ชายเกือบซวยเพราะทำดี เก็บเงินล้านส่งคืนเจ้าของ กลับถูกจี้ให้จ่าย 2 แสน อ้างคืนเงินให้ไม่ครบ จากพลเมืองดี หวิดได้เป็นโจร สุดท้ายต้องขึ้นศาล
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 19 มกราคม 2568 เว็บไซต์ kenh14.vn รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ที่ทำเอาพลเมืองดีรายหนึ่งเกือบพบกับความซวย หวิดเสียเงินก้อนโตจากการทำความดี แถมถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวขโมยไปอีก ความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นทำให้ท้ายที่สุด เรื่องต้องขึ้นสู่ชั้นศาล
รายงานเปิดเผยว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มขึ้นจากช่วงเย็นวันหนึ่ง นายหลี่ ที่กำลังเดินทางกลับบ้านหลังเลิกงาน บังเอิญพบเงินสดมูลค่า 220,000 หยวน (ราว 1 ล้านบาท) ตกอยู่บนถนน เพราะเขาเป็นคนจิตใจดี จึงรีบไปแจ้งตำรวจพร้อมขอให้ช่วยตามหาเจ้าของเงินโดยเร็ว เพื่อที่จะนำเงินส่งคืนให้ ซึ่งทางตำรวจใช้เวลาเพียงไม่นานก็พบว่าเจ้าของเงินดังกล่าว เป็นแม่ค้าที่ทำธุรกิจอยู่บริเวณใกล้เคียง
เมื่อแม่ค้าทราบว่ามีคนเจอเงิน ก็รีบมาขอบคุณนายหลี่และตั้งใจจะมอบเงินรางวัลเพื่อตอบแทนน้ำใจ แต่นายหลี่ปฏิเสธ จากนั้นต่างคนต่างก็แยกย้าย และเรื่องราวคล้ายจะจบลงด้วยดี
นายหลี่ตั้งใจยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ตำรวจท้องถิ่นก็ไม่สามารถจัดการเรื่องให้ได้ ดังนั้นเขากับคู่กรณีจึงต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาล
"ผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ผิดมาก ๆ ผมนึกว่าตัวเองทำสิ่งดี ๆ แต่กลับเกิดเรื่องแบบนี้กับผม" นายหลี่ เผยอย่างเศร้า ๆ
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
โดยก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีของคนที่เจอสร้อยคอซึ่งเป็นของมีค่า แต่นึกว่าเป็นแค่ของปลอมเลยโยนทิ้งถังขยะไป จากนั้นเมื่อเจ้าของสร้อยเช็กกล้องวงจรปิดจนเจอตัวคนที่พบสร้อย จึงเรียกร้องค่าเสียหายจากอีกฝ่าย ซึ่งศาลก็สั่งให้คนที่พบสร้อย ต้องจ่ายชดเชยแก่เจ้าของสร้อยตามที่ร้องขอ
แต่ในเคสของนายหลี่ ศาลพบว่าทางฝั่งเจ้าของเงินไม่สามารถแสดงหลักฐานใด ๆ ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเงินที่หายไปนั้น มีจำนวนทั้งหมดเท่าไหร่ อีกทั้งนายหลี่เองก็แจ้งตำรวจและนำเงินส่งให้ทันที ศาลจึงมีคำตัดสินให้นายหลี่เป็นฝ่ายชนะคดีไป
เหตุการณ์นี้ กลายมาเป็นที่สนใจของสื่อและสังคมจีนนับตั้งแต่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อปีที่ผ่านมา โดยมีชาวเน็ตมากมายเข้ามาแสดงความคิดเห็น เช่น "ถ้าคุณบังเอิญเจอของมีค่าบนถนน ควรถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานแล้วแจ้งตำรวจ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดในอนาคต"
"เคยมีเหตุการณ์คล้าย ๆ กันที่มีคนเก็บของได้ แต่กลับต้องเป็นฝ่ายเสียเงิน ทั้งที่บางครั้งมันเป็นความเข้าใจผิด แต่ก็ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม"
ขอบคุณข้อมูลจาก kenh14.vn