ซีอีโอสาวบอกเอง สัมภาษณ์งานหาพนักงานใหม่ เจอผู้สมัครพูดแบบนี้คงไม่จ้าง เผยคุณสมบัติในพนักงานที่มองหา มีสิ่งสำคัญยิ่งกว่าแค่ทำงานเก่ง
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ในขณะที่คำถามเกี่ยวกับการสัมภาษณ์งาน มักเป็นเรื่องราวน่าสนใจและทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ที่แตกต่าง การได้รับฟังเรื่องราวจากฝ่ายนายจ้างเองก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยล่าสุด (1 ตุลาคม 2567) เว็บไซต์ CTWANT เพิ่งจะนำเสนอทัศนคติของซีอีโอหญิงแห่ง Blueland แบรนด์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากสหรัฐฯ ที่ออกมาแชร์ความคิดของเธอ เกี่ยวกับลักษณะของผู้ร่วมงานที่มองหา รวมถึงลักษณะของคนที่เธอจะไม่จ้างมาเป็นพนักงานแน่ ๆ
โดยจากการสัมภาษณ์กับ CNBC ซาราห์ ไพจี ยู วัย 40 ปี ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Blueland บอกอย่างชัดเจนว่าในการมองหาพนักงานใหม่นั้น คนที่มั่นใจว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก ชอบพูดแทรกคนอื่น และโฟกัสแค่ความสนใจของตัวเอง คือกลุ่มที่เธอจะไม่จ้างเข้ามาทำงาน เพราะแม้พวกเขาจะเก่งในการทำงาน แต่ก็อาจเป็นภัยแก่บริษัทได้ง่าย ๆ
ภาพจาก Instagram spaiji
"ฉันชอบที่จะเป็นผู้นำที่เปิดกว้างและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ ซึ่งฉันคิดว่านั่นคือสิ่งที่สมาชิกทุกคนที่เรานำเข้ามาในทีมจำเป็นต้องมีเช่นกัน" ไพจี ยู กล่าว
ด้วยเหตุนี้ หากมีผู้สมัครเดินเข้ามาแล้วแนะนำตัวเองว่า "ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ และสามารถเป็นคนตัดสินใจในขั้นสุดท้ายได้" เธอก็คงไม่อยากจ้าง และหลีกเลี่ยงที่จะรับคนเหล่านี้มาเป็นพนักงาน
ภาพจาก Instagram spaiji
ซีอีโอหญิงมองว่า คนประเภทที่ต่อต้านการทำงานร่วมกับคนอื่นและโฟกัสแค่ความสนใจของตัวเอง อาจเป็นภัยแก่บริษัท เพราะแม้คนเหล่านี้จะทำงานได้ดี แต่ง่ายที่จะทำลายสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยพวกเขาสามารถทำให้เพื่อนร่วมงานหงุดหงิดได้ ซึ่งยังจะส่งผลให้กำลังใจในการทำงานของทีมตกต่ำ กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน และทำลายความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน
ขณะเดียวกัน เฮดี เค.การ์ดเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นผู้นำ จากโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด มีแนวคิดที่คล้ายคลึงกับ ไพจี ยู โดยชี้ว่า การร่วมมือกันได้ไม่เพียงแค่จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีกว่า แต่พนักงานที่ร่วมมือกับผู้อื่นได้ยังจะดูเป็นมิตรกว่าในที่ทำงาน และได้เปรียบมากกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ เพราะพวกเขามักส่งมอบชิ้นงานที่มีคุณภาพสูงกว่า จึงเป็นที่สังเกตเห็นจากผู้บริหารระดับสูงได้มากกว่า และจะเลื่อนขั้นได้เร็วกว่า
ภาพจาก Instagram spaiji
แม้การทำงานร่วมกับคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป้าหมายหลักนั้นเรียบง่ายมาก นั่นคือการนำคนมาอยู่ร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ โดยแนวคิดที่ เค.การ์ดเนอร์ ยึดถือเสมอก็คือ คนที่คิดต่างจากเขา ก็คือคนที่มีความรู้ในสิ่งที่ต่างไปจากเขา ทำให้เขาสามารถเรียนรู้จากคนเหล่านั้นได้มาก
ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT, CNBC
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ในขณะที่คำถามเกี่ยวกับการสัมภาษณ์งาน มักเป็นเรื่องราวน่าสนใจและทำให้เราได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ที่แตกต่าง การได้รับฟังเรื่องราวจากฝ่ายนายจ้างเองก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยล่าสุด (1 ตุลาคม 2567) เว็บไซต์ CTWANT เพิ่งจะนำเสนอทัศนคติของซีอีโอหญิงแห่ง Blueland แบรนด์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากสหรัฐฯ ที่ออกมาแชร์ความคิดของเธอ เกี่ยวกับลักษณะของผู้ร่วมงานที่มองหา รวมถึงลักษณะของคนที่เธอจะไม่จ้างมาเป็นพนักงานแน่ ๆ
โดยจากการสัมภาษณ์กับ CNBC ซาราห์ ไพจี ยู วัย 40 ปี ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Blueland บอกอย่างชัดเจนว่าในการมองหาพนักงานใหม่นั้น คนที่มั่นใจว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก ชอบพูดแทรกคนอื่น และโฟกัสแค่ความสนใจของตัวเอง คือกลุ่มที่เธอจะไม่จ้างเข้ามาทำงาน เพราะแม้พวกเขาจะเก่งในการทำงาน แต่ก็อาจเป็นภัยแก่บริษัทได้ง่าย ๆ
ภาพจาก Instagram spaiji
"ฉันชอบที่จะเป็นผู้นำที่เปิดกว้างและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ ซึ่งฉันคิดว่านั่นคือสิ่งที่สมาชิกทุกคนที่เรานำเข้ามาในทีมจำเป็นต้องมีเช่นกัน" ไพจี ยู กล่าว
ด้วยเหตุนี้ หากมีผู้สมัครเดินเข้ามาแล้วแนะนำตัวเองว่า "ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ และสามารถเป็นคนตัดสินใจในขั้นสุดท้ายได้" เธอก็คงไม่อยากจ้าง และหลีกเลี่ยงที่จะรับคนเหล่านี้มาเป็นพนักงาน
ภาพจาก Instagram spaiji
ซีอีโอหญิงมองว่า คนประเภทที่ต่อต้านการทำงานร่วมกับคนอื่นและโฟกัสแค่ความสนใจของตัวเอง อาจเป็นภัยแก่บริษัท เพราะแม้คนเหล่านี้จะทำงานได้ดี แต่ง่ายที่จะทำลายสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยพวกเขาสามารถทำให้เพื่อนร่วมงานหงุดหงิดได้ ซึ่งยังจะส่งผลให้กำลังใจในการทำงานของทีมตกต่ำ กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน และทำลายความสัมพันธ์ในกลุ่มเพื่อนร่วมงาน
ขณะเดียวกัน เฮดี เค.การ์ดเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นผู้นำ จากโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด มีแนวคิดที่คล้ายคลึงกับ ไพจี ยู โดยชี้ว่า การร่วมมือกันได้ไม่เพียงแค่จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีกว่า แต่พนักงานที่ร่วมมือกับผู้อื่นได้ยังจะดูเป็นมิตรกว่าในที่ทำงาน และได้เปรียบมากกว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ เพราะพวกเขามักส่งมอบชิ้นงานที่มีคุณภาพสูงกว่า จึงเป็นที่สังเกตเห็นจากผู้บริหารระดับสูงได้มากกว่า และจะเลื่อนขั้นได้เร็วกว่า
ภาพจาก Instagram spaiji
แม้การทำงานร่วมกับคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป้าหมายหลักนั้นเรียบง่ายมาก นั่นคือการนำคนมาอยู่ร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ โดยแนวคิดที่ เค.การ์ดเนอร์ ยึดถือเสมอก็คือ คนที่คิดต่างจากเขา ก็คือคนที่มีความรู้ในสิ่งที่ต่างไปจากเขา ทำให้เขาสามารถเรียนรู้จากคนเหล่านั้นได้มาก
ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT, CNBC