สรยุทธ โชว์กล้วยกลางรายการ ฝากถึงพ่อลูก ปอกกล้วยให้ดูชัด ๆ รอดูจะว่ายังไงปม UN ชี้เศรษฐกิจของประเทศ GDP 60% มาจากสแกมเมอร์ ลั่นจะติดตามพ่อลูกฝั่งไทยอย่างใกล้ชิด
วันที่ 24 มิถุนายน 2568 รายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ยังคงเกาะติดประเด็นร้อน ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งในช่วงหนึ่ง สรยุทธ สุทัศนะจินดา ระบุว่ายังไม่มีใครตัดเน็ตสมเด็จฮุน เซน ล่าสุดเจ้าตัวจึงโพสต์เฟซบุ๊กอีก เทียบภาพกัมพูชาในอดีตกับกัมพูชาในปัจจุบัน พร้อมระบุข้อความทำนองว่า ถ้าไม่มีอะไรให้เปรียบเทียบเราคงไม่รู้ว่าเริ่มต้นจากจุดใด แล้วมาถึงจุดไหน เราเดินทางมาถึงจุดนี้แล้วก็ต้องก้าวไปข้างหน้าต่อ ไม่ย่ำอยู่ประวัติศาสตร์เดิม ขอขอบคุณสันติภาพ ขอบคุณผู้นำนโยบาย และตบท้ายว่า ชนะ ชนะ
สรยุทธ ชี้ว่า ลักษณะนี้เหมือนต้องการสื่อในมุมความเจริญ ข้างล่างคืออดีต ข้างบนปัจจุบัน และเหนือจอทีวีคงเป็นอนาคต
ขณะเดียวกันยังพบว่า ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลูกชายสมเด็จฮุน เซน ยังลงภาพขณะเดินทางไปเยี่ยมเยียนประชาชนที่ศูนย์อพยพ ใน จ.พระวิหาร พร้อมสอบถามความเป็นอยู่ของประชาชนที่ย้ายไปอยู่ศูนย์ฯ โดยบอกประชาชนว่ากัมพูชาไม่ต้องการให้เกิดสงคราม สงครามไม่เพียงแต่จะเป็นอันตรายต่อทหารแนวหน้าเท่านั้น แต่ยังสร้างความยากลำบากแก่ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตสงคราม กัมพูชาไม่ต้องการเห็นสงคราม เพราะว่าเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว แต่เราก็จะไม่นิ่งเฉยหากถูกรุนราน พร้อมเทียบตัวเองเหมือนงู
สรยุทธ ตั้งคำถามกลับว่า "โทษเถอะ ใครจะไปรบ ?" พร้อมชี้ว่าหากใครเริ่มใช้กำลังรุกรานเมื่อไหร่คือแพ้ทันที เดี๋ยวจะรอดูว่า 2 พ่อลูกนี้ เมื่อไหร่จะออกมาตอบสนองกรณีที่นายกรัฐมนตรีไทย แพทองธาร ชินวัตร หยิบยกข้อมูลจาก UN บอกว่ากัมพูชาคือศูนย์กลางอาชญากรรมออนไลน์ ค้ามนุษย์ข้ามชาติ โดยมีความเสียหาย 6 แสนล้าน
หากอ้างอิงข้อมูลพบว่าเศรษฐกิจที่เกิดจากกิจกรรมออนไลน์ผิดกฎหมายในกัมพูชา คิดเป็น 60% ของ GDP ประเทศ หากไทยอาสาเป็นเจ้าภาพจัดการศูนย์กลางคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพ GDP ของกัมพูชาจะหายไปถึง 60% ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ ตนยังรอดูคำตอบของพ่อลูกอยู่ ตกลงว่ายังไงเรื่องนี้
สรยุทธ ยังชี้ว่า แล้วจะตอบยังไงล่ะตอนนี้ ด่านปิดไปหมดแล้ว เมื่อวานยังเสียงดีอยู่เลย ว่าง่ายอย่างกับปอกกล้วย ถ้าเราเปิดเขาก็เปิด ไม่ต้องมาเจรจากัน เรียกว่าง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย ปัญหาคือตอนนี้ไทยปิดหมดแล้วทุกด่าน นอกจากไม่เปิดแล้วยังปิดด้วย ไม่เหลือแม้แต่ด่านเดียว
พร้อมกันนั้น สรยุทธ ยังร้องขอกล้วยจากทีมงาน บอกว่า "เอากล้วยมาซิ จะให้กล้วยเขาสักหน่อย"
และเมื่อได้กล้วยมา ก็โชว์ให้ดูชัด ๆ หน้ากล้อง และปอกกล้วยให้ดู โดยบอกว่า "นี่ไงน้อง ปอกกล้วยนี่มันง่ายอย่างงี้"
"นี่ กล้วย !"
ก่อนจะตบท้ายด้วยคำว่า "แต่มันสายไปแล้ว" และกินกล้วยให้ดูในรายการ รวมถึงชี้ว่าตนจะมอนิเตอร์ดูสองพ่อลูกฝั่งไทยอย่างใกล้ชิด
![สรยุทธ์ ชูกล้วย ปอกโชว์ 2 พ่อลูก ง่ายนิดเดียวแต่สายไปแล้ว รอจับตาพ่อลูกฝั่งไทย สรยุทธ์ ชูกล้วย ปอกโชว์ 2 พ่อลูก ง่ายนิดเดียวแต่สายไปแล้ว รอจับตาพ่อลูกฝั่งไทย]()
![สรยุทธ์ ชูกล้วย ปอกโชว์ 2 พ่อลูก ง่ายนิดเดียวแต่สายไปแล้ว รอจับตาพ่อลูกฝั่งไทย สรยุทธ์ ชูกล้วย ปอกโชว์ 2 พ่อลูก ง่ายนิดเดียวแต่สายไปแล้ว รอจับตาพ่อลูกฝั่งไทย]()
ภาพจาก กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
![สรยุทธ์ ชูกล้วย ปอกโชว์ 2 พ่อลูก ง่ายนิดเดียวแต่สายไปแล้ว รอจับตาพ่อลูกฝั่งไทย สรยุทธ์ ชูกล้วย ปอกโชว์ 2 พ่อลูก ง่ายนิดเดียวแต่สายไปแล้ว รอจับตาพ่อลูกฝั่งไทย]()
ภาพจาก กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ขอบคุณข้อมูลจาก กรรมกรข่าวคุยนอกจอ

ภาพจาก กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
วันที่ 24 มิถุนายน 2568 รายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ยังคงเกาะติดประเด็นร้อน ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งในช่วงหนึ่ง สรยุทธ สุทัศนะจินดา ระบุว่ายังไม่มีใครตัดเน็ตสมเด็จฮุน เซน ล่าสุดเจ้าตัวจึงโพสต์เฟซบุ๊กอีก เทียบภาพกัมพูชาในอดีตกับกัมพูชาในปัจจุบัน พร้อมระบุข้อความทำนองว่า ถ้าไม่มีอะไรให้เปรียบเทียบเราคงไม่รู้ว่าเริ่มต้นจากจุดใด แล้วมาถึงจุดไหน เราเดินทางมาถึงจุดนี้แล้วก็ต้องก้าวไปข้างหน้าต่อ ไม่ย่ำอยู่ประวัติศาสตร์เดิม ขอขอบคุณสันติภาพ ขอบคุณผู้นำนโยบาย และตบท้ายว่า ชนะ ชนะ
ขณะเดียวกันยังพบว่า ฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลูกชายสมเด็จฮุน เซน ยังลงภาพขณะเดินทางไปเยี่ยมเยียนประชาชนที่ศูนย์อพยพ ใน จ.พระวิหาร พร้อมสอบถามความเป็นอยู่ของประชาชนที่ย้ายไปอยู่ศูนย์ฯ โดยบอกประชาชนว่ากัมพูชาไม่ต้องการให้เกิดสงคราม สงครามไม่เพียงแต่จะเป็นอันตรายต่อทหารแนวหน้าเท่านั้น แต่ยังสร้างความยากลำบากแก่ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตสงคราม กัมพูชาไม่ต้องการเห็นสงคราม เพราะว่าเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว แต่เราก็จะไม่นิ่งเฉยหากถูกรุนราน พร้อมเทียบตัวเองเหมือนงู

ภาพจาก กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
สรยุทธ ตั้งคำถามกลับว่า "โทษเถอะ ใครจะไปรบ ?" พร้อมชี้ว่าหากใครเริ่มใช้กำลังรุกรานเมื่อไหร่คือแพ้ทันที เดี๋ยวจะรอดูว่า 2 พ่อลูกนี้ เมื่อไหร่จะออกมาตอบสนองกรณีที่นายกรัฐมนตรีไทย แพทองธาร ชินวัตร หยิบยกข้อมูลจาก UN บอกว่ากัมพูชาคือศูนย์กลางอาชญากรรมออนไลน์ ค้ามนุษย์ข้ามชาติ โดยมีความเสียหาย 6 แสนล้าน
หากอ้างอิงข้อมูลพบว่าเศรษฐกิจที่เกิดจากกิจกรรมออนไลน์ผิดกฎหมายในกัมพูชา คิดเป็น 60% ของ GDP ประเทศ หากไทยอาสาเป็นเจ้าภาพจัดการศูนย์กลางคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพ GDP ของกัมพูชาจะหายไปถึง 60% ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ ตนยังรอดูคำตอบของพ่อลูกอยู่ ตกลงว่ายังไงเรื่องนี้
สรยุทธ ยังชี้ว่า แล้วจะตอบยังไงล่ะตอนนี้ ด่านปิดไปหมดแล้ว เมื่อวานยังเสียงดีอยู่เลย ว่าง่ายอย่างกับปอกกล้วย ถ้าเราเปิดเขาก็เปิด ไม่ต้องมาเจรจากัน เรียกว่าง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย ปัญหาคือตอนนี้ไทยปิดหมดแล้วทุกด่าน นอกจากไม่เปิดแล้วยังปิดด้วย ไม่เหลือแม้แต่ด่านเดียว

ภาพจาก กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
พร้อมกันนั้น สรยุทธ ยังร้องขอกล้วยจากทีมงาน บอกว่า "เอากล้วยมาซิ จะให้กล้วยเขาสักหน่อย"
และเมื่อได้กล้วยมา ก็โชว์ให้ดูชัด ๆ หน้ากล้อง และปอกกล้วยให้ดู โดยบอกว่า "นี่ไงน้อง ปอกกล้วยนี่มันง่ายอย่างงี้"
"นี่ กล้วย !"
ก่อนจะตบท้ายด้วยคำว่า "แต่มันสายไปแล้ว" และกินกล้วยให้ดูในรายการ รวมถึงชี้ว่าตนจะมอนิเตอร์ดูสองพ่อลูกฝั่งไทยอย่างใกล้ชิด

ภาพจาก กรรมกรข่าวคุยนอกจอ

ภาพจาก กรรมกรข่าวคุยนอกจอ

ภาพจาก กรรมกรข่าวคุยนอกจอ
ขอบคุณข้อมูลจาก กรรมกรข่าวคุยนอกจอ