านหลัง ตรงนี้เป็นโซนวิลล่า ลักษณะไพรเวตโซน และยังเชื่อมต่อกันได้อีก 1 ห้อง ถ้าหากมีผู้ก่อเหตุคนอื่น ก็มีความเป็นไปได้ที่จะใช้เส้นทางนี้หลบหนี แต่ทางออกไปยังลิฟต์มีทางเดียว

         เฟซบุ๊ก อีซ้อขยี้ข่าว3 มีการโพสต์เกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิต เป็นช่างแต่งหน้าชื่อดังของเวียดนาม ทำให้ข่าวนี้ดังในเวียดนามมาก ส่วนโพสต์สุดท้ายก่อนที่จะเสียชีวิตคือ การเดินทางไปกินผัดไทยเจ้าดัง และเดินทางมาประเทศไทยบ่อยมาก


         ข่าวช่องวัน รายงานว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตรวจสอบรายชื่อบุคคลคนที่ 7 ได้แล้ว คาดว่าเป็นน้องสาวของ 1 ใน 6 คนที่เสียชีวิต ผลการตรวจสอบพบว่า เดินทางกลับประเทศไทยตั้งแต่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ดังนั้นการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากบุคคล 1 ใน 6 ที่อยู่ในห้องเป็นคนวางยาทั้งหมด แล้วตัวเองเสียชีวิตเป็นรายสุดท้าย ปมสังหารมาจากปมหนี้สิน


         ส่วนการตรวจสอบขวดน้ำ 2 ขวดและแก้วน้ำต้องสงสัยที่คาดว่าผู้เสียชีวิตใช้ดื่ม พบสารไซยาไนด์ผสมอยู่ในเครื่องดื่ม
ขอบคุณข้อมูลจาก ไทยพีบีเอส, ข่าวช่องวัน