ดราม่า ! รพ. รัฐ ขายช้อนคันละ 5 บาท เพจดังชวนมองต่างมุม ชี้ที่มาจากปัญหา คนไข้และญาติขโมยช้อนกลับบ้าน จนหายรายวัน คนแห่เมนต์เพียบ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับข้อมูล
วานนี้ (15 ธันวาคม 2567) เพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ เปิดโพสต์กรณีดราม่าล่าสุด ว่าด้วยเรื่องของ รพ.รัฐ ขายช้อนคันละ 5 บาท ซึ่งกลายเป็นประเด็นร้อนในขณะนี้ เมื่อหลายคนมองว่าช้อนคันละแค่ไม่กี่บาท เหตุใดโรงพยาบาลจึงไม่มีช้อนให้คนไข้ แต่ก็มีบางคนที่เห็นต่าง โดยระบุว่า
"ไม่มีช้อน ไม่ต้องกิน !! ดราม่า รพ. รัฐขายช้อนคันละ 5 บาท กำลังเป็นดราม่าเดือดจัด สำหรับโรงพยาบาลรัฐหลายแห่งที่ไม่มีช้อนให้คนไข้ ซึ่งบางมุมมองว่าผู้ป่วยตามต่างจังหวัด บางคนไร้ญาติ ไร้เงินทอง ถ้าจะให้ซื้อทุกมื้อก็คงไม่ใช่ ช้อนคันละไม่กี่บาท ทำไมโรงพยาบาลถึงไม่มีบริการ
อีกมุมหนึ่งมองว่าปกติช้อนส้อมเป็นของใช้ส่วนตัว ที่ทางคนไข้หรือทางญาติต้องเตรียมมาเอง ซึ่งหลาย ๆ รพ. ก็ใช้วิธีนี้ สาเหตุหลัก ๆ มาจาก "คนไข้และญาติขโมยเอาช้อนกลับบ้านด้วย" ทำให้ช้อนส้อมที่มีไว้สำหรับบริการอาหาร "หายรายวัน" เป็นทุกที่ไม่ว่าจะโรงพยาบาลรัฐและเอกชน
หลายโรงพยาบาลต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกับสิ่งเหล่านี้ไม่น้อยในแต่ละปี ดังนั้น ถ้าจำเป็นต้องเข้าใช้บริการในโรงพยาบาล ควรพกช้อนส่วนตัวไปด้วยเป็นการดีที่สุด และถ้าที่ไหนมีช้อนส้อมให้จำไว้อย่านำกลับหรือขโมยช้อนเด็ดขาด กินเสร็จเก็บไว้ในถาดอาหารให้เรียบร้อย..."
ทางเพจยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า "ทุกอย่างมีเหตุและผล
ไม่ใช่ขโมยช้อนอย่างเดียว ขโมยแก้ว ขโมยผ้าห่ม รีโมตทีวี
ขโมยนาฬิกาที่แขวนผนังห้อง กลับบ้านก็มีนะ มันคือเรื่องจริงที่สุด"
จากสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น โดยบางคนยอมรับว่า เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้เช่นกัน ต้องซื้อช้อนจากโรงพยาบาลเพราะไม่รู้ว่าไม่มีให้ยืม ขณะที่หลาย ๆ คนบอกเลยว่าจะเข้าโรงพยาบาลแต่ละที ญาติต้องเตรียมข้าวของมาเองทั้งนั้น ไม่เพียงแค่ช้อน แต่ยังอาจจะรวมถึงการเตรียมภาชนะใส่อาหาร แก้วน้ำ มาเองด้วย ยืนยันว่าทำแบบนี้กันหลายที่ และไม่เพียงแค่ที่ไทย แม้แต่โรงพยาบาลในต่างประเทศ ก็ยังมีที่คิดเงินค่าช้อนส้อมเช่นกัน หากไม่นำมาเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ทราบที่มา หลายคนก็เข้าใจได้ถึงเหตุผลที่ทางโรงพยาบาลใช้วิธีการนี้ เพราะปัญหาเรื่องช้อนหายนั้นเกิดขึ้นประจำ อีกทั้งสาเหตุยังเกิดจากการที่ญาติคนไข้ขโมยช้อนกลับบ้านอีก เรียกว่าหากไม่มีคนทำพฤติกรรมเช่นนั้น ก็คงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ อีกทั้งการพกช้อนส้วนตัวไปใช้งานเองก็ยังดีกว่าด้วย ในด้านสุขอนามัย
ทั้งนี้ ยังมีคนเสนอว่าน่าจะหาแนวทางแก้ไขปัญหา หรืออย่างน้อยก็น่าจะแจ้งให้ญาติทราบล่วงหน้าว่าต้องเตรียมช้อนหรือของต่าง ๆ มาเอง เพราะหลายคนก็ไม่ทราบจริง ๆ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับข้อมูล
วานนี้ (15 ธันวาคม 2567) เพจ อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ เปิดโพสต์กรณีดราม่าล่าสุด ว่าด้วยเรื่องของ รพ.รัฐ ขายช้อนคันละ 5 บาท ซึ่งกลายเป็นประเด็นร้อนในขณะนี้ เมื่อหลายคนมองว่าช้อนคันละแค่ไม่กี่บาท เหตุใดโรงพยาบาลจึงไม่มีช้อนให้คนไข้ แต่ก็มีบางคนที่เห็นต่าง โดยระบุว่า
"ไม่มีช้อน ไม่ต้องกิน !! ดราม่า รพ. รัฐขายช้อนคันละ 5 บาท กำลังเป็นดราม่าเดือดจัด สำหรับโรงพยาบาลรัฐหลายแห่งที่ไม่มีช้อนให้คนไข้ ซึ่งบางมุมมองว่าผู้ป่วยตามต่างจังหวัด บางคนไร้ญาติ ไร้เงินทอง ถ้าจะให้ซื้อทุกมื้อก็คงไม่ใช่ ช้อนคันละไม่กี่บาท ทำไมโรงพยาบาลถึงไม่มีบริการ
อีกมุมหนึ่งมองว่าปกติช้อนส้อมเป็นของใช้ส่วนตัว ที่ทางคนไข้หรือทางญาติต้องเตรียมมาเอง ซึ่งหลาย ๆ รพ. ก็ใช้วิธีนี้ สาเหตุหลัก ๆ มาจาก "คนไข้และญาติขโมยเอาช้อนกลับบ้านด้วย" ทำให้ช้อนส้อมที่มีไว้สำหรับบริการอาหาร "หายรายวัน" เป็นทุกที่ไม่ว่าจะโรงพยาบาลรัฐและเอกชน
หลายโรงพยาบาลต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกับสิ่งเหล่านี้ไม่น้อยในแต่ละปี ดังนั้น ถ้าจำเป็นต้องเข้าใช้บริการในโรงพยาบาล ควรพกช้อนส่วนตัวไปด้วยเป็นการดีที่สุด และถ้าที่ไหนมีช้อนส้อมให้จำไว้อย่านำกลับหรือขโมยช้อนเด็ดขาด กินเสร็จเก็บไว้ในถาดอาหารให้เรียบร้อย..."
จากสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น โดยบางคนยอมรับว่า เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้เช่นกัน ต้องซื้อช้อนจากโรงพยาบาลเพราะไม่รู้ว่าไม่มีให้ยืม ขณะที่หลาย ๆ คนบอกเลยว่าจะเข้าโรงพยาบาลแต่ละที ญาติต้องเตรียมข้าวของมาเองทั้งนั้น ไม่เพียงแค่ช้อน แต่ยังอาจจะรวมถึงการเตรียมภาชนะใส่อาหาร แก้วน้ำ มาเองด้วย ยืนยันว่าทำแบบนี้กันหลายที่ และไม่เพียงแค่ที่ไทย แม้แต่โรงพยาบาลในต่างประเทศ ก็ยังมีที่คิดเงินค่าช้อนส้อมเช่นกัน หากไม่นำมาเอง
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ทราบที่มา หลายคนก็เข้าใจได้ถึงเหตุผลที่ทางโรงพยาบาลใช้วิธีการนี้ เพราะปัญหาเรื่องช้อนหายนั้นเกิดขึ้นประจำ อีกทั้งสาเหตุยังเกิดจากการที่ญาติคนไข้ขโมยช้อนกลับบ้านอีก เรียกว่าหากไม่มีคนทำพฤติกรรมเช่นนั้น ก็คงไม่มีเหตุการณ์แบบนี้ อีกทั้งการพกช้อนส้วนตัวไปใช้งานเองก็ยังดีกว่าด้วย ในด้านสุขอนามัย
ทั้งนี้ ยังมีคนเสนอว่าน่าจะหาแนวทางแก้ไขปัญหา หรืออย่างน้อยก็น่าจะแจ้งให้ญาติทราบล่วงหน้าว่าต้องเตรียมช้อนหรือของต่าง ๆ มาเอง เพราะหลายคนก็ไม่ทราบจริง ๆ