จ่อตรวจไร่เชิญตะวันของ ว.วชิรเมธี รุกป่าสงวน ขออนุญาต 113 ไร่ แต่ใช้จริง 190 ไร่

          จ่อตรวจไร่ตะวันรุกป่าสงวน ขออนุญาตพื้นที่ 113 ไร่ แต่ใช้พื้นที่จริง 190 ไร่ ถ้าหากรุกป่าจริงจำคุก 20 ปี สำนักพุทธไม่รู้เรื่องบุกรุกป่า


          ยังคงมีการพูดถึงอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเด็นพระเมธีวชิโรดมหรือ ว.วชิรเมธี ที่รับนิมนต์บริษัทเครือ ดิไอคอน กรุ๊ป จนมีคนตั้งข้อสงสัยต่าง ๆ นานา พร้อมกับการเข้ามาเริ่มตรวจสอบหลาย ๆ เรื่อง

          วันที่ 20 ตุลาคม 2567 เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์ รายงานว่า นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ตนสั่งเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ในพื้นที่ จ.เชียงราย กำลังเข้าตรวจสอบการใช้ประโยชน์ที่ดินของศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ว่าใช้พื้นที่เกินกว่าที่ขออนุญาตมาหรือไม่ โดยตั้งแต่ปี 2566 มูลนิธิวิมุตตยาลัย ขอมา 113 ไร่ และทางสำนักพุทธขอมา 30 ไร่ รวมไป 143 ไร่ แต่มีการใช้พื้นที่จริง 190 ไร่ เกินมา 47 ไร่

          หากในวันที่ 21 ตุลาคม มีการตรวจสอบรังวัดแล้วพบว่าใช้พื้นที่เกินอนุญาต และพื้นที่เกินเข้าพื้นที่ป่าสงวน จะมีความผิดฐานบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ม.14 มีโทษ จําคุก 1-20 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท ถ้าหากมีการกระทำเกินกว่า 25 ไร่ จะจำคุก 4-20 ปี ปรับตั้งแต่ 200,000-2,000,000 บาท

          นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ เปิดเผยว่า ทางเราเป็นผู้ขออนุญาตให้กับไร่เชิญตะวันเมื่อปี 2566 โดยขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าทั้งหมด 2 ฉบับ ฉบับแรกขอใช้ในการสร้างวัดไร่เชิญตะวัน 14 ไร่ 3 งานเศษ ส่วนฉบับที่ 2 ใช้ตั้งเป็นศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน 11 ไร่ 3 งาน รวมทั้งหมดที่สำนักพุทธขอใช้คือ 26 ไร่เศษ

          ส่วนรายละเอียดการบุกรุกพื้นที่ป่า ในระบบสำนักพุทธไม่มีข้อมูล ต้องเป็นอำนาจของกรมป่าไม้ในการตรวจสอบ เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ ถ้าหากเชิญสำนักพุทธไปร่วมตรวจสอบก็ยินดี

แนะไร่เชิญตะวัน ควรอยู่แบบสมถะ

          เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นายชีวะภาพ ชีวะธรรม สว.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า มีหน่วยงานราชการยื่นขออนุญาตเพื่อสร้างสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศ ประมาณ 1 แสนคำขอ แต่หลายพื้นที่ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ ก็สร้างไปก่อน

          ส่วนกรณีศูนย์วิปัสสนาสากลไร่เชิญตะวัน ก็เป็นกรณีเดียวกับพระใหญ่บนเขานาคเกิดที่สร้างในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขานาคเกิด จ.ภูเก็ต และมีฝนตกดินโคลนถล่มจนมีคนเสียชีวิตไป 13 คน ที่นี่ก็เข้าข่ายสร้างก่อน รอขออนุญาตทีหลัง และมีการก่อสร้างนอกเหนือพื้นที่ที่ขอไว้

          อย่างไรก็ตาม วัดหรือสถานวิปัสสนา ตนเห็นว่าควรสร้างในป่าแบบสมถะ ไม่ใช่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในเนื้อที่มากกว่า 200 ไร่ แบบนี้ถือว่าไม่เหมาะสม และกรมป่าไม้ต้องมาตอบเรื่องสาเหตุการอนุญาตว่าอนุญาตได้อย่างไร



ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเสาร์-อาทิตย์, เดลินิวส์ออนไลน์