หนุ่มแชร์อุทาหรณ์ เกือบซวยเพราะมีน้ำใจ ย้ำอย่าช่วยใครยกกระเป๋าบนเครื่องบิน หลังหวิดโดนตำรวจรวบ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ในขณะที่ความมีน้ำใจเป็นสิ่งดี แต่ในบางสถานการณ์พลเมืองดีอาจต้องระมัดระวังตัวด้วยก่อนจะเข้าไปช่วยเหลือใคร มิเช่นนั้นความซวยอาจมาเยือน ดังเช่นสิ่งที่เกิดขึ้นกับชายชาวมาเลเซียชื่อ อาบูดี อัลซากอฟ ซึ่งเกือบจะถูกตำรวจรวบตัวในดูไบ เพราะมีน้ำใจช่วยเหลือหญิงชราที่พบเจอบน
เครื่องบิน ข้อมูลจากเว็บไซต์ Sinchew วันที่ 19 ธันวาคม 2567 รายงานว่า อาบูดี ได้นำประสบการณ์ระทึกที่เจอมากับตัวมาบอกเล่าเป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ติดตามบนเฟซบุ๊ก ย้ำว่าไม่ให้เข้าไปช่วยคนอื่นยกหรือดูแลกระเป๋าขณะเดินทาง มิเช่นนั้นอาจซวยได้ในไม่กี่นาที
โดยในครั้งหนึ่งที่ อาบูดี ขึ้นเครื่องบินไปดูไบ มีหญิงรุ่นป้านั่งอยู่ติดกับเขา ตอนที่ขึ้นมาบนเครื่องบินเธอก็ขอให้คนอื่น ๆ ช่วยยกกระเป๋าขึ้นไปเก็บให้ แต่เพราะเขาค่อนข้างเตี้ยเลยไม่ได้เข้าไปช่วย ผู้ชายใจดีอีกคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามจึงเข้ามาช่วยคุณป้ายกกระเป๋าแทน
หลังจากนั้นคุณป้าก็เริ่มพูดคุยกับชายคนนั้น ท่าทางของเธอดูมีมนุษยสัมพันธ์และช่างพูด ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างไหลลื่นระหว่างเที่ยวบิน แต่ในขณะที่เครื่องบินกำลังจะลงจอด อยู่ ๆ คุณป้าก็บอกว่าเธอปวดท้อง
อาบูดี ได้ยินแบบนั้นก็เป็นห่วง จึงเรียกลูกเรือมาให้การช่วยเหลือ แต่แล้วอยู่ ๆ คุณป้าก็เริ่มเรียกเขาว่า "ลูกชาย" ทำให้คนรอบ ๆ ที่ได้ยินคิดว่าพวกเขาเป็นแม่ลูกกัน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Abudi Alsagoff
จากนั้นเมื่อเครื่องบินลงจอด ชายมีน้ำใจที่มาช่วยคุณป้ายกกระเป๋าก่อนหน้านี้กลับเดินมากระซิบบอกอาบูดี เตือนว่าอย่าไปอยู่ใกล้ป้าคนนี้มากนัก และขอให้อาบูดีช่วยบอกกับลูกเรือบนเครื่องด้วยว่าเขาไม่รู้จักกับป้า เพิ่งจะได้เจอกันบนเครื่องบิน ระหว่างที่อาบูดีกำลังจะเดินออกจากเครื่องบิน อยู่ ๆ คุณป้าก็มาขอให้เขาช่วยถือกระเป๋า อาบูดีค่อนข้างสับสน ขณะที่ชายมีน้ำใจคนนั้นส่ายหัวแรงมาก ราวจะส่งสัญญาณไม่ให้เขาช่วย อาบูดีจึงรีบลงไปจากเครื่องโดยไม่ทันได้แตะต้องกระเป๋าของคุณป้า ขณะที่คุณป้ายังต้องอยู่รอลูกเรือนำวีลแชร์มาให้
อาบูดี เล่าว่า
ไม่นานจากนั้นก็เกิดความปั่นป่วนขึ้นที่สนามบิน
ปรากฏว่าคุณป้ารายนั้นวิ่งหนีออกจากวีลแชร์ไปพร้อมกระเป๋าสัมภาระ
ก่อนจะถูกตำรวจสนามบินตามจับไว้ได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อคุณป้าหันมาเห็นเขา
อยู่ ๆ เธอก็ตะโกนเรียกเขา บอกว่าเขาเป็นลูกชายของเธอ
และกล่าวหาว่าเขาทอดทิ้งเธอ "ผมเพิ่งรู้ตอนนั้นเองว่าป้าคนนี้ลักลอบเอาของต้องห้ามเข้าประเทศ และพยายามจะลากผมเข้าไปเอี่ยวด้วย" อาบูดี ระบุ
แต่โชคดีที่ตอนนั้นชายใจดีที่เจอกันบนเครื่องบินเข้ามาให้การกับตำรวจว่าอาบูดีกับป้าคนนี้ไม่เกี่ยวข้องกัน ทางตำรวจจึงบอกให้ป้าบอกชื่อ-นามสกุลของอาบูดี เพื่อพิสูจน์ว่ารู้จักกันจริง ๆ
แต่ป้าตอบไม่ได้ จึงเป็นที่ชัดเจนว่าเธอโกหกว่าเขาเป็นลูกชาย
หลังจากทางตำรวจขอตรวจสอบสัมภาระของ อาบูดี
ก็สามารถยืนยันได้ว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับป้าคนนั้นจริง ๆ
และยอมปล่อยตัวเขาไป ซึ่งประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เขาตระหนักว่าทุก ๆ
คนต้องระมัดระวังตัวอยู่เสมอเมื่ออยู่ที่สนามบิน
หรือแม้กระทั่งอยู่บนเครื่องบิน
และไม่ไปแตะต้องข้าวของหรือกระเป๋าของคนแปลกหน้าเด็ดขาด
ขอบคุณข้อมูลจาก Sinchew
เคยช่วยแล้วโดนผู้ชายแก่จับหน้าอกแล้วทำหน้ายิ้มๆ เราเหวอเลย
เจอแบบนี้ผมเรียกพนง,จนท.มาช่วย
เจอเหตุฉุกเฉินให้เรียกรปภ,ตำรวจ อุบัติเหตุแจ้งกู้ภัย,มูลนิธิ ผมกลายเป็นไทยเฉยเพราะมีข่าวแบบนี้เยอะ
ไม่ช่วยก็หาว่าไร้น้ำใจ พอจะช่วยก็ตามนั่นแหละ...