พ่อตาอยู่ด้วยกันมา 20 ปี ใช้ชีวิตสุดเรียบง่าย ใครจะรู้ว่าหลังตายไปจะทิ้งทรัพย์สินเป็นร้อยล้าน ลูกเขยสับสนมากหลังรู้เรื่องมรดก เผยเอาไปทำอะไร
วันที่ 16 กันยายน 2567 เว็บไซต์ Soha รายงานว่า ชายจีนคนหนึ่งได้ออกมาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อตาของเขา ที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานาน 20 ปี และเพิ่งจะจากไปด้วยวัย 89 ปี ซึ่งที่ผ่านมาพ่อตาของเขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายสมถะ ดังนั้นเขากับภรรยาจึงช็อกจริง ๆ เมื่อมีชายแปลกหน้า 2 คนติดต่อมาหาพวกเขาหลังการเสียชีวิตของพ่อตา เพื่อแจ้งข่าวเรื่องพินัยกรรมที่ทำให้เขากับภรรยารู้สึกสับสนอย่างมาก
โดยชายคนนี้ชื่อ หลี่เหลียง อายุ 45 ปี เป็นครูโรงเรียนมัธยมปลาย ชีวิตของเขากับภรรยาเหมือนสายน้ำที่นิ่งสงบและมั่นคง ขณะที่พ่อตานั้นใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันที่บ้านนับตั้งแต่เขาแต่งงาน ก่อนจะถึงวัยเกษียณพ่อตาเคยเป็นศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย ผู้มีความรู้กว้างขวางและมีบุคลิกเข้มงวด แต่เพราะพ่อตาแยกทางกับภรรยาเร็ว และมีลูกสาวแค่คนเดียว จึงใช้ชีวิตกับลูกสาวเรื่อยมาแม้แต่หลังลูกสาวแต่งงานแล้ว
แต่แล้วในคืนหนึ่งกลางฤดูร้อนที่ผ่านมา พ่อตาที่แก่ชราถึง 89 ปี ก็เสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยเหตุนี้ลูกเขยกับลูกสาวจึงวางแผนที่จะปรับปรุงบ้านใหม่ หรือไม่ก็ย้ายไปอยู่บ้านที่มีขนาดเล็กกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ไม่คาดเลยว่าหลังจากชายชราจากไป ทันทีหลังเสร็จพิธีศพ ทนาย 2 คนซึ่งเคยเป็นตัวแทนทางกฎหมายของพ่อตาจะมาหาพวกเขา พร้อมกับพินัยกรรม
คู่สามีภรรยาประหลาดใจอย่างมากเมื่อทนายประกาศเนื้อหาในพินัยกรรม เริ่มจากการแจกแจงทรัพย์สินลับ ๆ ของพ่อตาที่เก็บสะสมมาตลอดทั้งชีวิต ทั้งเงินเก็บ การลงทุน อสังหาริมทรัพย์ หนังสือหายาก และงานศิลปะมูลค่ากว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 166 ล้านบาท) ซึ่งเป็นอะไรที่ดูขัดจากการใช้ชีวิตเรียบง่ายของเขามาก
ที่ช็อกยิ่งกว่านั้นคือ พ่อตาเลือกจะบริจาคทรัพย์สินส่วนใหญ่ให้แก่มหาวิทยาลัยและองค์กรการกุศล เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาและทุนการศึกษา ขณะที่ลูกสาวกับลูกเขยได้รับส่วนแบ่งเพียง 1 ใน 5 ของทรัพย์สินทั้งหมด
แม้หลังทนายกลับไป คู่สามีภรรยายังคงจมอยู่กับความเงียบ พวกเขาย้อนนึกถึงอดีตและรู้สึกสับสนกับอนาคต ภรรยาเองก็เดินหน้าตู้หนังสือ ลูบหนังสือที่พ่อของเธอทิ้งไว้ ราวจะค้นหาคำตอบ พวกเขาไม่รู้เลยว่าจะสามารถเข้าใจความรู้สึกจริง ๆ ของชายชราได้อย่างไร
แต่ระหว่างจัดวางของที่พ่อตาทิ้งไว้ ทั้งคู่ก็ได้พบไดอารี่ของพ่อตา ซึ่งเขียนบรรยายความคิดกับความรู้สึกต่าง ๆ เก็บไว้ ในไดอารี่นั้นเผยว่า พ่อตาเลือกที่จะบริจาคทรัพย์สินเพราะเขาเชื่อในการศึกษา ส่วนมรดกที่ทิ้งไว้ให้ครอบครัว ก็คือการแสดงความรักในแบบของเขา
เมื่อได้ทราบเจตนาของพ่อตา ก็พบว่านี่ไม่ใช่เพียงแค่การแสดงความขอบคุณและยังเป็นการอวยพรแก่ชีวิตของลูก ๆ พ่อตาอยากให้ลูก ๆ ได้เติมเต็มความฝันและมีชีวิตที่ดีกว่า ดังนั้นหลี่เหลียงกับภรรยาจึงตัดสินใจใช้เงินที่ได้รับ พากันเดินทางไปเที่ยวรอบโลกเพื่อเติมเต็มความปรารถนาอันยาวนาน และจากนั้นก็ใช้เงินที่เหลือระดมทุนเพื่อประโยชน์ด้านการศึกษาและรับใช้ชุมชนต่อไป เพื่อที่แม้พ่อตาของเขาจะจากไป แต่จิตวิญญาณนั้นจะยังอยู่ในใจของพวกเขาเสมอ
ติดตามอ่าน ข่าวต่างประเทศ ที่น่าสนใจได้ที่นี่
ขอบคุณข้อมูลจาก Soha