เปิดที่มา สินค้ามือสอง - ของมือสองญี่ปุ่น ที่ส่งมาในไทย ขายดิบขายดีจนแย่งกัน เป็นของจากบ้านคนตายก็มีอยู่จริง
สินค้ามือสองจากญี่ปุ่น ได้รับความนิยมในประเทศไทยไม่น้อย หลายโกดังสินค้าที่นำเข้ามา มีผู้คนจำนวนมากพากันไปต่อคิวเพื่อเข้าไปแย่งชิงซื้อสินค้า ซึ่งภาพที่เกิดขึ้นสร้างความประหลาดใจให้กับทางสื่อของญี่ปุ่น ไม่คิดว่าสินค้ามือสองในบ้านเขาจะเป็นกระแสฟีเว่อร์ในต่างประเทศได้ขนาดนี้
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 บน YouTube ช่อง ANNnewsCH รายการโทรทัศน์ของญี่ปุ่น ได้นำเสนอเรื่องราวของสินค้ามือสอง หรือที่เรียกว่า "ของมือสองญี่ปุ่น" ที่ถูกส่งมาขายยังประเทศไทย โดยทางทีมงานรายการได้ลงพื้นที่ไปสืบดูที่มาของของมือสองนี้ โดยมุ่งหน้าไปที่บ้านเก่าหลังหนึ่งในเมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด และได้พบกับ มินาโตะ เก็นโด วัย 48 ปี ซึ่งเปิดบริษัทจัดหาของมือสองในฮอกไกโด โดยเขาได้ไปที่บ้านหลังนั้น เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์และสินค้าอื่น ๆ สำหรับส่งมาขายที่ประเทศไทย
มินาโตะ เผยว่า เจ้าของบ้านหลังนี้ได้ติดต่อขอให้เขาเข้าไปเคลียร์ข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน หรือจะพูดได้ว่า ให้เขาไปซื้อข้าวของของผู้ตาย หลังจากที่พ่อแม่สูงอายุของพวกเขาที่อยู่ในบ้านหลังนี้เสียชีวิต เนื่องจากทางครอบครัวต้องการรื้อถอนบ้านหลังนี้ และจากการประเมินดูคร่าว ๆ ประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ของข้าวของในบ้านหลังนี้สามารถขายได้ที่ประเทศไทย
โดยที่บ้านเก่าหลังนี้ เป็นเหมือนขุมสมบัติของมือสอง โดยเฉพาะในห้องเก็บของชั้น 2 หนึ่งในนั้นเป็นพัดลมโบราณ มินาโตะเผยว่า เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมมันถึงขายได้ แต่ขายได้ราคาดีอยู่ที่ 3,000-40,000 เยน (ราว 700-9,400 บาท) เข้าใจว่าของในญี่ปุ่นมีคุณภาพที่ดีมาก แม้กระทั่งปากกาหรือเครื่องเย็บกระดาษก็ยังสามารถขายเป็นของมือสองได้
ต่อมา มินาโตะได้ไปที่บ้านอีกหลังซึ่งทางเจ้าของบ้าน ได้ขอให้เขาเข้าไปช่วยกำจัดสิ่งของในบ้าน ซึ่งเป็นของเก่าของคุณพ่อที่จากไปแล้ว โดยพบโซฟา 3 ที่นั่งในห้องนั่งเล่น รับซื้อมาในราคา 450 เยน (ราว 105 บาท) นาฬิกาแขวน ราคา 150 เยน (ราว 35 บาท) แผ่นเสียงเก่า 20 แผ่น ราคา 250 เยน (ราว 60 บาท) กล่องเครื่องมือ 500 เยน (ราว 120 บาท) และอื่น ๆ อีกหลายชิ้น โดยมินาโตะมั่นใจว่า ของทั้งหมดสามารถขายได้ในประเทศไทย
"ฉันคิดว่าจะต้องทิ้งมันไป เลยดีใจมากที่มีคนได้ใช้มัน" ครอบครัวเจ้าของบ้าน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ของมือสองญี่ปุ่นไม่ได้มีเพียงแค่ของเก่าจากผู้ที่ล่วงลับ แต่ยังมีของเก่าสภาพดีจากผู้ที่ไม่ต้องการใช้แล้ว ทำให้สามารถส่งมาขายที่ประเทศไทยได้ และขายได้ดีมากเช่นเดียวกัน โดยในบรรดาของเก่ามือสอง ของใช้แล้วที่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้ ก็กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย
ยกตัวอย่างกีตาร์เก่าญี่ปุ่น ราคา 10,000 เยน (ราว 2,350 บาท) แต่เสียงยังเจ๋งอยู่ รวมไปถึงเสื้อผ้ามือสองญี่ปุ่น ที่ยังสวยงามแถมคุณภาพยังดีด้ายไม่หลุดรุ่ย ชั่งขายตามน้ำหนักราคาประมาณ 200 เยน (ราว 47 บาท) ต่อ 100 กรัม รวมถึงกระเป๋ามืองสองญี่ปุ่น อุปกรณ์เครื่องมือช่าง และแท่นบูชาพระก็ได้รับความสนใจมากเช่นกัน
นอกจากนี้ ร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทยก็ได้รับความนิยมมากเช่นเดียวกัน ดังนั้นทางผู้ประกอบการพบว่า มีสินค้ามือสองหลายชิ้นถูกนำไปเป็นของตกแต่งแต่งภายในร้านอาหาร เช่น โมเดลตุ๊กตาญี่ปุ่นต่าง ๆ จาน ถ้วยชาม รวมไปถึงแผ่นเสียงและซีดีเก่าของญี่ปุ่นก็สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับนักลงทุนชาวไทย เจ้าของร้านขายของมือสองรายหนึ่งในไทยถึงขนาดบอกว่า "ของมือสองญี่ปุ่นเปลี่ยนชีวิตฉัน"
รายงานเผยว่า สินค้ามือสองญี่ปุ่นไม่ว่าจะมีมากแค่ไหนก็สามารถขายได้ ของมือสอง 1 ตู้คอนเทนเนอร์ในญี่ปุ่น ส่งไปขายที่ไทยในราคา 2.6 ล้านเยน (ราว 6 แสนบาท) และเดือนละไม่ต่ำกว่า 30 ตู้ โดยในนั้นจะมีสินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ เครื่องเล่นเปียโน ราคาชิ้นละไม่ต่ำกว่า 50,000 เยน (ราว 11,000 บาท) รวมไปถึงจักรยานมือสองญี่ปุ่น ก็ขายได้ราคาดี แม้ว่าบางชิ้นจะได้มาจากหน้าสถานีรถไฟ หรือที่อื่น ๆ แต่ก็ยังมีสภาพดีและแข็งแรงอยู่
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก YouTube ANNnewsCH