เก็บเงินในห้องขัง รอเก็บหลักฐาน ด้าน ทวีวัฒน์ แจงที่มาเงิน 12 ล้าน ทำงานอะไร ทำไมถึงนำเงินไปทิ้งไว้ ไม่ยอมฝากธนาคาร
![แจงที่มาเงิน 12 ล้าน ทำงานอะไร มีเงินเก็บจนลืม-เอาไปทิ้ง]( "แจงที่มาเงิน 12 ล้าน ทำงานอะไร มีเงินเก็บจนลืม-เอาไปทิ้ง")
ภาพจาก สวพ.FM 91
จากกรณีฮือฮา กับการเจอเงินสด 12 ล้าน มัดใส่กล่องพลาสติกน้ำมาทิ้งไว้ข้างถังขยะ แถวคอนโดเมืองทองธานี ซึ่งต่อมา นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว เดินทางมาแสดงตัวเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้าน ท่ามกลางข้อสงสัยต่าง ๆ ทั้งเรื่องที่มาของเงิน และเงินถูกนำมาทิ้งได้อย่างไรนั้น
ล่าสุด (7 มิถุนายน 2568) ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้นำเงิน 12 ล้านดังกล่าว ไปขังไว้ในห้องควบคุมของ สภ.ปากเกร็ด ซึ่งทาง พ.ต.อ. อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลห้องขังอย่างระมัดระวัง หมั่นตรวจตราห้ามบุคคลอื่นเข้าเกี่ยวข้อง พร้อมกับมีการล็อกกุญแจประตูห้องขังอย่างแน่นหนา ซึ่งหลังพนักงานสอบสวนเก็บหลักฐานเรียบร้อยแล้ว จะนำเงินส่งเก็บในที่ปลอดภัย เพื่อรอตรวจสอบเส้นทางการเงินอีกครั้ง
![แจงที่มาเงิน 12 ล้าน ทำงานอะไร มีเงินเก็บจนลืม-เอาไปทิ้ง]( "แจงที่มาเงิน 12 ล้าน ทำงานอะไร มีเงินเก็บจนลืม-เอาไปทิ้ง")
ภาพจาก สวพ.FM 91
ด้าน นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ซึ่งเดินทางมาแสดงตัวเป็นเจ้าจองเงิน 12 ล้าน ได้นำเจ้าหน้าที่ไปชี้ห้องพักที่คอนโดเมืองทองธานี ชั้น 5 ก่อนกลับมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง พร้อมเผยให้ผู้สื่อข่าวทราบถึงที่มาที่ไปของเงิน ก่อนจะกลับไปรวบรวมหลักฐานมายืนยันความเป็นเจ้าของเงิน เพื่อส่งให้ทางตำรวจ
![แจงที่มาเงิน 12 ล้าน ทำงานอะไร มีเงินเก็บจนลืม-เอาไปทิ้ง]( "แจงที่มาเงิน 12 ล้าน ทำงานอะไร มีเงินเก็บจนลืม-เอาไปทิ้ง")
ภาพจาก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ที่มาของเงิน ทำงานอะไรทำไมมี 12 ล้าน ?
นายทวีวัฒน์ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นทนาย และเป็นที่ปรึกษาอีก 4-5 บริษัท เงินจำนวนดังกล่าวเก็บมาตั้งแต่ปี 2563 ส่วนสาเหตุที่เงินถูกนำไปทิ้ง เพราะห้องพักของตนมีน้ำท่วม ของภายในห้องเน่าเสียหมด จึงมีการตำหนิไปยังนิติบุคคล ซึ่งจะมีการซ่อมห้องในวันอาทิตย์นี้ ตนจึงนำขยะไปทิ้ง
ห้องดังกล่าวตนไม่ได้อยู่อาศัย แต่จะกลับมาดูทุกสัปดาห์ ซื้อห้องมาตั้งแต่ปี 2538 โดยตอนตนยกกล่องขยะไปทิ้งนั้น มีของที่ถูกทิ้งมากมายทั้งถุงดำ ลังไวน์ ประมวลกฎหมาย และที่นำไปทิ้งตรงจุดนั้น เนื่องจากลิฟต์ตรงหน้าห้องตน อยู่ใกล้กับลิฟต์ที่ลงไปชั้นเลขคู่ ตนจึงลงบันไดไปลิฟต์ชั้น 4
ภาพจาก สวพ.FM 91
จากกรณีฮือฮา กับการเจอเงินสด 12 ล้าน มัดใส่กล่องพลาสติกน้ำมาทิ้งไว้ข้างถังขยะ แถวคอนโดเมืองทองธานี ซึ่งต่อมา นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว เดินทางมาแสดงตัวเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้าน ท่ามกลางข้อสงสัยต่าง ๆ ทั้งเรื่องที่มาของเงิน และเงินถูกนำมาทิ้งได้อย่างไรนั้น
ล่าสุด (7 มิถุนายน 2568) ข่าวช่อง 3 รายงานว่า ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้นำเงิน 12 ล้านดังกล่าว ไปขังไว้ในห้องควบคุมของ สภ.ปากเกร็ด ซึ่งทาง พ.ต.อ. อภิศักดิ์ โชติกเสถียร ผกก.สภ.ปากเกร็ด สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลห้องขังอย่างระมัดระวัง หมั่นตรวจตราห้ามบุคคลอื่นเข้าเกี่ยวข้อง พร้อมกับมีการล็อกกุญแจประตูห้องขังอย่างแน่นหนา ซึ่งหลังพนักงานสอบสวนเก็บหลักฐานเรียบร้อยแล้ว จะนำเงินส่งเก็บในที่ปลอดภัย เพื่อรอตรวจสอบเส้นทางการเงินอีกครั้ง
ภาพจาก สวพ.FM 91
ด้าน นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ซึ่งเดินทางมาแสดงตัวเป็นเจ้าจองเงิน 12 ล้าน ได้นำเจ้าหน้าที่ไปชี้ห้องพักที่คอนโดเมืองทองธานี ชั้น 5 ก่อนกลับมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง พร้อมเผยให้ผู้สื่อข่าวทราบถึงที่มาที่ไปของเงิน ก่อนจะกลับไปรวบรวมหลักฐานมายืนยันความเป็นเจ้าของเงิน เพื่อส่งให้ทางตำรวจ
ภาพจาก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว
ที่มาของเงิน ทำงานอะไรทำไมมี 12 ล้าน ?
นายทวีวัฒน์ เปิดเผยว่า ตนมีอาชีพเป็นทนาย และเป็นที่ปรึกษาอีก 4-5 บริษัท เงินจำนวนดังกล่าวเก็บมาตั้งแต่ปี 2563 ส่วนสาเหตุที่เงินถูกนำไปทิ้ง เพราะห้องพักของตนมีน้ำท่วม ของภายในห้องเน่าเสียหมด จึงมีการตำหนิไปยังนิติบุคคล ซึ่งจะมีการซ่อมห้องในวันอาทิตย์นี้ ตนจึงนำขยะไปทิ้ง
ห้องดังกล่าวตนไม่ได้อยู่อาศัย แต่จะกลับมาดูทุกสัปดาห์ ซื้อห้องมาตั้งแต่ปี 2538 โดยตอนตนยกกล่องขยะไปทิ้งนั้น มีของที่ถูกทิ้งมากมายทั้งถุงดำ ลังไวน์ ประมวลกฎหมาย และที่นำไปทิ้งตรงจุดนั้น เนื่องจากลิฟต์ตรงหน้าห้องตน อยู่ใกล้กับลิฟต์ที่ลงไปชั้นเลขคู่ ตนจึงลงบันไดไปลิฟต์ชั้น 4
เงินเหล่านี้ เส้นทางการเงินก็มาจากธนาคาร
ตนเบิกมาด้วยตัวเองหลังเป็นที่ปรึกษาให้ 4 บริษัท
แต่เงินไม่ได้มาก้อนเดียว 12 ล้าน มันทยอยมา จำไม่ได้ว่ามาวันไหนบ้าง
แต่น่าจะมาจากในปี 2563 ปีเดียว
ซึ่งนี่เป็นรายได้ของตนจากงานทนายและที่ปรึกษา
![แจงที่มาเงิน 12 ล้าน ทำงานอะไร มีเงินเก็บจนลืม-เอาไปทิ้ง]( "แจงที่มาเงิน 12 ล้าน ทำงานอะไร มีเงินเก็บจนลืม-เอาไปทิ้ง")
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
สาเหตุที่นำเงินมาเก็บไว้ที่ห้องเพราะกลัวโจร ที่ไม่ฝากธนาคารเนื่องจากต้องมีการใช้จ่าย และตั้งใจว่าจะลงการเมืองด้วย และในธนาคารตนก็ยังมีเงินอีกประมาณ 10 กว่าล้าน เมื่อเห็นภาพจากข่าวก็รู้สึกดีใจ แต่ก็แปลกใจว่าทำไมตนถึงลืมเงิน 12 ล้านไปได้ แต่หลังจากนี้ก็ต้องเตรียมหลักฐานมายืนยัน
ยอมรับว่าผ่านมา 5 ปี ตนไม่ได้มาตรวจสอบดูเลย ลืมไปเลยว่ามีเงิน ที่ต้องใส่กล่องพลาสติกเพราะถ้าใส่เซฟ กลัวโจรจะรู้ว่ามีเงินและยกเซฟไป เพราะที่คอนโดแห่งนี้น่ากลัว ห้องที่ตนเก็บเงินไว้ก็ทำประตูล็อกไว้ 3 ชั้น
![แจงที่มาเงิน 12 ล้าน ทำงานอะไร มีเงินเก็บจนลืม-เอาไปทิ้ง]( "แจงที่มาเงิน 12 ล้าน ทำงานอะไร มีเงินเก็บจนลืม-เอาไปทิ้ง")
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
สำหรับเอกสารที่เห็นเป็นซอง จ่ายหน้าถึงตอนนั้น เป็นเอกสารภาษีหัก ณ ที่จ่าย จาก กสทช. เพราะตนเป็นที่ปรึกษา กสทช. มาประมาณ 10 ปี เอกสารนั้นไม่ได้เกี่ยวโยงอะไร มันเป็นเอกสารเบี้ยประชุมครั้งละ 8,000 บาท อย่าเอาไปโยงมั่ว เพราะตนเป็นทนายต้องระวัง จนเห็นจากข่าวทุกช่อง เรื่องที่โยง กสทช.
ทั้งนี้ ตนไม่ได้ออกมาปกป้องใคร ก็ต้องปล่อยให้ตำรวจทำหน้าที่ของเขาไป และขอย้ำว่า ตนเป็นที่ปรึกษา กสทช. และเป็นทนาย หากสื่อทำข่าวนำเสนอไปโยงมั่ว อันนี้เป็นเรื่องอันตรายขอฝากไว้
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
สาเหตุที่นำเงินมาเก็บไว้ที่ห้องเพราะกลัวโจร ที่ไม่ฝากธนาคารเนื่องจากต้องมีการใช้จ่าย และตั้งใจว่าจะลงการเมืองด้วย และในธนาคารตนก็ยังมีเงินอีกประมาณ 10 กว่าล้าน เมื่อเห็นภาพจากข่าวก็รู้สึกดีใจ แต่ก็แปลกใจว่าทำไมตนถึงลืมเงิน 12 ล้านไปได้ แต่หลังจากนี้ก็ต้องเตรียมหลักฐานมายืนยัน
ยอมรับว่าผ่านมา 5 ปี ตนไม่ได้มาตรวจสอบดูเลย ลืมไปเลยว่ามีเงิน ที่ต้องใส่กล่องพลาสติกเพราะถ้าใส่เซฟ กลัวโจรจะรู้ว่ามีเงินและยกเซฟไป เพราะที่คอนโดแห่งนี้น่ากลัว ห้องที่ตนเก็บเงินไว้ก็ทำประตูล็อกไว้ 3 ชั้น
ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้
สำหรับเอกสารที่เห็นเป็นซอง จ่ายหน้าถึงตอนนั้น เป็นเอกสารภาษีหัก ณ ที่จ่าย จาก กสทช. เพราะตนเป็นที่ปรึกษา กสทช. มาประมาณ 10 ปี เอกสารนั้นไม่ได้เกี่ยวโยงอะไร มันเป็นเอกสารเบี้ยประชุมครั้งละ 8,000 บาท อย่าเอาไปโยงมั่ว เพราะตนเป็นทนายต้องระวัง จนเห็นจากข่าวทุกช่อง เรื่องที่โยง กสทช.
ทั้งนี้ ตนไม่ได้ออกมาปกป้องใคร ก็ต้องปล่อยให้ตำรวจทำหน้าที่ของเขาไป และขอย้ำว่า ตนเป็นที่ปรึกษา กสทช. และเป็นทนาย หากสื่อทำข่าวนำเสนอไปโยงมั่ว อันนี้เป็นเรื่องอันตรายขอฝากไว้
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวช่อง 3
