เจ้าของกิจการ พูดถึงเศรษฐกิจตอนนี้ตรงกันที่รายได้ลด ซบเซา แต่มีเพียงธุรกิจเดียวที่เงินพุ่ง หล่อเลือกลูกค้าได้เลย เพราะลูกค้ายินดีจ่ายแพงเพื่อความปลอดภัย
ภาพจาก Surachet Jo / Shutterstock.com
ความรู้สึกของคนไทยในช่วงสิ้นปี 2567 หลายคนอาจจะรู้สึกเงียบเหงา เศรษฐกิจซบเซา แต่บางคนก็อยากรู้เหมือนกันว่า สิ่งที่คิดนั้น ไม่ได้คิดไปคนเดียว จึงมีการตั้งกระทู้ถามในพันทิปขึ้นมาว่า "ถามเจ้าของกิจการอายุ45+ กิจการช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ" เพื่อค้นหาคำตอบ
จากกระทู้ดังกล่าว ความเห็นที่เป็นท็อปคอมเมนต์ เขียนได้อย่างครอบคลุมจนได้รับการโหวตตั้งแต่คอมเมนต์แรก มีการสรุปสถานการณ์ไว้คร่าว ๆ จากประสบการณ์ และความรู้สึกได้ดังนี้
เจ้าของคำตอบทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ยอมรับว่า ยอดการสั่งซื้อลดไปประมาณ 10% และคาดว่า ธุรกิจทั่ว ๆ ไป ในปี 2568 ก็้ไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น เพราะไม่มีสัญญาณบวกอะไรเลย ปัญหาเกิดจากนโยบายกีดกันทางการค้าของประเทศฝั่งตะวันตก ส่วนประเทศฝั่งตะวันออกก็ผลิตสินค้าออกมาแข่งขันได้หมด จนไทยแทบไม่เหลือตลาดในการขายอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน ในประเทศไทยจะมีการจ้างแรงงานต่างด้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ในโรงงาน เพราะคนไทยไม่ค่อยทำแล้ว ยกเว้นตำแหน่งระดับหัวหน้าที่ยังคงจ้างคนไทยอยู่
แล้วประเทศไทยจะเหลือทางไหนที่เป็นทางไปได้บ้าง
จุดเด่นที่สุดของไทยคือ ไม่ใช่เรื่องผลิตภัณฑ์ล้ำสมัย แต่เป็นงานด้านบริการ ซึ่งผลักดันให้ไทยโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากให้ไทยโดดเด่นในด้านแนวคิดล้ำสมัย ต้องเริ่มส่งลูกหลานเรียนสายงานเทคโนโลยีเท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่น
ในเรื่องอัตราการเกิดต่ำ การส่งเสริมค่อนข้างยาก ทางแก้คือ นำเข้าแรงงานเท่านั้น และเริ่มบุกเบิกธุรกิจที่พักในวัยเกษียณสำหรับชาวตะวันตกที่มีเงินอยู่ในประเทศตัวเองไม่ไหว ให้เขามาเช่าอยู่ประเทศไทยเป็น 10 ปี เพื่อให้ธุรกิจในประเทศมีกำลังซื้อต่อไป นี่จะเป็นธุรกิจ
เฉลยธุรกิจเดียวที่ยังไปรุ่ง
แม้คอมเมนต์แรกจะเป็นคอมเมนต์ที่เขียนได้ครอบคลุม แต่คอมเมนต์อื่น ๆ ก็มีการระบุอย่างชัดเจนจากประสบการณ์เช่นกันว่า มีเพียงธุรกิจประเภทเดียวที่ยอดขายพุ่ง สวนทางกับธุรกิจอื่นที่ซบเซากันหมด ธุรกิจนั้นคือ งานวิศวกรรม หรืองานก่อสร้างต่าง ๆ
เหตุผลคือ ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการธุรกิจนี้ ล้วนเข็ดหลาบกับงานราคาถูก ทิ้งงาน หนีหาย ดังนั้นจึงยินดีจ่ายแพง แต่ขอให้จบงานได้ก็เพียงพอ ดังนั้น ในฝั่งคนทำงานก็จะมีตัวเลือกลูกค้ามากขึ้นจนอยู่ในสถานการณ์ที่ว่า ถ้าเจอลูกค้าต่อราคามาก ๆ สามารถปัดตกลูกค้ารายนี้ได้เลย ส่วนกำไรที่ได้ก็อาจจะไม่เยอะมาก แต่ได้หลายเจ้า
ภาพจาก Surachet Jo / Shutterstock.com
ความรู้สึกของคนไทยในช่วงสิ้นปี 2567 หลายคนอาจจะรู้สึกเงียบเหงา เศรษฐกิจซบเซา แต่บางคนก็อยากรู้เหมือนกันว่า สิ่งที่คิดนั้น ไม่ได้คิดไปคนเดียว จึงมีการตั้งกระทู้ถามในพันทิปขึ้นมาว่า "ถามเจ้าของกิจการอายุ45+ กิจการช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ" เพื่อค้นหาคำตอบ
จากกระทู้ดังกล่าว ความเห็นที่เป็นท็อปคอมเมนต์ เขียนได้อย่างครอบคลุมจนได้รับการโหวตตั้งแต่คอมเมนต์แรก มีการสรุปสถานการณ์ไว้คร่าว ๆ จากประสบการณ์ และความรู้สึกได้ดังนี้
เจ้าของคำตอบทำงานในโรงงานอุตสาหกรรม ยอมรับว่า ยอดการสั่งซื้อลดไปประมาณ 10% และคาดว่า ธุรกิจทั่ว ๆ ไป ในปี 2568 ก็้ไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น เพราะไม่มีสัญญาณบวกอะไรเลย ปัญหาเกิดจากนโยบายกีดกันทางการค้าของประเทศฝั่งตะวันตก ส่วนประเทศฝั่งตะวันออกก็ผลิตสินค้าออกมาแข่งขันได้หมด จนไทยแทบไม่เหลือตลาดในการขายอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน ในประเทศไทยจะมีการจ้างแรงงานต่างด้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ ในโรงงาน เพราะคนไทยไม่ค่อยทำแล้ว ยกเว้นตำแหน่งระดับหัวหน้าที่ยังคงจ้างคนไทยอยู่
จุดเด่นที่สุดของไทยคือ ไม่ใช่เรื่องผลิตภัณฑ์ล้ำสมัย แต่เป็นงานด้านบริการ ซึ่งผลักดันให้ไทยโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวมาก อย่างไรก็ตาม ถ้าอยากให้ไทยโดดเด่นในด้านแนวคิดล้ำสมัย ต้องเริ่มส่งลูกหลานเรียนสายงานเทคโนโลยีเท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่น
ในเรื่องอัตราการเกิดต่ำ การส่งเสริมค่อนข้างยาก ทางแก้คือ นำเข้าแรงงานเท่านั้น และเริ่มบุกเบิกธุรกิจที่พักในวัยเกษียณสำหรับชาวตะวันตกที่มีเงินอยู่ในประเทศตัวเองไม่ไหว ให้เขามาเช่าอยู่ประเทศไทยเป็น 10 ปี เพื่อให้ธุรกิจในประเทศมีกำลังซื้อต่อไป นี่จะเป็นธุรกิจ
เฉลยธุรกิจเดียวที่ยังไปรุ่ง
แม้คอมเมนต์แรกจะเป็นคอมเมนต์ที่เขียนได้ครอบคลุม แต่คอมเมนต์อื่น ๆ ก็มีการระบุอย่างชัดเจนจากประสบการณ์เช่นกันว่า มีเพียงธุรกิจประเภทเดียวที่ยอดขายพุ่ง สวนทางกับธุรกิจอื่นที่ซบเซากันหมด ธุรกิจนั้นคือ งานวิศวกรรม หรืองานก่อสร้างต่าง ๆ
เหตุผลคือ ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการธุรกิจนี้ ล้วนเข็ดหลาบกับงานราคาถูก ทิ้งงาน หนีหาย ดังนั้นจึงยินดีจ่ายแพง แต่ขอให้จบงานได้ก็เพียงพอ ดังนั้น ในฝั่งคนทำงานก็จะมีตัวเลือกลูกค้ามากขึ้นจนอยู่ในสถานการณ์ที่ว่า ถ้าเจอลูกค้าต่อราคามาก ๆ สามารถปัดตกลูกค้ารายนี้ได้เลย ส่วนกำไรที่ได้ก็อาจจะไม่เยอะมาก แต่ได้หลายเจ้า