คนซูฮก สาวสองซัดหนุ่มอ้างตัวเป็นทนาย หลังปากแจ๋ว ด่าหยาบแถมปาของใส่ โซเชียลสะใจ เทียบภาพฮีโร่ปราบพยัคฆ์
ภาพจาก Weibo
วันที่ 15 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์มาเธอร์ชิป รายงานกรณีที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในจีน หลังปรากฏคลิปไวรัลขณะที่สาวประเภทสองรายหนึ่ง กำลังซัดชายที่อ้างตัวเป็นทนายภายในร้านไหตี่เลา สาขาในเมืองฉางซา ทางตอนใต้ของจีน หลังจากที่ฝ่ายชายเข้ามาหาเรื่องด้วยการพูดจาเหยียดยามเธอกับเพื่อน ๆ ซ้ำยังหยิบข้าวของต่าง ๆ มาปาใส่โดยไม่มีเหตุผล ซึ่งเมื่อภาพการวิวาทของทั้ง 2 ฝ่ายกลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ ก็ทำให้ชาวเน็ตต่างชื่นชม พร้อมเทียบภาพเธอกับวีรบุรุษในตำนาน ผู้ปราบเสือด้วยมือเปล่า
รายงานเผยว่า จากคลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา พบว่าขณะที่สาวประเภทสองรายนี้กำลังนั่งกินหม้อไฟอยู่กับกลุ่มเพื่อน ชายที่สวมเสื้อสีขาวซึ่งนั่งโต๊ะติดกัน ได้ลุกขึ้นมาด่ากลุ่มของพวกเธอด้วยคำพูดหยาบคาย เขายังหยิบขาตั้งโลหะแถวนั้นมาขว้างใส่เธอด้วย ดังนั้นเธอจึงตอบโต้ด้วยการขว้างผักใส่เขาเช่นกัน ทำให้เพื่อนที่สวมเดรสสีนู้ดต้องรีบเข้ามาห้าม
ภาพจาก Weibo
แต่ฝ่ายชายยังยั่วยุไม่หยุด เขายังขู่ว่าจะขอภาพวงจรปิดจากทางร้าน แล้วมารีดเงินจากเธอให้หมดตัว เพราะเขาเป็นทนายฮ่องกง
การวิวาททวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจากนั้นพบว่าฝ่ายชายคว้าอะไรสักอย่างมาฟาดไปที่ศีรษะของเธออย่างน้อย 5 ครั้ง แต่เธอก็ไม่ยอม จัดการหยุมหัวพร้อมใช้รองเท้าส้นสูงฟาดใส่เขาอีกหลายครั้งเช่นกัน พร้อมถามว่า "นายดูมีเกียรติกว่าแค่เพราะนายมาจากฮ่องกงงั้นเหรอ มีสิทธิ์อะไรมาพูดจาแย่ ๆ กับคนฉางซา"
ภาพจาก Weibo
ผลจากการวิวาท ทำให้ผมต่อของเธอและแว่นของฝ่ายชายหลุดไปกองบนพื้น และสุดท้ายเพื่อนของฝ่ายชายก็ต้องเข้ามาดึงตัวเขาออกไปจากร้าน
คลิปดังกล่าวถูกแชร์และกลายเป็นที่พูดถึงทั่วโซเชียลจีนหลังจากนั้นไม่นาน โดยชาวเน็ตที่ได้ชมต่างแสดงความสะใจและชื่นชมสาวประเภทสองรายนี้ ที่ยืนหยัดเพื่อตัวเองและคนฉางซา บางคนยังถึงขั้นนำภาพของเธอตอนที่กำลังหยุมหัวฝ่ายชายปากดี มาเทียบกับภาพของ อู่ซง หรือ บู๊สง วีรบุรุษปราบเสือด้วยมือเปล่า อันเป็นตัวละครที่โด่งดังในจีน
ภาพจาก Weibo
ต่อมา เจียงหยาน สาวประเภทสองรายนี้ตัดสินใจออกมาไลฟ์สตรีมบน Douyin เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งในมุมของเธอ โดยชี้ว่า คู่กรณีเป็นคนแปลกหน้าที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหลังเธอกับเพื่อน ๆ แต่ด้วยเหตุผลที่ไม่ทราบชัด อยู่ ๆ เขาก็มาหาเรื่องโต๊ะของเธอ และเริ่มพูดว่าผู้คนในเมืองฉางซาเป็นคนจน มีรสนิยมห่วย ๆ และนิสัยที่น่ารังเกียจ
ภาพจาก Douyin
พฤติกรรมของคู่กรณีทำให้พวกเธออยากออกไปจากจุดนั้น แต่ฝ่ายนั้นก็ยังพูดจาแย่ ๆ ไม่หยุด ตอนแรกเธอก็ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เพราะเพื่อนคนหนึ่งของคู่กรณี เอาแต่ขอโทษแทนเขา พวกเธอถึงขั้นคิดที่จะออกจากร้านด้วยแม้จะกินยังไม่เสร็จ แต่คู่กรณีก็ยังหาเรื่องไม่หยุด เขายังตามมาด่าพวกเธอและจุดหนึ่งถึงขั้นคุยโว บอกว่าสามารถเลี้ยงเหล้าพวกเธอได้ 30 ลังแบบชิล ๆ เพราะเชื่อว่าพวกเธอคงไม่มีปัญหาจ่ายกัน
เจียงหยาน เผยว่า หลังจากที่เริ่มวิวาทกัน คู่กรณีใช้โทรศัพท์มือถือของเขาฟาดศีรษะเธอมากกว่า 10 ครั้ง ในขณะที่เธอใช้รองเท้าส้นสูงฟาดคืนได้แค่ 3-4 ครั้งเท่านั้น แถมเมื่อการวิวาทจบลง ขณะที่ถูกเพื่อนลากตัวออกจากร้านไป คู่กรณียังปากดี บอกว่าไม่ต้องจ่ายค่าอาหารให้เขา รวมถึงบอกว่า ให้ทิ้งบิลไว้กับเพื่อนเขาได้เลย
ภาพจาก Weibo
ทั้งนี้ เจียงหยาน ยืนยันว่าพร้อมรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง หลังจากที่ออกมาชี้แจงเรื่องราวให้ถูกต้องแล้ว
ต่อมาเธอยังเผยอีกคลิปหนึ่งเพื่อยืนยันว่า เธอไม่เคยคิดที่จะเอาคลิปเหตุการณ์นี้มาขายเพื่อแสวงหากำไร หลังมีคนแอบอ้างเป็นเธอเอาคลิปไปขายแลกเงิน ในทางกลับกัน เธอย้ำว่าการใช้กำลังวิวาทนั้นไม่มีวันแก้ปัญหาได้ และเธอก็หวังว่าทุกคนจะไม่สนับสนุนพฤติกรรมดังกล่าว
ภาพจาก Weibo
ภาพจาก Weibo
ขอบคุณข้อมูลจาก Mothership
ภาพจาก Weibo
วันที่ 15 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์มาเธอร์ชิป รายงานกรณีที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในจีน หลังปรากฏคลิปไวรัลขณะที่สาวประเภทสองรายหนึ่ง กำลังซัดชายที่อ้างตัวเป็นทนายภายในร้านไหตี่เลา สาขาในเมืองฉางซา ทางตอนใต้ของจีน หลังจากที่ฝ่ายชายเข้ามาหาเรื่องด้วยการพูดจาเหยียดยามเธอกับเพื่อน ๆ ซ้ำยังหยิบข้าวของต่าง ๆ มาปาใส่โดยไม่มีเหตุผล ซึ่งเมื่อภาพการวิวาทของทั้ง 2 ฝ่ายกลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ ก็ทำให้ชาวเน็ตต่างชื่นชม พร้อมเทียบภาพเธอกับวีรบุรุษในตำนาน ผู้ปราบเสือด้วยมือเปล่า
รายงานเผยว่า จากคลิปเหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา พบว่าขณะที่สาวประเภทสองรายนี้กำลังนั่งกินหม้อไฟอยู่กับกลุ่มเพื่อน ชายที่สวมเสื้อสีขาวซึ่งนั่งโต๊ะติดกัน ได้ลุกขึ้นมาด่ากลุ่มของพวกเธอด้วยคำพูดหยาบคาย เขายังหยิบขาตั้งโลหะแถวนั้นมาขว้างใส่เธอด้วย ดังนั้นเธอจึงตอบโต้ด้วยการขว้างผักใส่เขาเช่นกัน ทำให้เพื่อนที่สวมเดรสสีนู้ดต้องรีบเข้ามาห้าม
ภาพจาก Weibo
แต่ฝ่ายชายยังยั่วยุไม่หยุด เขายังขู่ว่าจะขอภาพวงจรปิดจากทางร้าน แล้วมารีดเงินจากเธอให้หมดตัว เพราะเขาเป็นทนายฮ่องกง
การวิวาททวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยจากนั้นพบว่าฝ่ายชายคว้าอะไรสักอย่างมาฟาดไปที่ศีรษะของเธออย่างน้อย 5 ครั้ง แต่เธอก็ไม่ยอม จัดการหยุมหัวพร้อมใช้รองเท้าส้นสูงฟาดใส่เขาอีกหลายครั้งเช่นกัน พร้อมถามว่า "นายดูมีเกียรติกว่าแค่เพราะนายมาจากฮ่องกงงั้นเหรอ มีสิทธิ์อะไรมาพูดจาแย่ ๆ กับคนฉางซา"
ภาพจาก Weibo
ผลจากการวิวาท ทำให้ผมต่อของเธอและแว่นของฝ่ายชายหลุดไปกองบนพื้น และสุดท้ายเพื่อนของฝ่ายชายก็ต้องเข้ามาดึงตัวเขาออกไปจากร้าน
คลิปดังกล่าวถูกแชร์และกลายเป็นที่พูดถึงทั่วโซเชียลจีนหลังจากนั้นไม่นาน โดยชาวเน็ตที่ได้ชมต่างแสดงความสะใจและชื่นชมสาวประเภทสองรายนี้ ที่ยืนหยัดเพื่อตัวเองและคนฉางซา บางคนยังถึงขั้นนำภาพของเธอตอนที่กำลังหยุมหัวฝ่ายชายปากดี มาเทียบกับภาพของ อู่ซง หรือ บู๊สง วีรบุรุษปราบเสือด้วยมือเปล่า อันเป็นตัวละครที่โด่งดังในจีน
ภาพจาก Weibo
สาวสองฮีโร่ แจงเหตุการณ์ ยันถูกหาเรื่องทั้งที่ไม่รู้จัก
ต่อมา เจียงหยาน สาวประเภทสองรายนี้ตัดสินใจออกมาไลฟ์สตรีมบน Douyin เพื่อบอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้งในมุมของเธอ โดยชี้ว่า คู่กรณีเป็นคนแปลกหน้าที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหลังเธอกับเพื่อน ๆ แต่ด้วยเหตุผลที่ไม่ทราบชัด อยู่ ๆ เขาก็มาหาเรื่องโต๊ะของเธอ และเริ่มพูดว่าผู้คนในเมืองฉางซาเป็นคนจน มีรสนิยมห่วย ๆ และนิสัยที่น่ารังเกียจ
ภาพจาก Douyin
พฤติกรรมของคู่กรณีทำให้พวกเธออยากออกไปจากจุดนั้น แต่ฝ่ายนั้นก็ยังพูดจาแย่ ๆ ไม่หยุด ตอนแรกเธอก็ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เพราะเพื่อนคนหนึ่งของคู่กรณี เอาแต่ขอโทษแทนเขา พวกเธอถึงขั้นคิดที่จะออกจากร้านด้วยแม้จะกินยังไม่เสร็จ แต่คู่กรณีก็ยังหาเรื่องไม่หยุด เขายังตามมาด่าพวกเธอและจุดหนึ่งถึงขั้นคุยโว บอกว่าสามารถเลี้ยงเหล้าพวกเธอได้ 30 ลังแบบชิล ๆ เพราะเชื่อว่าพวกเธอคงไม่มีปัญหาจ่ายกัน
เจียงหยาน เผยว่า หลังจากที่เริ่มวิวาทกัน คู่กรณีใช้โทรศัพท์มือถือของเขาฟาดศีรษะเธอมากกว่า 10 ครั้ง ในขณะที่เธอใช้รองเท้าส้นสูงฟาดคืนได้แค่ 3-4 ครั้งเท่านั้น แถมเมื่อการวิวาทจบลง ขณะที่ถูกเพื่อนลากตัวออกจากร้านไป คู่กรณียังปากดี บอกว่าไม่ต้องจ่ายค่าอาหารให้เขา รวมถึงบอกว่า ให้ทิ้งบิลไว้กับเพื่อนเขาได้เลย
ภาพจาก Weibo
ทั้งนี้ เจียงหยาน ยืนยันว่าพร้อมรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง หลังจากที่ออกมาชี้แจงเรื่องราวให้ถูกต้องแล้ว
ต่อมาเธอยังเผยอีกคลิปหนึ่งเพื่อยืนยันว่า เธอไม่เคยคิดที่จะเอาคลิปเหตุการณ์นี้มาขายเพื่อแสวงหากำไร หลังมีคนแอบอ้างเป็นเธอเอาคลิปไปขายแลกเงิน ในทางกลับกัน เธอย้ำว่าการใช้กำลังวิวาทนั้นไม่มีวันแก้ปัญหาได้ และเธอก็หวังว่าทุกคนจะไม่สนับสนุนพฤติกรรมดังกล่าว
ภาพจาก Weibo
ภาพจาก Weibo
ขอบคุณข้อมูลจาก Mothership