บอสพอล วรัตน์พล จะโยกทรัพย์สินหนีก่อนโดนจับ ขายรถ Lamborghini Huracan Evo ไมล์น้อย ไม่เก่า ในราคาลดแหลก แต่ไม่มีคนซื้อเพราะเอะใจ ในราคาเพียง 13.5 ล้านบาท จาก 22 ล้านบาท
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
วันที่ 23 ตุลาคม 2567 จากกรณีที่ตำรวจ ปคบ. ได้ยึดรถแลมโบกินี่ ฮูราแคน อีโว (Lamborghini Huracan Evo) สีเขียว มูลค่ากว่า 22 ล้านบาท มาไว้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งตำรวจสามารถอายัดรถของบอสพอลได้ 9 คัน และพบว่าในคดีดิไอคอน ตำรวจยึดรถได้ทั้งหมด 30 คัน
ทั้งนี้ บอสพอล วรัตน์พล ได้โพสต์รูปตนเองกับรถยนต์แลมโบกินี่ลงในเฟซบุ๊ก ก่อนที่จะลบไปหลังจากรู้ว่าตำรวจจะมาจับกุม และทางตำรวจได้พยายามตามหารถคันนี้มานาน จากนั้นทางญาติก็ได้ติดต่อมาผ่านทนาย และทนายก็ชี้เป้าให้ตำรวจ บอกว่ารถคันนี้จอดไว้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อ บริเวณถนนลาดพร้าว-วังหิน ใกล้วัดลาดพร้าว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก บอสพอล วรัตน์พล
ล่าสุด เฟซบุ๊ก Puvadol Asawanuchit Asawayont ซึ่งเป็นคนเล่นรถหรู ได้ออกมาเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีนายหน้าทักมาขายรถแลมโบกินี่ ฮูราแคน สีเขียวให้ ซึ่งรถใหม่มาก ไมล์วิ่งแค่ 18,000 และเป็นรถศูนย์ รถคันนี้เป็นรถรุ่นปี 2562 แต่มาจดทะเบียนในปี 2563
ทั้งนี้ ในตอนนั้นเจ้าของเฟซบุ๊กได้รับภาพเล่มจดทะเบียนมา และได้สอบถามกับขนส่งให้ช่วยเช็กให้ได้ไหมว่ารถคันนี้มีการอายัดเอาไว้หรือไม่ โดยตอนนั้นยังไม่มีการอายัดเอาไว้แต่อย่างใด
ทางเจ้าของเฟซบุ๊กยืนยันว่า ตอนนั้นตนยังไม่รู้เลยว่ารถคันนี้เป็นรถของใคร และคนที่ติดต่อมาก็คือนายหน้าขายรถทั่วไป แต่เขากลับพบว่ารถยนต์หรูขนาดนี้ ไมล์น้อยขนาดนี้ แต่ทำไมตั้งราคาขายไว้ถูกมาก นายหน้าทักมาตั้งแต่ก่อนวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่บอสพอลถูกจับ โดยที่นายหน้าพยายามเร่งปิดการขายแบบสุด ๆ และตั้งราคาขายไว้ถูกจนผิดปกติ ทำให้เจ้าตัวไม่ซื้อและเกิดความเอะใจตั้งแต่นั้น ก่อนที่ต่อมาทางญาติของบอสพอลจะชี้พิกัดว่ารถของบอสพอลจอดไว้ที่ไหน และมาติดต่อผ่านทนายเพื่อให้ทำการยึดรถของบอสพอลไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Puvadol Asawanuchit Asawayont
อย่างไรก็ตาม รถคันนี้ของบอสพอล ตอนที่ซื้อมาอยู่ที่ประมาณ 22 ล้านบาท แต่กลับมีการตั้งราคาขายมือสองไว้ที่ 13.5 ล้านบาท ทั้งที่เป็นรถใหม่ ไมล์น้อยมาก ซึ่งปกติหากเป็นรถใหม่ขนาดนี้ ราคาขายน่าจะอยู่ที่ 15-19 ล้านบาท
ทั้งนี้ โชคดีที่เจ้าของเฟซบุ๊กเอะใจและไม่ซื้อรถมาก่อน เพราะหากซื้อมาแล้วอาจจะถูกอายัดทรัพย์ทันที หากยังไม่มีการโอนชื่อก็ต้องแสดงที่มาที่ไปของทรัพย์ ถ้าในกรณีที่ขายแบบเร่งรีบ ไม่มีการโอนชื่อใด ๆ ก็ต้องไปฟ้องเพื่อเรียกรถคืนมา และไม่ใช่หนุ่มคนนี้คนเดียวที่โดน แต่ยังมีแชตของคนอื่นที่อยู่ในแวดวงรถหรูโดนติดต่อให้ซื้อรถของบอสพอลเช่นกัน ซึ่งมีการระบุชัดว่า รถคันดังกล่าวขอขายที่ราคา 13.5 ล้านบาท คิดค่าคอมมิชชั่น 200,000 บาท มัดจำ 50,000 บาท แต่เป็นราคาขายไม่รวมป้าย เพราะบอสพอลจะขอเก็บป้ายไว้เอง
ทั้งนี้ ในตอนนั้นเจ้าของเฟซบุ๊กได้รับภาพเล่มจดทะเบียนมา และได้สอบถามกับขนส่งให้ช่วยเช็กให้ได้ไหมว่ารถคันนี้มีการอายัดเอาไว้หรือไม่ โดยตอนนั้นยังไม่มีการอายัดเอาไว้แต่อย่างใด
ทางเจ้าของเฟซบุ๊กยืนยันว่า ตอนนั้นตนยังไม่รู้เลยว่ารถคันนี้เป็นรถของใคร และคนที่ติดต่อมาก็คือนายหน้าขายรถทั่วไป แต่เขากลับพบว่ารถยนต์หรูขนาดนี้ ไมล์น้อยขนาดนี้ แต่ทำไมตั้งราคาขายไว้ถูกมาก นายหน้าทักมาตั้งแต่ก่อนวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่บอสพอลถูกจับ โดยที่นายหน้าพยายามเร่งปิดการขายแบบสุด ๆ และตั้งราคาขายไว้ถูกจนผิดปกติ ทำให้เจ้าตัวไม่ซื้อและเกิดความเอะใจตั้งแต่นั้น ก่อนที่ต่อมาทางญาติของบอสพอลจะชี้พิกัดว่ารถของบอสพอลจอดไว้ที่ไหน และมาติดต่อผ่านทนายเพื่อให้ทำการยึดรถของบอสพอลไป
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Puvadol Asawanuchit Asawayont
ทั้งนี้ โชคดีที่เจ้าของเฟซบุ๊กเอะใจและไม่ซื้อรถมาก่อน เพราะหากซื้อมาแล้วอาจจะถูกอายัดทรัพย์ทันที หากยังไม่มีการโอนชื่อก็ต้องแสดงที่มาที่ไปของทรัพย์ ถ้าในกรณีที่ขายแบบเร่งรีบ ไม่มีการโอนชื่อใด ๆ ก็ต้องไปฟ้องเพื่อเรียกรถคืนมา และไม่ใช่หนุ่มคนนี้คนเดียวที่โดน แต่ยังมีแชตของคนอื่นที่อยู่ในแวดวงรถหรูโดนติดต่อให้ซื้อรถของบอสพอลเช่นกัน ซึ่งมีการระบุชัดว่า รถคันดังกล่าวขอขายที่ราคา 13.5 ล้านบาท คิดค่าคอมมิชชั่น 200,000 บาท มัดจำ 50,000 บาท แต่เป็นราคาขายไม่รวมป้าย เพราะบอสพอลจะขอเก็บป้ายไว้เอง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก บอสพอล วรัตน์พล
ภาพจาก เฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว