เด็กหญิงวัย 15 คันไม่มีสาเหตุ หมอบอกเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ผ่านไป 3 เดือน พบเป็นมะเร็ง

          เด็กหญิงวัย 15 ปี คันไม่มีสาเหตุ คันมากจนนอนไม่หลับ หมอบอกเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ผ่านไป 3 เดือน พบเป็นมะเร็งระยะที่ 2

คันไม่มีสาเหตุ

          วันที่ 17 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์ CTWANT เผยเรื่องราวของ เนียมห์ ฟิชเชอร์ เด็กหญิงอายุ 15 ปี จากสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร เธอมีอาการคันตอนนอนอย่างไม่มีสาเหตุจนถึงขนาดนอนไม่หลับ ในตอนแรกเธอได้รับการวินิจฉัยว่า เป็นอาการภูมิแพ้ทางผิวหนัง แต่หลังจากผ่านไป 3 เดือน ผลตรวจเพิ่มเติมกลับพบเรื่องที่น่าตกใจว่า เธอเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 2

          ตามรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล เผยว่า ฟิชเชอร์เริ่มมีอาการคันทั่วร่างกายทุกคืน ตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จนต้องแยกนอนกับครอบครัว แต่เธอยังคงมีอาการคันอย่างต่อเนื่อง ทางครอบครัวจึงตัดสินใจพาเธอไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา ในขณะนั้น แพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง จึงสั่งยาเฉพาะให้กับเธอ และขอให้เธออยู่ห่างจากสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ รวมทั้งแมวและสุนัข

          อย่างไรก็ตาม หลังจากกินยารักษาโรคภูมิแพ้มานาน 3 เดือน อาการของฟิชเชอร์ก็ไม่ดีขึ้น อาการคันของเธอเข้าขั้นทนไม่ได้ คันมากจนนอนไม่หลับ และถึงขนาดข่วนผิวหนังของเธอจนเป็นรอยแผล แล้วอยู่ ๆ คืนหนึ่งในเดือนสิงหาคม เธอพบว่ามีก้อนบางอย่างโผล่ขึ้นมาที่คอ ครอบครัวจึงรีบพาเธอเข้ารักษาในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล

          หลังจากการตรวจโดยละเอียดหลายขั้นตอน ทั้งซีทีสแกน อัลตราซาวด์ และตรวจชิ้นเนื้อ ก็ได้พบสาเหตุที่แท้จริงของอาการคันและก้อนที่เกิดขึ้น นั่นคือ เธอป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin lymphoma) ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นมะเร็งชนิดที่เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเม็ดเลือดขาวที่อยู่ในระบบน้ำเหลืองของร่างกาย พบได้น้อยกว่าชนิดที่ไม่ใช่ฮอดจ์กิน โดยอาการที่พบบ่อยที่สุดคือ ต่อมน้ำเหลืองบวมโดยไม่เจ็บปวด มักจะพบที่บริเวณลำคอรักแร้ หรือขาหนีบ

          หลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 2 ฟิชเชอร์ได้เข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดทันทีเป็นเวลา 28 วัน ซึ่งในขณะนี้เธอได้ผ่านกระบวนการรักษาไปแล้ว 2 ครั้ง และยังคงต้องติดตามรักษาอาการต่อไป โดยเธออยากให้ประสบการณ์ของตัวเองได้เป็นเครื่องเตือนใจให้กับคนอื่น ๆ ว่าความผิดปกติใด ๆ ในร่างกาย แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจจะเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ ดังนั้น หากร่างกายมีอาการคันรุนแรงโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน แนะนำให้ตรวจสุขภาพโดยเร็วที่สุด 

          ตามรายงานของสถาบันวิจัยโรคมะเร็งแห่งสหราชอาณาจักร เผยว่า ต่อมน้ำเหลืองโดยทั่วไปจะบวมขึ้นเมื่อเกิดการติดเชื้อ และจะกลับมาเป็นปกติภายในระยะเวลาสั้น ๆ แต่หากเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กิน ต่อมน้ำเหลืองจะโตขึ้นช้า ๆ และอาจคงอยู่เป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปีก่อนที่จะสังเกตเห็น อย่างไรก็ตาม บางกรณีมันก็อาจจะโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

          ทั้งนี้ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กิน จะทำให้ผู้ป่วยประมาณ 1 ใน 3 เกิดอาการคัน เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันจะปล่อยสารเคมีที่เรียกว่า ไซโตไคน์ (Cytokines) เพื่อต่อสู้กับมะเร็ง ซึ่งสารไซโตไคน์สามารถส่งผลต่อการระคายเคืองปลายประสาทในผิวหนัง จนทำให้เกิดอาการคันอย่างต่อเนื่องได้ทุกที่บนร่างกาย แต่ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นที่มือ เท้า หรือขาส่วนล่าง โดยเฉพาะในเวลากลางคืน

ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT, Daily Mail
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เด็กหญิงวัย 15 คันไม่มีสาเหตุ หมอบอกเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ผ่านไป 3 เดือน พบเป็นมะเร็ง อัปเดตล่าสุด 18 ตุลาคม 2567 เวลา 13:49:31 20,137 อ่าน
TOP
x close