บรรยากาศ สนามบินดอนเมือง ผู้โดยสารแออัด คิวยาวเสี่ยงตกเครื่องช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 เหตุมีสายการบินย้ายฐาน แนะวิธีประหยัดเวลา ลงทะเบียนด้วยระบบสแกนหน้า ประหยัดเวลาไปเยอะมาก
ภาพจาก TikTok @dailyjourneys
เรียกว่าชั่วโมงนี้ผู้คนต่างพากันเดินทางในเทศกาลวันหยุดยาว
ปีใหม่ 2568 ซึ่งหนึ่งในจุดสำคัญสำหรับการเดินทางในประเทศคงหนีไม่พ้น สนามบินดอนเมือง แต่ดูเหมือนว่าปีนี้ผู้ที่ต้องขึ้นเครื่องอาจจำเป็นต้องเผื่อเวลาหรือเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้ตกเครื่องอย่างไม่คาดคิด
ล่าสุด (27 ธันวาคม 2567) ในโลกออนไลน์ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีหลาย คนแชร์บรรยากาศที่สนามบินดอนเมืองพบว่าแออัดไปด้วยผู้โดยสารเข้าแถวรอเช็กอินเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้ใช้ TikTok บางส่วนระบายปัญหาการจัดการในสนามบิน อาทิ บริเวณจุดตรวจเอกสารจะมีคิวยาวมาก แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะเปิดเต็มทุกช่อง หลังจากนั้นก็ต้องไปต่อคิวเพื่อตรวจกระเป๋าอีก โดยเฉพาะในช่วงเช้าที่มีคนเดินทางกันเป็นจำนวนมาก ยิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ พร้อมแนะนำว่า หากใครต้องการเดินทางในช่วงวันหยุดยาวนี้ ให้เผื่อเวลามากขึ้นกว่าเดิม 1.30-2 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ทางหนึ่งที่จะสามารถหลีกเลี่ยงคิวที่ยาวได้ คือการลงทะเบียน Automated Biometric ด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Facial Recognition) อันความสะดวกสบาย รวดเร็ว รวมทั้งจะช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวของแต่ละจุดบริการภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
- ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.)
- ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.)
- ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.)
- ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.)
- ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)
1. ท่านสามารถเช็กอินออนไลน์มาจากบ้าน หรือ เช็กอินหน้าเคาน์เตอร์ (ต้องเผื่อเวลาเพิ่ม)
2. ไปที่ตู้คีออส กระจายอยู่ใกล้จุดเช็กอินสายการบินต่าง ๆ ใช้เอกสารคือ บอร์ดดิ้งพาส (boarding pass) และบัตรประชาชน หรือ พาสสปอร์ต
3. ให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง ต่อด้วยเลือก "Enrollment" จากนั้นสแกนบาร์โค้ดจากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass)
4. เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน
5. เมื่อลงทะเบียนใบหน้าแล้ว สามารถเข้า Fast Lane ได้เลย โดยไม่ต้องไปต่อคิวที่จุดตรวจสอบเอกสารอีก และสามารถสแกนใบหน้าขึ้นเครื่องได้เลย
ภาพจาก TikTok @dailyjourneys
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผยว่า ที่ผ่านมามีสายการบินที่ย้ายกลับมาจากสุวรรณภูมิมาใช้ฐานที่ดอนเมือง จึงทำให้เกิดปัญหาความแออัดขึ้น ตนจึงได้สั่งการ บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัดมหาชน ( AOT ) ให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ได้ระดมเจ้าหน้าที่ของ AOT ไปแก้ไขปัญหาตรงนี้แล้ว และคิดว่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
ด้าน ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย ฝากถึงผู้โดยสารที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ สำหรับผู้โดยสารเดินทางในประเทศ ขอให้เดินทางมาถึงสนามบินก่อนประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนเที่ยวบินระหว่างประเทศขอให้เดินทางถึงสนามบินก่อนประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งจะมั่นใจได้ว่าผู้โดยสารเดินทางได้ทันอย่างแน่นอน โดยจะใช้โมเดลเดียวกันทุกสนามบิน และมีการออกตรวจทุกวัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการเดินทางจะสะดวกสบาย
ภาพจาก TikTok @k.varindaaa
ขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องเล่าเช้านี้
ภาพจาก TikTok @dailyjourneys
ล่าสุด (27 ธันวาคม 2567) ในโลกออนไลน์ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีหลาย คนแชร์บรรยากาศที่สนามบินดอนเมืองพบว่าแออัดไปด้วยผู้โดยสารเข้าแถวรอเช็กอินเป็นจำนวนมาก โดยมีผู้ใช้ TikTok บางส่วนระบายปัญหาการจัดการในสนามบิน อาทิ บริเวณจุดตรวจเอกสารจะมีคิวยาวมาก แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะเปิดเต็มทุกช่อง หลังจากนั้นก็ต้องไปต่อคิวเพื่อตรวจกระเป๋าอีก โดยเฉพาะในช่วงเช้าที่มีคนเดินทางกันเป็นจำนวนมาก ยิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ พร้อมแนะนำว่า หากใครต้องการเดินทางในช่วงวันหยุดยาวนี้ ให้เผื่อเวลามากขึ้นกว่าเดิม 1.30-2 ชั่วโมง
ภาพจาก TikTok @dailyjourneys
แนะทางลัด ประหยัดเวลา เดินทางปีใหม่ ด้วยลงทะเบียนจดจำใบหน้า Biometric
อย่างไรก็ตาม ทางหนึ่งที่จะสามารถหลีกเลี่ยงคิวที่ยาวได้ คือการลงทะเบียน Automated Biometric ด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้า (Facial Recognition) อันความสะดวกสบาย รวดเร็ว รวมทั้งจะช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวของแต่ละจุดบริการภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่
- ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
- ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.)
- ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.)
- ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.)
- ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.)
- ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)
ภาพจาก TikTok @daykittipod
วิธีลงทะเบียน Facial Recognition เลี่ยงคิวยาวในสนามบิน
1. ท่านสามารถเช็กอินออนไลน์มาจากบ้าน หรือ เช็กอินหน้าเคาน์เตอร์ (ต้องเผื่อเวลาเพิ่ม)
2. ไปที่ตู้คีออส กระจายอยู่ใกล้จุดเช็กอินสายการบินต่าง ๆ ใช้เอกสารคือ บอร์ดดิ้งพาส (boarding pass) และบัตรประชาชน หรือ พาสสปอร์ต
3. ให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง ต่อด้วยเลือก "Enrollment" จากนั้นสแกนบาร์โค้ดจากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass)
4. เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน
5. เมื่อลงทะเบียนใบหน้าแล้ว สามารถเข้า Fast Lane ได้เลย โดยไม่ต้องไปต่อคิวที่จุดตรวจสอบเอกสารอีก และสามารถสแกนใบหน้าขึ้นเครื่องได้เลย
ภาพจาก TikTok @dailyjourneys
สาเหตุปีนี้ผู้โดยสารแออัด แนะต้องเผื่อเวลาเดินทางเท่าไหร่
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผยว่า ที่ผ่านมามีสายการบินที่ย้ายกลับมาจากสุวรรณภูมิมาใช้ฐานที่ดอนเมือง จึงทำให้เกิดปัญหาความแออัดขึ้น ตนจึงได้สั่งการ บริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัดมหาชน ( AOT ) ให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว ขณะนี้ได้ระดมเจ้าหน้าที่ของ AOT ไปแก้ไขปัญหาตรงนี้แล้ว และคิดว่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
ด้าน ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย ฝากถึงผู้โดยสารที่จะเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ สำหรับผู้โดยสารเดินทางในประเทศ ขอให้เดินทางมาถึงสนามบินก่อนประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนเที่ยวบินระหว่างประเทศขอให้เดินทางถึงสนามบินก่อนประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งจะมั่นใจได้ว่าผู้โดยสารเดินทางได้ทันอย่างแน่นอน โดยจะใช้โมเดลเดียวกันทุกสนามบิน และมีการออกตรวจทุกวัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการเดินทางจะสะดวกสบาย
ภาพจาก TikTok @k.varindaaa
ภาพจาก TikTok @k.varindaaa