มอนชิชิ (Monchhichi) คือใคร ? ทำไมถึงครองใจคนทั่วโลกมายาวนาน

          มอนชิชิ (Monchhichi) ตุ๊กตาลิงสุดน่ารักจากญี่ปุ่นที่กลายเป็นขวัญใจของเด็ก ๆ และนักสะสมทั่วโลกมากว่า 50 ปี มาค้นพบเรื่องราวและความน่ารักที่ทำให้มอนชิชิเป็นมากกว่าแค่ของเล่น
มอนชิชิ

          หากพูดถึงของเล่นยุค 70s ที่ยังคงเป็นตำนานมาจนถึงปัจจุบัน มอนชิชิ หรือ Monchhichi คือตุ๊กตาลิงขนฟูหน้าตาน่ารักที่หลายคนหลงรัก ด้วยเอกลักษณ์การดูดนิ้วโป้งสุดน่าเอ็นดู พร้อมผมหน้าม้าและชุดผ้าคลุมสไตล์เด็กน้อย ยิ่งทำให้ใครเห็นก็อดยิ้มตามไม่ได้ วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับประวัติของมอนชิชิตั้งแต่วันแรกที่ถือกำเนิดในญี่ปุ่น จนกลายเป็นของสะสมระดับโลกในยุคนี้
มอนชิชิ

ภาพจาก : monchhichi.co.jp

มอนชิชิ (Monchhichi)
ตุ๊กตาลิงขนฟูขวัญใจเด็กยุค 70s
ที่ยังครองใจคนทั่วโลกจนถึงวันนี้

มอนชิชิ (Monchhichi) คืออะไร ?

          มอนชิชิ (Monchhichi) คือ ตุ๊กตาลิงขนปุยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยใบหน้ากลม ดวงตากลมโต ปากเล็ก ๆ น่าเอ็นดู และที่สำคัญคือท่านั่งดูดจุกนมอันเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งแตกต่างจากตุ๊กตาทั่วไปในยุคนั้น อีกทั้งยังมีชื่อที่จำง่ายและมีเสียงคล้ายการพูดของเด็กเล็กในภาษาญี่ปุ่นว่า “มอนจิชิ” โดยมอนชิชิได้รับการออกแบบให้สื่อถึงความน่ารัก ความอ่อนโยน และความรัก ซึ่งเป็นแนวคิดหลักของผู้สร้างที่ต้องการส่งมอบความรู้สึกดี ๆ ให้กับผู้คนทุกเพศทุกวัย
มอนชิชิ

ภาพจาก : monchhichi.co.jp

ความหมายของชื่อมอนชิชิ (Monchhichi)

          ชื่อ Monchhichi มาจากการผสมผสานคำศัพท์ที่สื่อถึงความน่ารักและเอกลักษณ์ของตุ๊กตาตัวนี้ โดยมาจากคำในภาษาฝรั่งเศสว่า mon (มอง) ซึ่งแปลว่า ของฉัน และ petit (เปอตีต์) ซึ่งแปลว่า สิ่งเล็ก ๆ ที่น่ารัก นอกจากนี้ ยังได้รับแรงบันดาลใจจากคำว่า monkey (มังกี้) ในภาษาอังกฤษที่แปลว่า ลิง และเสียงดูดจุกนมที่คล้ายเสียง chu-chu (จู๋-จู๋) ในภาษาญี่ปุ่น เมื่อนำคำทั้งหมดนี้มารวมกัน จึงกลายเป็นชื่อ มอนชิชิ (Monchhichi) ที่เราคุ้นเคยนั่นเอง

จุดกำเนิดของมอนชิชิ (Monchhichi)

          มอนชิชิถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มกราคม 1974 จากบริษัท Sekiguchi Co., Ltd. ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทผลิตตุ๊กตาชื่อดัง ตั้งอยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นโดย โยชิฮารุ วาชิโนะ (ワシの良春) โดยมีแรงบันดาลใจมาจากตุ๊กตาลิง Kuta Kuta และตุ๊กตาเด็กดูดนิ้ว โดยมีเป้าหมายให้เป็นสัญลักษณ์ของความรักและความอ่อนโยน ด้วยคอนเซ็ปต์ความน่ารักที่อบอุ่นใจ มอนชิชิเริ่มต้นด้วยคู่แฝดชาย-หญิง (มอนชิชิคุงและมอนชิชิจัง) และรุ่นแรกที่มีใบหน้าร้องไห้ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นของหายากที่นักสะสมตามล่า
มอนชิชิ

ภาพจาก : monchhichi.co.jp

มอนชิชิ

ภาพจาก : monchhichi.co.jp

ความนิยมของมอนชิชิ (Monchhichi) จากญี่ปุ่นสู่ใจคนทั่วโลก

          แค่ปีเดียวหลังเปิดตัว มอนชิชิก็โกอินเตอร์ ส่งออกไปทั่วโลก และได้รับความนิยมถล่มทลายในยุโรป โดยเฉพาะฝรั่งเศส ที่แฟนคลับเหนียวแน่นสุด ๆ แม้จะเคยหยุดผลิตในหลายประเทศช่วงปี 1985 แต่มอนชิชิก็กลับมาอีกครั้งในปี 1996 ตามคำเรียกร้องของแฟน ๆ และกลายเป็นของสะสมระดับตำนานมาจนถึงปัจจุบัน ตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปี มอนชิชิขายได้กว่า 70 ล้านตัวในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมล่ะ ?

          เรื่องราวของมอนชิชิที่แพร่กระจายไปทั่วโลกเริ่มต้นในปี 1975 เมื่อตุ๊กตาน้อยจากญี่ปุ่นตัวนี้ถูกส่งออกไปยังเยอรมนีและออสเตรีย หลังจากนั้นไม่นานในปี 1980 มอนชิชิก็เริ่มขยายขอบเขตไปยังหลายประเทศในยุโรป แต่ละประเทศก็ตั้งชื่อใหม่ให้เหมาะกับภาษาท้องถิ่น เช่น เรียกว่า Chicaboo ในอังกฤษ Mon Cicci ในอิตาลี Kiki ในฝรั่งเศส และ Bølle ในเดนมาร์ก ช่วงทศวรรษ 1980 นับเป็นยุคทองของมอนชิชิในเยอรมนี ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

          ต่อมาในปี 1980 มอนชิชิก็ข้ามมหาสมุทรไปถึงอเมริกา เมื่อ Mattel ซื้อลิขสิทธิ์มาผลิต และยังทำการ์ตูนโปรโมตออกอากาศทาง ABC ในปี 1983 อีกด้วย แต่ดูเหมือนว่าเด็กอเมริกันจะไม่ค่อยชอบมอนชิชิเท่าไหร่ ยอดขายจึงไม่ดีเท่าที่คาดหวัง ทำให้ Mattel ต้องหยุดผลิตในปี 1985

          หลังจากหายไปนานกว่า 20 ปี มอนชิชิก็กลับมาอีกครั้งในปี 2004 เมื่อ Sekiguchi เปิดตัวใหม่ในโอกาสครบรอบ 30 ปี ในอเมริกาก็มีขายที่ร้าน Urban Outfitters และในปี 2013 บริษัทตัดสินใจเอาแบรนด์ทั่วโลกมารวมกันใช้ชื่อ Monchhichi เหมือนเดิมทุกประเทศ

          ปัจจุบันนี้ มอนชิชิยังคงเป็นที่รักในยุโรป โดยเฉพาะในหมู่คนที่ชอบของเล่นย้อนยุคและนักสะสม มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งรุ่นคลาสสิก รุ่น Boutique ที่แต่งตัวสวย ๆ และรุ่น Mother Care ที่มาพร้อมลูกน้อย ขนาดก็มีตั้งแต่ตัวจิ๋ว 10 เซนติเมตร ไปจนถึงตัวใหญ่ 80 เซนติเมตร ยังมีบ้านตุ๊กตาและของเล่นเสริมอีกมากมาย และระยะเวลาเกือบ 50 ปี มอนชิชิมียอดขายกว่า 70 ล้านตัวในกว่า 30 ประเทศทั่วโลกเลยทีเดียว ไม่ธรรมดาเลยใช่ไหมล่ะ ?  

มอนชิชิ

ภาพจาก : enchanted_fairy / Shutterstock.com

ไทม์ไลน์พัฒนาการของมอนชิชิ (Monchhichi)

  • ปี 1974 : มอนชิชิเปิดตัวครั้งแรกในญี่ปุ่นและได้รับความนิยมทันที
     

  • ปี 1975 : เริ่มส่งออกไปยังเยอรมนีและออสเตรีย ต่อด้วยยุโรปและอเมริกา โดยใช้ชื่อต่าง ๆ เช่น Chicaboo (สหราชอาณาจักร), Kiki (ฝรั่งเศส) และ Bølle (เดนมาร์ก)
     

  • ปี 1979 : เปิดตัว “ชุดห้องนอนของเล่น” สำหรับมอนชิชิโดยเฉพาะ มีให้เลือกถึง 3 แบบ ทั้งห้องแต่งตัว ห้องนั่งเล่น และห้องนอน 
     

  • ปี 1980 : ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงอย่างเต็มตัว 
     

    • เดบิวต์ในวงการเพลงด้วยซิงเกิลจากรายการ “8 โมงเช้า ! คู่แฝดมอนชิชิ” และอัลบั้ม “สนุกกับวันหยุดฤดูร้อน” ซึ่งสร้างกระแสฮิตถล่มทลาย โดยเฉพาะเพลง “คู่แฝดมอนชิชิ” 
       

    • ซีรีส์แอนิเมชันญี่ปุ่น Futago no Monchhichi (Monchhichi Twins) ออกอากาศ ช่วยเพิ่มความนิยมมากยิ่งขึ้น
       

    • ครอบครัวของมอนชิชิก็ขยายใหญ่ขึ้น มีทั้งคุณปู่ คุณย่า และผองเพื่อนใหม่ๆ ที่เสริมสีสันให้กับเรื่องราว
       

    • เปิดตัวสินค้าลิขสิทธิ์อย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเขียน กระเป๋า ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้ากันเปื้อน

มอนชิชิ

ภาพจาก : monchhichi.co.jp

มอนชิชิ

ภาพจาก : monchhichi.co.jp

  • ปี 1983 : การ์ตูนอเมริกัน Monchhichis โดย Hanna-Barbera ออกอากาศทาง ABC
     

  • ปี 1985 : 

    • ปรับลุคครั้งสำคัญ โดยเปลี่ยนสีตาจากฟ้าสดใสมาเป็นสีน้ำตาลอ่อนนุ่ม ซึ่งต่อมากลายเป็นมาตรฐานของมอนชิชิ แม้ว่ารุ่นตาสีฟ้าจะยังคงมีผลิตอยู่บ้างสำหรับนักสะสมหรือแฟนพันธุ์แท้
       

    • Mattel ผู้ถือลิขสิทธิ์ในอเมริกาเหนือยุติการผลิตมอนชิชิ เนื่องจากยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ Sekiguchi ยังคงเดินหน้าผลิตและทำตลาดต่อไป
       

  • ปี 1996 : วางจำหน่ายอีกครั้งในนิวยอร์ก เยอรมนี และญี่ปุ่น หลังจากห่างหายจากตลาดของเล่น ในหลายประเทศไปกว่า 10 ปี 
     

  • ปี 2004 : ฉลองครบรอบ 30 ปี มอนชิชิคุงและมอนชิชิจัง “แต่งงาน” และมีลูกแฝด Babichichi
     

  • ปี 2005 : เปิดตัวแอนิเมชันรูปแบบใหม่ในสไตล์ “พาพินิเมชัน” ซึ่งเป็นการผสมผสานหุ่นเชิดกับเทคนิคสต็อปโมชั่น
     

  • ปี 2013 : Sekiguchi ตัดสินใจจัดจำหน่าย Monchhichi ทั่วโลกโดยตรง และรวมแบรนด์ภายใต้ชื่อ Monchhichi อย่างเป็นทางการในทุกตลาด
     

  • ปี 2016 : ญี่ปุ่นสร้าง Monchhichi Park (สวนสาธารณะมอนชิชิ) ในเขตคัตสึชิกะ ซึ่งเป็นเมืองบ้านเกิดของมอนชิชิ โดยภายในสวนมีทั้งประติมากรรม มอนชิชิ ฝาท่อลายมอนชิชิ 
     

  • ปี 2017 : ซีรีส์ CGI ฝรั่งเศส Monchhichi Tribe ออกอากาศ กระตุ้นความนิยมในยุโรป
     

  • ปี 2022 : รูปปั้นมอนชิชิที่สถานีชินโคอิวะกลายเป็นแลนด์มาร์กของเขตคัตสึชิกะ

มอนชิชิ

ภาพจาก : kuremo / Shutterstock.com

ครบรอบ 50 ปีมอนชิชิ (Monchhichi) : ความน่ารักที่อยู่เหนือกาลเวลา

          ปี 2024 เป็นปีที่พิเศษมากสำหรับมอนชิชิ เพราะเป็นปีครบรอบ 50 ปีของตัวละครน้อยผู้เป็นที่รักนี้ โคอิจิ เซกิกุจิ ประธานบริษัทวัย 88 ปีและเป็นหลานชายของผู้ก่อตั้ง เล่าให้ฟังว่าความฝันของเขาคือการสร้างตุ๊กตาที่คนทั่วโลกจะหลงรัก

          จุดเริ่มต้นของความสำเร็จมาจากความล้มเหลวในอเมริกา ตอนแรกบริษัทพยายามทำตุ๊กตาหุ่นแบบธรรมดา แต่กลับพบว่าคนอเมริกันไม่ชอบเรื่องสีผิว การแต่งตัว และสีหน้าของตุ๊กตา เซกิกุจิจึงค้นพบว่า "ความน่ารักของสัตว์" คือภาษาสากลที่ทุกวัฒนธรรมเข้าใจ เขาจึงหันมาทำตุ๊กตาขนฟูแบบ Plushie แต่ยังคงใช้เทคนิคการทำตุ๊กตาหุ่นดั้งเดิมในส่วนของแขน ขา และใบหน้า

          ความพิเศษของมอนชิชิอยู่ที่การไม่มีตัวตนที่ชัดเจน มันดูคล้ายลิงแต่ก็ไม่ใช่ลิงจริง ๆ ไม่มีประวัติหรือบุคลิกที่ตายตัว เซกิกุจิบอกว่า "เราอยากให้ทุกคนสร้างบุคลิกของมอนชิชิในแบบของตัวเอง" นี่คือเหตุผลที่มอนชิชิสามารถครองใจคนได้ถึง 3 รุ่น ตั้งแต่เด็กไปจนถึงปู่ย่าตายาย

          เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี เขตคัตสึชิกะในโตเกียวได้จัดตั้ง สวนมอนชิชิ ใกล้โรงงานเดิมของบริษัท มีประติมากรรม ตุ๊กตารุ่นเก่า และกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ยังมีรถโดยสารลายมอนชิชิ ฝาท่อประปาลายพิเศษ หอนาฬิกา และรูปปั้นบรอนซ์หน้าสถานีรถไฟอีกด้วย

          หลังจากผ่านมา 50 ปี ความผูกพันระหว่างมอนชิชิกับแฟน ๆ ยังคงแน่นแฟ้นเหมือนเดิม ทางบริษัทยืนยันว่าสิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การขายของเล่น แต่คือการให้ผู้คนได้สร้างความสัมพันธ์ในแบบเฉพาะของตัวเองกับมอนชิชิ ซึ่งนี่คือเสน่ห์ที่ทำให้มอนชิชิอยู่เหนือกาลเวลาได้

มอนชิชิ

ภาพจาก : monchhichi.co.jp

Monchhichi ยอดฮิต

          ปัจจุบันมอนชิชิกลายเป็นของสะสมสุดฮิต โดยเฉพาะในกลุ่มคนรักของเล่นวินเทจหรือสายญี่ปุ่น ซึ่งหลายคนตามเก็บเวอร์ชันลิมิเต็ด รวมถึงรุ่นยอดนิยมต่าง ๆ เช่น 

  • มอนชิชิมาตรฐาน : เป็นรุ่นคลาสสิกที่ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่น
     

  • มอนชิชิในชุดกิโมโน : เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ เหมาะสำหรับเป็นของฝาก
     

  • มอนชิชิเวอร์ชันพิเศษของอาซากุสะ : เป็นของสะสมหายากที่ไม่สามารถหาซื้อได้จากที่อื่น นอกจากร้าน Toys Terao สาขา Asakusa ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกับเทศกาล Sanja Matsuri
     

  • มอนชิชิรุ่นหายาก : โดยเฉพาะมอนชิชิจังหรือมอนชิชิชผู้หญิงในยุคแรกที่ผลิตมาในสีหน้าร้องไห้ ถือเป็นของสะสมล้ำค่าสำหรับนักสะสม
     

          นอกจากนี้ยังมีรุ่นครอบครัว เช่น พ่อแม่ลูก ทำให้สามารถสะสมเป็นธีมได้อีกด้วย

มอนชิชิ

ภาพจาก : monchhichi.co.jp

ทำไม มอนชิชิ (Monchhichi) ถึงฮิตติดตลาด ?

          ความนิยมของมอนชิชิ เจ้าตุ๊กตาลิงขนปุยหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูอาจจะมาจากหลายปัจจัย ได้แก่ 

  • ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ : รูปลักษณ์ของลิงน้อยขนปุยที่ดูดจุกนม พร้อมฝ้ากระบนใบหน้า ทำให้ มอนชิชิ น่าจดจำและแตกต่างจากตุ๊กตาอื่น ๆ
     

  • ความน่ารักและอบอุ่น : คอนเซ็ปต์ของการสร้างมอนชิชิคือการส่งเสริมความรัก ความอบอุ่น และความสุขให้กับผู้คน
     

  • การตลาดที่แข็งแกร่ง : ทั้งการ์ตูนแอนิเมชัน ซีรีส์ทางโทรทัศน์ และการขยายตลาดสู่สากล ช่วยให้มอนชิชิเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
     

  • ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ : มอนชิชิมีหลากหลายรุ่น หลายขนาด (ตั้งแต่ 10 ซม. ถึง 80 ซม.) และคอลเล็กชันพิเศษ เช่น ชุดแต่งงาน ชุดนักเรียน หรือคอลเล็กชันตามเทศกาลต่าง ๆ รวมถึงมอนชิชิพวงกุญแจที่เป็นไอเทมยอดนิยม
     

  • แรงบันดาลใจจากคนดัง : ในประเทศไทย มอนชิชิกลายเป็นกระแสฮิตในหมู่นักสะสมและสายแฟชั่น โดยเฉพาะหลังจากที่ดาราเซเลบอย่าง แม่ชมพู่ อารยา นำมอนชิชิมาห้อยกระเป๋า ทำให้ มอนชิชิพวงกุญแจกลายเป็นที่ต้องการอย่างมาก
มอนชิชิ

ภาพจาก : Instagram @chomismaterialgirl

มอนชิชิ

ภาพจาก : Instagram @chomismaterialgirl

มอนชิชิ

ภาพจาก : Instagram @chomismaterialgirl

มอนชิชิ

ภาพจาก : Instagram @chomismaterialgirl

          มอนชิชิ (Monchhichi) ไม่ได้เป็นเพียงตุ๊กตาหรือของเล่น แต่เป็นสัญลักษณ์ของความน่ารักและความทรงจำที่ครองใจคนทั่วโลกมากว่า 50 ปี ด้วยดีไซน์ที่หลากหลายและเรื่องราวที่อบอุ่น มอนชิชิกลายเป็นทั้งของสะสม พวงกุญแจ และเครื่องประดับแฟชั่นที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักสะสมตัวยงหรือแค่อยากมีน้องลิงขนปุยไว้ข้างกาย มอนชิชิพร้อมมอบความสุขและรอยยิ้มให้คุณทุกเมื่อ ! คุณเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่หลงรักมอนชิชิหรือเปล่า ?
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : mainichi.jp, monchhichi.co.jp, gamba-osaka.net, gotokyo.org, matcha-jp.com, monchhichi.fandom.com, Instagram @chomismaterialgirl
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มอนชิชิ (Monchhichi) คือใคร ? ทำไมถึงครองใจคนทั่วโลกมายาวนาน อัปเดตล่าสุด 29 กรกฎาคม 2568 เวลา 17:31:12 5,015 อ่าน
TOP
x close