เตือนภัย นศ. หลงเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกขู่ให้กักตัว เรียกค่าไถ่ผู้ปกครอง ตกเป็นเหยื่อเพียบ


          เตือนภัย นักศึกษานับ 10 ราย หลงเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขู่พัวพันคดี หลอกจะช่วยเคลียร์ต้องไปกักตัวเงียบ ๆ ก่อนเรียกค่าไถ่ผู้ปกครอง เสียหนักสุด 5 แสน

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกนักศึกษากักตัว เรียกค่าไถ่ผู้ปกครอง
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

          วันที่ 10 ตุลาคม 2567 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้ร่วมกับตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จัดกิจกรรมเสวนาให้ความรู้ในหัวข้อ "SUT รู้ทันกลลวง คอลเซ็นเตอร์ ภัยร้ายใกล้ตัว" หลังจากที่เกิดเหตุการณ์แก๊ง คอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์มาใช้อุบายหลอกนักศึกษาให้ไปเช่าหอพักกักตัว แล้วหลอกให้ผู้ปกครองโอนเงินให้ ซึ่งพบว่ามีนักศึกษาในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และในพื้นที่อื่น ๆ ตกเป็นเหยื่อลักษณะนี้หลายราย ซึ่งนอกจากลักษณะดังกล่าว ยังมีนักศึกษา มทส. ตกเป็นเหยื่อจากภัยมิจฉาชีพรูปแบบต่าง ๆ อีกกว่า 200 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท

          นายอรรถวุฒิ ภูคำวงษ์ ที่ปรึกษาหอพัก มทส. เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 1 สิงหาคม - 30 กันยายน 2567 มีนักศึกษา มทส. ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพรูปแบบต่าง ๆ มากกว่า 200 ราย โดยเฉพาะภัยจากมิจฉาชีพหลอกว่ามีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด และออกอุบายให้นักศึกษาไปเช่าหอพักกักตัว หลอกให้ผู้ปกครองโอนเงินมาให้ ซึ่งมีนักศึกษา มทส. ตกเป็นเหยื่อมากกว่า 10 ราย ในจำนวนนี้ตำรวจสามารถช่วยเหลือไว้ได้ทัน 2 ราย

เปิดอุบายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้คดีหลอก นศ. ให้ไปกักตัวเงียบ ก่อนรีดค่าไถ่ผู้ปกครอง


          พฤติกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะทำงานกันเป็นทีม เริ่มจากปลอมเป็นตำรวจ โทรศัพท์หาผู้เสียหาย ทำเป็นว่ามีหมายเลขบัตรประชาชนไปเกี่ยวข้องคดีต่าง ๆ เช่น ไปติดตั้งอินเทอร์เน็ตบ้านแล้วไม่ชำระเงินที่ต่างจังหวัด พัวพันเว็บพนันออนไลน์ เว็บสื่อลามกอนาจาร แล้วแต่มิจฉาชีพจะสร้างสถานการณ์ข่มขู่ให้เหยื่อเกิดความหวาดกลัว เกี่ยวกับคดีต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น

          หลังจากเหยื่อหลงเชื่อ มิจฉาชีพจะให้เหยื่อไปหาสถานที่เงียบ ๆ คนเดียว สนทนาโดยไม่ให้มีบุคคลที่สาม อยู่ด้วย และสั่งห้ามบอกใครเด็ดขาด ออกกลอุบายให้เหยื่อไปเช่าห้องพักกักตัวเองเพื่อพูดคุยคดีความ เหยื่อบางรายกักตัวเอง 7 วัน โดยมิจฉาชีพจะใช้จิตวิทยาพูดคุยเหยื่อผ่านออนไลน์ พร้อมห้ามบอกใครว่าพักอยู่ที่ไหน

          หลังจากเหยื่อดำเนินการต่าง ๆ เสร็จ มิจฉาชีพก็เริ่มให้เหยื่อโอนค่าการดำเนินคดีก่อน และควบคุมเหยื่อผ่านออนไลน์ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งมิจฉาชีพจะทำหน้าที่เข้าเวร เปลี่ยนกันควบคุมเหยื่อทางออนไลน์ หลังจากนั้นจะให้เหยื่อหลอกลวงผู้ปกครองสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ในการหาเงินมาให้ เช่น ให้ถ่ายรูปปัจจุบันแล้วตกแต่งภาพผ่านแอปฯ ต่าง ๆ ว่าโดนทำร้ายร่างกาย หรือให้พิมพ์ข้อความว่าถูกจับตัวหรือหายตัวออกจากหอ แล้วส่งไปให้ผู้ปกครอง พร้อมสั่งให้เหยื่อพิมพ์ข่มขู่ผู้ปกครองตนเองเพื่อให้ได้เงิน

          หากผู้ปกครองคนไหนหลงเชื่อก็จะโอนให้บุตรหลานอย่างรวดเร็ว เพราะมิจฉาชีพใช้เหยื่อเป็นเครื่องมือในการติดต่อผู้ปกครอง ไม่ได้ให้ติดต่อเอง เพราะถ้าผู้ปกครองโอนโดยตรงก็จะเกิดข้อสงสัยถึงเลขบัญชีปลายทาง จึงต้องใช้บัญชีเหยื่อเป็นเครื่องมือ และให้โอนเงินให้กลุ่มมิจฉาชีพอีกที

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกนักศึกษากักตัว เรียกค่าไถ่ผู้ปกครอง
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกนักศึกษากักตัว เรียกค่าไถ่ผู้ปกครอง
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกนักศึกษากักตัว เรียกค่าไถ่ผู้ปกครอง
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

          จากนั้นมิจฉาชีพจะโทร. หาผู้ปกครองเอง ข่มขู่ว่าลูกติดพนันออนไลน์ ให้นำเงินมาใช้หนี้ หรือถูกจับเรียกค่าไถ่บ้าง แล้วแต่จะสร้างสถานการณ์ หากผู้ปกครองหลงเชื่อก็จะเสียทรัพย์ทันที เคสล่าสุดดีที่ไปช่วยได้ทัน รู้ที่พักของเหยื่อที่ถูกหลอกไปเช่าอยู่ แจ้งผู้ปกครองและคนรอบและห้ามการโอนได้ แต่ก็มีการเสียทรัพย์จำนวนหนึ่ง เคสนี้เสียเงิน 33,000 บาท

          อย่างไรก็ดี มีบางเคสที่ไปเช่ารีสอร์ตซึ่งอยู่ห่างไกลมหาวิทยาลัย ทำให้ติดต่อไม่ได้ มีนักศึกษารายหนึ่งที่ถูกหลอกเสียเงินมากที่สุดมากถึง 5 แสนบาท ขณะที่เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา เพียงวันเดียว มีเคสนักศึกษา มทส. ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ 3 ราย เสียเงินไปกว่า 6.9 แสนบาท ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าถ้ารวมความเสียหายของเหยื่อทั้งหมดกว่า 200 คน จะมากกว่า 3 ล้านบาท หลังจากนี้ทางหอพักมหาวิทยาลัย จะมีการแจ้งข่าวสาร เตือนนักศึกษาหลากหลายช่องทาง และขอความอนุเคราะห์ให้หอพักเครือข่าย มทส.และหอพักรอบมหาวิทยาลัยสอดส่องดูแลเด็กในหอพักอย่างใกล้ชิด

          มิจฉาชีพมีการให้เหยื่อตายใจ โอนเงินให้ค่าเช่าห้องพักเพื่อถ่วงเวลาให้เหยื่ออยู่กักตัวเองต่อ และหาแนวทางให้เหยื่อโกหกหลอกให้ผู้ปกครองโอนเงินให้ได้มากที่สุด และจะอ้างว่าทำเรื่องทางคดียังไม่เสร็จ เงินที่จ่ายให้กลับมาก็คือเงินเหยื่อที่โอนให้จำนวนก่อนหน้านี้

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกนักศึกษากักตัว เรียกค่าไถ่ผู้ปกครอง
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้


แนะอย่าหลงเชื่อว่าโดนคดี ย้ำตำรวจไม่แจ้งข้อหาผ่านโทรศัพท์


          ด้าน พ.ต.อ. วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง กล่าวว่า กรณีนี้มีนักศึกษา มทส. ตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพกว่า 200 ราย ส่วนใหญ่จะเป็นการหลอกให้ซื้อของออนไลน์แล้วได้ของไม่ตรงปก แต่ที่สูญเสียเงินมาก ๆ จะเป็นกลุ่มที่ถูกมิจฉาชีพปลอมเป็นตำรวจ แจ้งว่านักศึกษาเกี่ยวข้องกับคดีต่าง ๆ เช่นคดีพนันออนไลน์ ซึ่งวัยรุ่นหลายคนอาจจะเคยเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะข่มขู่ว่าอาจเชื่อมโยงกับคดี ฟอกเงินให้เหยื่อหวาดกลัว แล้วอ้างว่าจะช่วยเคลียร์คดีให้ แต่ต้องทำตามที่บอก ทำให้นักศึกษาหลงเชื่อโอนเงินไปให้จำนวนมาก

          ตำรวจฝากเตือนว่า หากถูกข่มขู่ด้วยคดีเช่นนี้ ความผิดลักษณะนี้เป็นความผิดเล็กน้อย ไม่ต้องกลัว นอกจากนี้ ทางตำรวจไม่มีนโยบายโทรศัพท์มาแจ้งข้อกล่าวหา แต่จะมีการออกหมายเรียกให้เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น ถ้าสงสัยก็ขอให้เข้ามาที่โรงพักใกล้เคียง เพื่อให้ตรวจสอบว่าคนที่โทรศัพท์มาเป็นตำรวจจริงหรือปลอม อย่าเพิ่งหลงเชื่อโอนเงินไปเป็นอันขาด เพราะถ้าโอนเงินไปแล้วจะไม่มีโอกาสได้เงินคืนแน่นอน

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกนักศึกษากักตัว เรียกค่าไถ่ผู้ปกครอง
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้

แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกนักศึกษากักตัว เรียกค่าไถ่ผู้ปกครอง
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้


ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เตือนภัย นศ. หลงเชื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถูกขู่ให้กักตัว เรียกค่าไถ่ผู้ปกครอง ตกเป็นเหยื่อเพียบ อัปเดตล่าสุด 11 ตุลาคม 2567 เวลา 10:41:22 7,192 อ่าน
TOP
x close