คำสั่งเสียจากแม่ ทิ้งเงิน 28 ล้านในบัญชีแก่ลูกชายเป็นมรดก ช็อกรู้ความจริงที่ธนาคาร เป็นสมุดบัญชีปลอม ทั้งที่ฝากเงินจริง แล้วเงินทั้งบัญชีหายไปไหน
วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เว็บไซต์ SAOstar นำเสนอกรณีที่กำลังได้รับความสนใจในจีน เป็นเรื่องของชายคนหนึ่งที่ได้รับสมุดบัญชีเงินฝากเป็นมรดกจากแม่ผู้ล่วงลับ แต่เขาไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าจะต้องพบกับเรื่องวุ่นวายตามมา เมื่อทางธนาคารแจ้งว่าสมุดบัญชีเล่มนี้เป็นของปลอม นำมาสู่การตั้งคำถามว่าเงินฝากถึง 6 ล้านหยวน (ราว 28 ล้านบาท) ของแม่หายไปไหน แล้วใครต้องรับผิดชอบ !
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน หลิวไห่ปิน ชายจากมณฑลเจียงซู ได้รับมรดกจากแม่เป็นสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารแห่งหนึ่ง โดย หวงเสี่ยวเหม่ย แม่ของเขา ตั้งใจที่จะทิ้งเงินก้อนนี้ไว้ให้ลูกชายเมื่อเธอจากโลกนี้ไป เธอนำสมุดบัญชีเก็บใส่กล่องเหล็กไว้ และบอกลูกชายให้ไปตามหาสมุดบัญชีเล่มนี้หลังจากที่เธอเสียชีวิต
เมื่อถึงวันที่ต้องจากลา ลูกชายเศร้าเสียใจอย่างมากกับความสูญเสีย จนเขาลืมเรื่องสมุดบัญชีเล่มนี้ไปอย่างสิ้นเชิง กระทั่งเวลาผ่านไป 1 ปี ในวันครบรอบการตายของแม่ หลิวไห่ปินจึงนึกเรื่องคำสั่งเสียของแม่ได้ เขาไปตามหาสมุดบัญชีดังกล่าวจนพบ ภายในนั้นมีเงินฝากของแม่จำนวนทั้งสิ้น 6 ล้านหยวน
จากนั้นหลิวไห่ปินจึงไปถอนเงินที่ธนาคาร แต่ต้องตกใจเมื่อทางธนาคารแจ้งว่า สมุดบัญชีเล่มนี้เป็นของปลอม ซึ่งตามกฎของธนาคารจะต้องมีการยึดสมุดบัญชีเล่มนี้ไว้และทำลายทิ้ง อย่างไรก็ตาม หลิวไห่ปินไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น และตัดสินใจเรียกตำรวจมาทันทีเพื่อให้ทำการสอบสวน
ทางตำรวจร้องขอให้ทางธนาคารตรวจสอบข้อมูลของหวงเสี่ยวเหม่ยทั้งหมด ตอนนั้นเองจึงปรากฏข้อมูลว่า หวงเสี่ยวเหม่ยเคยนำเงินมาฝากไว้ที่ธนาคารจริง ๆ แต่กลับมีการถอนเงินทั้งหมดออกไปในเวลาไม่กี่วันต่อมา คำถามคือ...ใครเป็นคนถอนเงินดังกล่าว และเงินก้อนนั้นไปอยู่ที่ไหนแล้ว
โชคยังดีที่ทางตำรวจสามารถติดตามตัวพนักงานธนาคารที่ทำธุรกรรมในครั้งนั้นได้ พบว่าพนักงานรายนี้ลาออกไปนานหลายปีแล้ว แต่เมื่อทางตำรวจควบคุมตัวมาสอบสวน อดีตพนักงานรายนี้ยังปากแข็ง ยืนกรานไม่เคยทำธุรกรรมใด ๆ กับเงินของหวงเสี่ยวเหม่ย
แต่ภายใต้การกดดัน ในที่สุดอดีตพนักงานรายนี้จึงยอมรับว่าได้ฉกฉวยประโยชน์จากความไว้ใจของหวงเสี่ยวเหม่ย ทำสมุดบัญชีปลอมให้แก่อีกฝ่าย ขณะที่ตัวเองได้แอบโอนเงินทั้งหมดมาเข้าบัญชีของตัวเองเพื่อนำไปใช้ส่วนตัว โดยอดีตพนักงานยอมรับว่า ตอนนั้นตนตั้งใจไว้ว่าจะแค่ "ขอยืมเงินชั่วคราว" เพื่อนำเงินไปลงทุน แต่การลงทุนนั้นล้มเหลว จึงไม่มีเงินมาจ่ายคืน
ทั้งนี้ เมื่อความจริงปรากฏ ท้ายที่สุดทางธนาคารก็จำต้องยอมรับผิดชอบคืนเงินจำนวน 6 ล้านหยวน ให้แก่ลูกชายของหวงเสี่ยวเหม่ย ส่วนอดีตพนักงานธนาคารที่ก่อเหตุ ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : SAOstar