ผัวเกาหลีฆ่าเมียหมกท้ายรถ 2 เดือน อ้างไม่มั่นใจทำไปทำไม พบยังใช้ชีวิตปกติหลังเมียตาย จนถูกตำรวจจับถึงร่ำไห้ขอโทษ
วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เผยรายงานคดีสะพรึง สามีฆ่าหมกศพภรรยาไว้ในรถนาน 2 เดือน หลังใช้ของแข็งทุบจนตายภายในบ้านที่เขตซูวอน จังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ โดยเจ้าตัวไม่ยอมให้คำอธิบายใด ๆ ที่ชัดเจนหลังภรรยาหายตัวไป แถมเมื่อถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ กลับบอกเพียงว่า "ผมไม่มั่นใจ"
รายงานเผยว่า เอ (นามสมมติ) ชายวัย 40 กว่าปี กับภรรยาวัย 40 กว่าปี มีเหตุทะเลาะกันเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ก่อนที่เขาจะใช้วัตถุไม่มีคมทุบเธอจนเสียชีวิต จากนั้นจึงนำศพห่อไว้ในผ้าห่ม นำไปซ่อนไว้ที่ท้ายรถของตนเอง ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถใกล้ ๆ ก่อนจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ จนกระทั่งมีคนรู้จักของภรรยาไปแจ้งความว่าเธอหายตัวไป เหตุเพราะไม่สามารถติดต่อหาเธอได้
หลังจากไม่พบสัญญาณของการมีชีวิตใด ๆ เป็นเวลาหลายวัน ทางตำรวจจึงเริ่มสอบสวนคดีอย่างจริงจัง ก่อนจะจับกุม เอ ซึ่งเป็นสามีของฝ่ายหญิงในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 กระทั่งเขายอมนำทางเจ้าหน้าที่ไปยังจุดที่ซ่อนศพ โดยอัยการของคดีนี้ชี้ว่า เอไม่ยอมให้คำอธิบายที่สอดคล้องกันระหว่างการสอบสวน
ระหว่างการพิจารณาคดีในศาล อัยการได้เรียกร้องให้นายเอได้รับโทษจำคุก 30 ปี โดยชี้ว่าจำเลยแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลังก่อเหตุฆาตกรรม เขายังพยายามโยนความผิดไปให้เหยื่อ พยายามปัดความรับผิดชอบให้พ้นตัว แม้ตัวเองจะก่อคดีอาชญากรรมร้ายแรง
ด้านทนายของเอ อ้างว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความเครียดในสภาพการเงิน หลังจากนายเอถูกมิจฉาชีพหลอกลวงทางโทรศัพท์ นอกจากนี้เขาเองก็มีภาวะซึมเศร้าเป็นทุนเดิม ไม่อยู่ในสภาพจิตใจที่ดีในขณะนั้น
ทั้งนี้ เอ ได้ออกมาแถลงทั้งน้ำตา กล่าวว่าเขาต้องขอโทษลูกกับภรรยาด้วย และเขาสมควรถูกสวรรค์ลงโทษแล้ว
อนึ่ง คดีดังกล่าวมีกำหนดตัดสินคดีในวันที่ 12 มิถุนายน
ขอบคุณข้อมูลจาก SCMP

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์เซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ เผยรายงานคดีสะพรึง สามีฆ่าหมกศพภรรยาไว้ในรถนาน 2 เดือน หลังใช้ของแข็งทุบจนตายภายในบ้านที่เขตซูวอน จังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ โดยเจ้าตัวไม่ยอมให้คำอธิบายใด ๆ ที่ชัดเจนหลังภรรยาหายตัวไป แถมเมื่อถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ กลับบอกเพียงว่า "ผมไม่มั่นใจ"
รายงานเผยว่า เอ (นามสมมติ) ชายวัย 40 กว่าปี กับภรรยาวัย 40 กว่าปี มีเหตุทะเลาะกันเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2567 ก่อนที่เขาจะใช้วัตถุไม่มีคมทุบเธอจนเสียชีวิต จากนั้นจึงนำศพห่อไว้ในผ้าห่ม นำไปซ่อนไว้ที่ท้ายรถของตนเอง ซึ่งจอดอยู่บริเวณลานจอดรถใกล้ ๆ ก่อนจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ จนกระทั่งมีคนรู้จักของภรรยาไปแจ้งความว่าเธอหายตัวไป เหตุเพราะไม่สามารถติดต่อหาเธอได้
หลังจากไม่พบสัญญาณของการมีชีวิตใด ๆ เป็นเวลาหลายวัน ทางตำรวจจึงเริ่มสอบสวนคดีอย่างจริงจัง ก่อนจะจับกุม เอ ซึ่งเป็นสามีของฝ่ายหญิงในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 กระทั่งเขายอมนำทางเจ้าหน้าที่ไปยังจุดที่ซ่อนศพ โดยอัยการของคดีนี้ชี้ว่า เอไม่ยอมให้คำอธิบายที่สอดคล้องกันระหว่างการสอบสวน
แม้ต่อมาเขาจะยอมรับสารภาพ แต่ยังคงไม่ยอมเผยถึงแรงจูงใจที่ชัดเจน บอกเพียงว่าตัวเองไม่มั่นใจเท่านั้น
ระหว่างการพิจารณาคดีในศาล อัยการได้เรียกร้องให้นายเอได้รับโทษจำคุก 30 ปี โดยชี้ว่าจำเลยแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลังก่อเหตุฆาตกรรม เขายังพยายามโยนความผิดไปให้เหยื่อ พยายามปัดความรับผิดชอบให้พ้นตัว แม้ตัวเองจะก่อคดีอาชญากรรมร้ายแรง
ด้านทนายของเอ อ้างว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความเครียดในสภาพการเงิน หลังจากนายเอถูกมิจฉาชีพหลอกลวงทางโทรศัพท์ นอกจากนี้เขาเองก็มีภาวะซึมเศร้าเป็นทุนเดิม ไม่อยู่ในสภาพจิตใจที่ดีในขณะนั้น
ทั้งนี้ เอ ได้ออกมาแถลงทั้งน้ำตา กล่าวว่าเขาต้องขอโทษลูกกับภรรยาด้วย และเขาสมควรถูกสวรรค์ลงโทษแล้ว
อนึ่ง คดีดังกล่าวมีกำหนดตัดสินคดีในวันที่ 12 มิถุนายน
ขอบคุณข้อมูลจาก SCMP