ฝากเงินเกือบครึ่งแสน แตกตื่นไม่เข้าบัญชี ตามจนเจอคนเอาไป รู้เหตุผลคนเสียงแตก

          หญิงฝากเงินเกือบครึ่งแสน แตกตื่นเงินไม่เข้าบัญชี เช็กดูรู้สาเหตุ แต่เงินไปไหน ตามจนเจอคนอ้างเป็นพลเมืองดี เหตุฟังขึ้นไหม โซเชียลเสียงแตก
          วันที่ 21 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์ CTWANT รายงานว่า หญิงนามสกุลจิน จากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน ต้องร้อนใจอย่างหนัก หลังจากที่เธอนำเงินสดจำนวน 10,000 หยวน (ราว 47,000 บาท) ไปฝากที่ตู้ ATM ของธนาคาร แต่กลับพบว่ายอดเงินจำนวนดังกล่าวไม่เข้าบัญชี แถมเมื่อเช็กดูก็ไม่เจอเงินอยู่ที่ตู้แล้ว แม้สุดท้ายตำรวจจะติดตามตัวเจอชายคนหนึ่งที่อ้างตัวเป็นพลเมืองดี แต่ข้ออ้างของเขากลับทำให้เกิดการถกเถียงบนโลกออนไลน์

          รายงานเผยว่า หญิงรายนี้ได้นำเงินสดไปฝากที่ตู้ ATM ของธนาคาร โดยใช้ฟังก์ชันฝากเงินแบบไม่ใช่บัตร แต่หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ยอดเงินในบัญชีธนาคารก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง เธอจึงตัดสินใจโทร. หาตำรวจ แล้วกลับไปตรวจสอบที่ธนาคาร จนทราบว่าเรื่องเกิดขึ้นจากความประมาทของเธอเอง ที่นำเงินไปฝากใส่ตู้ ATM ไว้ แต่ไม่ได้กดยืนยันซ้ำอีกครั้ง การทำรายการจึงยังไม่เสร็จสมบูรณ์

          ภาพจากกล้องวงจรปิด แสดงให้เห็นว่าหลังจากที่จินเดินออกไปแล้ว ตู้ ATM ก็คายเงินของเธอออกมา ชายคนหนึ่งที่ต่อคิวหลังเธอเห็นเงินนั้น ก็รีบหยิบเงินเดินออกไปทันที

          ทางตำรวจสามารถติดตามตัวชายคนนี้จนพบ ซึ่งเขาก็ยอมรับทันทีว่าเงินอยู่กับตัวเอง โดยอ้างว่าตอนนั้นเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน เขาต้องรีบไปรับหลานชาย จึงหยิบเงินติดตัวไปด้วย แล้วจะหาเวลาเอาเงินไปคืนทีหลัง แต่แม้จะอ้างเช่นนั้นสุดท้ายเขาก็ถูกตำรวจจับดำเนินคดี

          ด้วยเหตุนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวจึงกลายมาเป็นที่ถกเถียงบนโลกออนไลน์ โดยมีความคิดเห็นแตกออกเป็น 2 ฝ่าย เช่น "ถ้าไม่ถูกจับได้ซะก่อนก็คงหาข้ออ้างอื่น เขาก็แค่ใช้เรื่องไปรับหลานมาเป็นข้ออ้าง ถ้าเป็นคนฉันคงโทร. หาตำรวจ ไม่ก็เอาเงินไปให้พนักงานธนาคารในตอนนั้นแล้ว" และ "ยังไงเขาก็จะคืนเงินอยู่แล้ว ไม่ได้ตั้งใจจะขโมยสักหน่อย แค่เก็บนั้นไว้ก่อนเอง"
 
          อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของกฎหมายแล้ว ไม่ว่าชายคนดังกล่าวจะมีเหตุผลใดมาอ้าง แต่พฤติการณ์ที่หยิบเงินซึ่งไม่ใช่ของตัวเองไปแบบนี้ นับว่ามีความผิดทางกฎหมาย ทำให้เขาถูกจับดำเนินคดีในที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก CTWANT