อดีตสายลับเปิดโลก ถูกทาบทามยังไง รับใช้เซ็กส์เปิดทางกลุ่มเศรษฐี-ผู้ทรงอิทธิพล

           วันที่ 8 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า แอนนา แชปแมน (Anna Chapman) อดีตสายลับรัสเซีย ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสวยสังหารตัวจริง ออกมาเปิดเผยครั้งแรกถึงเส้นทางสู่อาชีพสายลับ เมื่อเธอได้รับการทาบทามจากหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของ วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ขณะที่เธอใช้ชีวิตอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ


           ดังนั้นไม่เพียงแค่เธอจะปูทางตัวเองไปอยู่ในกลุ่มธุรกิจและการเมืองระดับสูงอังกฤษอยู่แล้ว ต่อมายังพาตัวเองไปอยู่ในโลกของชนชั้นผู้มีอำนาจในรัสเซีย รวมถึงกลุ่มชีคอาหรับอีกด้วย
           สำหรับจุดเริ่มต้นอาชีพสายลับของ แชปแมน เกิดขึ้นเมื่อสายลับสาวที่มีฐานปฏิบัติการในลอนดอน-มอสโก ชื่อ คิริลล์ ทำการคัดเลือกเธอเข้ามา เพราะสังเกตเห็นความชำนาญในการสร้างเครือข่ายของเธอ โดยตอนที่ แชปแมน นั่งเครื่องบินกลับไปมอสโก คิริลล์ ทำทีมานั่งข้าง ๆ เธอ เพื่อทดสอบความเอนเอียงในความรักชาติของเธอ ก่อนจะแอบตรวจสอบเธออย่างลับ ๆ
 
           ในตอนที่ แชปแมน กลับมามอสโกอีกครั้ง เธอก็พบนามบัตรของนักจิตวิทยาคนหนึ่งถูกทิ้งไว้ที่แฟลตของพ่อแม่เธอ จากนั้นเธอก็โทร. ไปขอคำปรึกษา และเข้ารับบททดสอบจากนักบำบัด กระะทั่งต่อมาตอนที่เธอได้เจอกับคนเหล่านี้อีกครั้ง คนคัดเลือกสายลับที่ชื่อ วลาดิมีร์ วลาดิมิโรวิช ได้เดินเข้ามานั่งแทนที่หญิงคนหนึ่งในห้องให้คำปรึกษา

           "ฉันรู้สึกสับสน สงสัย และอยากรู้ผสมปนเปกัน" แชปแมน ระบุ เล่าว่าเขานั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ และจ้องมองเธออย่างตั้งใจ ดวงตาสำรวจใบหน้าของเธอทุกตารางนิ้ว จนในที่สุดเขาก็กุมมือตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า "แอนนา คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับ...งานข่าวกรอง"
           ภายใต้ภารกิจสายลับ เธอได้ขึ้นเตียงกับเป้าหมายอย่างง่ายดายในตอนที่อยู่ลอนดอน และยังได้เล่นไพ่เปลื้องผ้ากับกลุ่มอภิมหาเศรษฐี โดยในเกมแรกเธอจะทำเหมือนโชคไม่เข้าข้างแล้วถอดกางเกงชั้นในออก ทำให้ผู้ชายหลายคนพอใจมาก แต่จากนั้นเธอก็ชนะ จนรักษาชุดเดรสที่สวมใส่ไว้ได้ แถมยังได้กองทุนเฮดจ์ฟันที่มีกำไรมหาศาลมาในมือ เห็นได้ชัดว่าทำไมมันนำให้เธอเข้าสู่กลุ่มชนชั้นสูงทางการเงินได้อย่างน่าอัศจรรย์

           แชปแมน ยอมรับว่า เธอรู้ดีว่าตัวเองมีเอฟเฟกต์อย่างไรกับผู้ชาย ธรรมชาติได้มอบคุณสมบัติที่จำเป็นแก่เธอแล้วมากมาย ทั้งเอวคอด หน้าอกอวบอิ่ม และผมสีแดงยาวสลาย ทั้งหมดที่เธอต้องทำคือขับเน้นมันให้โดดเด่น ซึ่งเธอก็ทำได้ง่าย ๆ แค่สวมชุดเรียบ ๆ แต่ดูเซ็กซี่ แต่งหน้าบาง ๆ ทำท่าทีสบาย ๆ และเธอก็ไม่เคยสวมเครื่องประดับอะไร เพราะรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องใส่

           สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เธอไม่ได้พยายามเอาใจใครมากจนเกินไป เพราะผู้คนจะรับรู้ได้หากใครบางคนต้องการการยอมรับมาก ๆ ซึ่งการทำแบบนั้นจะให้ผลตรงข้าม เหมือนกับผู้หญิงที่แต่งตัวมากจนเกินไป หรือผู้ชายที่พูดมากเกินไป ในขณะที่เธอไม่เคยแสวงหาการยอมรับจากใคร เธอแค่เป็นตัวของตัวเองเท่านั้น ซึ่งมันก็ได้ผลราวกับเวทย์มนตร์

           ทั้งเหล่าขุนนางอังกฤษและชีคอาหรับ ต่างจูบมือเธออย่างเจ้าชู้ สัญญาอนาคตที่สดใสแก่เธอ เรียกว่าเส้นทางของเธอในการใช้เสห่น์เย้ายวนเพื่อให้ตัวเองไปถึงจุดหมายนั้น ดำเนินไปอย่างราบรื่น และเธอก็ไม่เคยลดละที่จะเข้าสังคมกับผู้ชายที่มีอิทธิพล
           อย่างไรก็ตาม อาชีพสายลับของ แชปแมน สิ้นสุดกะทันหันใน 5 ปีต่อมา เมื่อเธอถูกเอฟบีไอควบคุมตัว และกระชากหน้ากากกลางที่สาธารณะ ขณะอยู่ในนิวยอร์ก สหรัฐฯ ทำให้เธอถูกจับเข้าคุก ยึดพาสปอร์ตอังกฤษ และส่งกลับมอสโก ภายใต้การแลกเปลี่ยนนักโทษครั้งสำคัญ

           ด้าน เอเลน่า ซึ่งเคยเป็นรูมเมทของ แชปแมน เผยถึงสาวสวยสังหารรายนี้ในเวลาต่อมาว่า "เธอจะเข้าหาและคุยกับผู้ชายหากคิดว่าเขามีประโยชน์ หลังได้พบเธอครั้งแรก เธอก็พูดถึงนักธุรกิจคนหนึ่งที่รู้จักให้ฟัง บอกว่าตัวเองเคยนอนกับเขา แม้ไม่ชอบมีเซ็กส์กับเขา แต่เธอต้องการเงินของเขา"
 
           แชปแมน ยอมรับว่า ด้วยความสัมพันธ์กับสามี ทำให้เธอพิชิตความฝันในการย้ายมาใช้ชีวิตที่อังกฤษ และพร้อมสำหรับการเป็นสายลับ เธอได้มีนามสกุลของชาวอังกฤษ มีพาสปอร์ตอังกฤษ อย่างไรก็ตาม แชปแมน ยืนยันว่าเธอไม่ได้ล่อลวง อเล็กซ์ ให้มาแต่งงานด้วย เธอต้องเผชิญความทุกข์ทรมานในความสัมพันธ์นั้น มันทำให้เธอตั้งใจจะหย่ากับเขา แม้จะยังรักเขามากก็ตาม และจนถึงตอนนี้เขาก็ยังคงเป็นรักแท้ของเธอเสมอ

           ทั้งนี้ อเล็กซ์ เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดเมื่อปี 2558 ขณะที่ชีวิตของ แชปแมน หลังถูกกระชากหน้ากากสายลับ ได้ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เป็นคนดังทางรายการโทรทัศน์ รวมถึงเป็นอินฟลูเอนเซอร์ และยังคงเป็นกระบอกเสียงโฆษณาชวนเชื่อแก่ผู้นำประเทศ  

ขอบคุณข้อมูลจาก Daily Mail