อดีตนางงาม อ. เวทีดัง ถูกหลอก 3.7 ล้าน คล้าย ชาล็อต เผยสภาพจิตใจย่ำแย่ ไม่อยากรื้อฟื้น

         กลายเป็นกรณีที่สังคมให้ความสนใจกับภัยใกล้ตัวของมิจฉาชีพ หลังปรากฏข่าว ชาล็อต ออสติน นางงามคนดังจากเวทีมิสแกรนด์ ถูกขบวนการคอลเซ็นเตอร์ปลอมเป็นตำรวจ จนถูกหลอกโอนเงิน 4 ล้านบาท ซึ่งต่อมายังพบว่า นอกจาก ชาล็อต แล้ว ยังมีนางงามอีกรายตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพเช่นกัน โดยมีคำใบ้ว่าคือ นางงามคนดัง อักษรย่อ อ. อดีตมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกสูญเงินไป 3,795,140 บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2567 อีกทั้งพบว่ามีผู้เสียหายกลุ่มคนมีชื่อเสียงตกเป็นเหยื่อเช่นนี้มากกว่า 100 เคสนั้น
  
       วันที่ 16 ธันวาคม 2567 รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า จากการสอบถาม พล.ต.ท. ไตรงรงค์ ผิวพรรณ รรท. ผบช.สอท. เปิดเผยว่า ภายหลังที่อดีตนางงาม อ. ถูกขบวนการคอลเซ็นเตอร์หลอก ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.ลุมพินี ซึ่งเป็นคดีของ สน.ลุมพินี ซึ่งเมื่อตรวจสอบบัญชีของคนร้ายที่ไปหลอก ชาล็อต ออสติน พบว่า มีความเชื่อมโยงกับคดีของอดีตนางงาม อ. ทางตำรวจ สอท. จึงประสานไปยังพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี แล้ว


         ทั้งนี้ พบว่าพฤติการณ์ของคนร้ายที่หลอก ชาล็อต  และอดีตนางงาม อ. ใช้วิธีการและรูปแบบเดียวกัน แต่ไม่ขอระบุว่าเคสนี้ผู้เสียหายคือใคร เพราะไม่ใช่คดีที่ สอท.ทำ ส่วนรายละเอียดทางคดีนั้นยังไม่ทราบ ระบุเพียงว่าโดนมิจฉาชีพหลอกโอนเงินไปเยอะหลายล้านบาท ยืนยันว่า ทั้งคดีของชาล็อต และอดีตนางงาม อ. มีข้อมูลและมีความเชื่อมโยงกันจากบัญชีของคนร้ายที่  สอท.จับกุม โดยในเส้นเงินมีบัญชีที่มาร่วมกันอยู่กับบัญชีของคดีชาล็อต


         จากการสืบสวนทราบว่า บัญชีของคนร้ายที่พบนั้น เป็นบัญชีที่รับโอนเงินต่อมา โดยการโอนเงินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะโอนไปหลายครั้ง หลายทอด ซึ่งพบว่าบัญชีรับโอน 1 บัญชีในคดีชาล็อต เป็นบัญชีร่วมกันกับเคสคดีอดีตนางงาม อ. ท้องที่ สน.ลุมพินี โดยคดีที่ สน.ลุมพินี บัญชีต้นทางอาจจะคนละบัญชีกัน พอโอนไปทอดที่ 2 ทอดที่ 3 ไปเจอบัญชีเดียวกัน ยืนยันอดีตนางงาม อ.โดนหลอกจริง และได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.ลุมพินี ก่อนหน้านี้แล้ว ทราบว่าเป็นการหลอกลักษณะคล้ายกัน คืออ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐและข่มขู่ให้กลัว


         ด้าน พ.ต.อ. ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี ให้ข้อมูลถึงคดีนี้ว่า มีการรับแจ้งความจริง ส่วนรายละเอียดต้องสอบถามพนักงานสอบสวน โดยวานนี้ (15 ธันวาคม) ทาง สน.ลุมพินี โอนคดีไปยัง ปอท. แล้ว เพื่อดำเนินการสืบสวนต่อไป

         ขณะที่สอบถามผู้จัดการของอดีตนางงาม อ. ระบุว่า เป็นเรื่องจริงแต่เกิดขึ้นนานแล้ว ตนจำช่วงเวลาไม่ได้ ซึ่งทางอดีตนางงาม อ. ได้เข้าแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ช่วงที่เกิดเรื่องค่อนข้างหนัก และแย่ไปเลย โดยอดีตนางงาม อ. ไม่ได้แฮปปี้ที่จะที่พูดถึงเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสะเทือนใจ ตอนนี้โอเคขึ้นแล้ว

         เบื้องต้นทางผู้จัดการนางงามรายดังกล่าว เผยว่า ตนเองก็ไม่รู้เช่นกันว่ามิจฉาชีพมีวิธีหลอกลวงอย่างไร ส่วนยอดเงินที่สูญไปก็ไม่ทราบเช่นกัน กลัวจะให้ข้อมูลผิดพลาด เรื่องนี้ไม่อยากรื้อฟื้นขึ้นมาอีก เรื่องที่ไม่อยากพูด ขอให้เก็บเป็นเรื่องส่วนตัวของน้องดีกว่า

ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้