นักท่องเที่ยวถูกสัตว์ปริศนากัดที่หาดนางทอง จ.พังงา พบเป็นรอยฟันฉลามหัวบาตร ด้าน ดร. ธรณ์ เผยปกติไม่ดุร้าย คาดเข้าใจผิดว่าเป็นเหยื่อ
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
จากกรณี นักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน วัย 57 ปี ถูกปลาขนาดใหญ่กัดขาขณะลงเล่นน้ำทะเลที่ความลึกประมาณ 1.50 เมตร มีบาดแผลเป็นรอยฟันขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 15 เซนติเมตร ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร จุดเกิดเหตุบริเวณ หาดนางทอง หมู่ที่ 7 ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567เบื้องต้นนักท่องเที่ยวถูกส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเอกชนใน จ.ภูเก็ต นั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ThaiPBS รายงานว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงจังหวัดภูเก็ต คาดว่า ปลาที่กัดนักท่องเที่ยวน่าจะเป็นปลา ฉลามหัวบาตร ซึ่งจากการดูบริเวณแผลที่ถูกกัดประกอบกับก่อนหน้านี้เมื่อช่วง 2-3 วัน ที่ผ่านมา มีชาวบ้านในพื้นที่สามารถจับปลาฉลามหัวบาตรได้ 1 ตัว ซึ่งคาดว่าปลาชนิดนี้จะเข้ามาหากินบริเวณน้ำตื้นริมชายหาด ซึ่งมีลักษณะเป็นน้ำขุ่นที่เป็นแหล่งอาหารของปลาชนิดนี้
ภาพจาก ข่าวช่องวัน
สำหรับปลาฉลามหัวบาตรอาศัยอยู่ในเขตน้ำตื้น ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสอยู่ใกล้กับแหล่งกิจกรรมของมนุษย์ และพบเจอกับมนุษย์ที่กำลังว่ายน้ำในบริเวณนั้นแหล่งที่อยู่อาศัยของฉลามหัวบาตร พบได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน พวกมันจะอยู่ตามพื้นท้องทะเลชายฝั่งและแนวปะการัง
ขณะที่เทศบาลตำบลคึกคัก ทำการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ ณ หาดยางทอง จำนวน 2 จุด ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทราบและป้องกันเหตุอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งขณะนี้พบว่าบรรยากาศริมชายหาดยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาพักผ่อน และเล่นน้ำตามปกติ โดยมีทางเจ้าหน้าที่ร่วมกันดูแลความปลอดภัยอำนวยความสะดวก
ภาพจาก MCOT News FM100.5
เผยฉลามหัวบาตรไม่ได้ล่าคน คาดเข้าใจผิดเห็นขาเป็นเหยื่อ
ด้าน ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม โพสต์เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า ได้เห็นภาพบาดแผลของนักท่องเที่ยวแล้ว คาดว่าเป็นรอยปากของฉลาม คาดเป็นลักษณะของการเข้าใจผิด เมื่อรู้ว่าไม่ใช่เหยื่อตามธรรมชาติ จึงปล่อยไป ลักษณะเช่นนี้ไม่ใช่ฉลามตั้งใจล่าคน จึงขอให้ทางการเยียวยานักท่องเที่ยว และ ประชาสัมพันธ์ให้ระวัง ซึ่งทราบว่าทางการได้ทำอยู่แล้ว
แผลที่กัดต่ำกว่าเข่า นักท่องเที่ยวอยู่ในน้ำตื้น 1.5 เมตร แปลว่าฉลามว่ายเลียบพื้นเข้ามา แล้วเห็นขาขยับไปมา อาจนึกว่าเป็นเหยื่อ รอยกัดมีครั้งเดียว ไม่ได้ฟัดหรือกัดซ้ำหรือกินเนื้อเข้าไป อาจเป็นเพราะฉลามรู้ว่าไม่ใช่เหยื่อตามธรรมชาติ จึงปล่อยแล้วว่ายไป ลักษณะเช่นนี้ไม่ใช่ฉลามตั้งใจล่าคน แต่เป็นเพราะเข้าใจผิด
ภาพจาก MCOT News FM100.5
ในอดีต เมืองไทยเคยมีเหตุการณ์คล้ายกัน เช่น ภูเก็ต หนนั้นก็กัดขาเช่นกันน่าจะเป็นฉลามหัวบาตร แต่อาจเป็นฉลามครีบดำ ที่มีขนาดใหญ่ก็เป็นได้ไม่มีข่าวว่าฉลามโจมตีคนถึงแก่ชีวิตในเมืองไทยเกือบ 60 ปี หนสุดท้ายที่มีหลักฐานยืนยันคือนายแฉล้ม ก่อนตนจะเกิด
มีข่าวฉลามกัดเป็นระยะ ทุก 3-5 ปี แต่ไม่เคยมีการกัดซ้ำ และไม่เคยมีการเกิดหนสองในพื้นที่เดิมในระยะเวลาใกล้ ๆ จึงไม่ต้องกังวลมากมาย และไม่ต้องคิดไปล่าฉลาม เพราะฉลามในเมืองไทยก็ใกล้จะหมดทะเลอยู่แล้ว ถูกจับกินหมด ฉลามมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อระบบนิเวศ เป็นผู้ล่าสูงสุด ผู้ดูแลสมดุล
ภาพจาก MCOT News FM100.5
ขอบคุณข้อมูลจาก ThaiPBS, Thon Thamrongnawasawat