เพื่อนซื่อ ชื่อ "มาริ"
กำหนดฉาย : 7 สิงหาคม 2551
แนว : ดราม่า
นำแสดง : Satomi Ishihara, Chiharu Niiyama, Saya Kazuki
กำกับ : Masanobu Takashima
เว็บไซด์ทางการภาพยนตร์
จุดเด่น
- สร้างจากเรื่องจริงที่ญี่ปุ่นในปี 2004 เกิดแผ่นดินไหวที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นว่า "แผ่นดินไหวชูเอ็ทสึ จังหวัดนีงาตะ" กับวีรกรรมสุดประทับใจของเจ้าหมาตัวน้อยที่ชื่อ "มาริ" ที่รอดจากแผ่นดินไหวนั้นทำให้ผู้ชมต้องหลั่งน้ำตา ถูกตีพิมพ์เป็นหนังสือที่มียอดขายมากกว่า 200,000 เล่ม
- สร้างปรากฎการณ์กวาดรายได้ไปกว่า 3,000 ล้านเยน ชนะ "L Changer The World" ในญี่ปุ่น
เรื่องย่อ
นี่คือเรื่องราวแห่งชีวิต อ้างอิงจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริง
การรอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ของแม่สุนัขและลูกน้อยของมัน
เป็นเวลา 16 วันในหมู่บ้านที่ผู้คนอพยพออกไป
ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.8 ริคเตอร์ จุดศูนย์กลางอยู่ที่เขตชูเอ็ทสึ จังหวัดนีงาตะ มันได้รับการตั้งชื่อว่า "แผ่นดินไหวชูเอ็ทสึจังหวัดนีงาตะ" เมืองที่มีชี่อเสียงอย่างยามาโกชิ (ปัจจุบันเรียกว่านากาโอกะ) ที่ขึ้นชื่อในเรื่องวัวชนและปลาคาร์พสี ได้ประสบภัยพิบัติอย่างใหญ่หลวงและต้องตกอยู่ในภาวะโดดเดี่ยวโดยสิ้นเชิงเมื่อทางหลวงเข้าเมืองสายหลักถูกทำลาย แต่เหตุการณ์บางอย่างได้นำกำลังใจมาสู่ชาวเมืองยามาโกชิที่ตกอยู่ในความสิ้นหวังสุดหยั่ง
สุนัขตัวหนึ่งชื่อ "มาริ" ตกลูกออกมาสามตัวในวันเดียวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ หลังจากเกิดแผ่นดินไหวและผู้คนถูกอพยพออกไปเพื่อความปลอดภัย มาริดูแลลูกน้อยด้วยตัวมันเองท่ามกลางการทำลายล้างของธรรมชาติ และได้ทำให้ชาวบ้านรู้สึกตื้นตันเมื่อมันได้โผล่อีกครั้งโดยไม่รับอันตรายใดๆ พร้อมลูกน้อยทั้งสามตัวหลังจากผ่านไปแล้ว 16 วัน การปรากฏตัวของมันแบบ "ฉันรอดชีวิตมาได้พร้อมลูกๆ" ไม่เพียงมอบความกล้าหาญให้แก่ชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อของหายนะ แต่ยังได้ให้กำลังใจอย่างอักโขในการก่อสร้างซ่อมแซมขึ้นใหม่หลังจากแผ่นดินไหวชูเอ็ทสึ.....
A tale of Mari and three puppies
คำนำ
หนังสือที่บรรยายเรื่องราวเหตุการณ์ครั้งนี้ "ยามาโกชิ-มุระ โนะ มาริ โตะ ซัมบิกิ โนะ โคะอินุ(Yamakoshi-mura no Mari to Sanbiki no Koinu)" (จัดพิมพ์โดยบุงเกชุนจยู) กลายเป็นที่นิยมในหมู่นักเรียนประถมไปจนถึงมัธยม และขายได้ถึง 150,000 เล่ม (ณ เดือนกรกฎาคม 2007) จนกลายเป็นหนังสือติดอันดับขายดีที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้ "A tale of Mari and three puppies" ถูกอ้างอิงจากหนังสือเล่มดังกล่าว และได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากจังหวัดนีงาตะ เมืองนากาโอกะ และเมืองซานโจในระหว่างการถ่ายทำ
ผู้กำกับคือ ริวอิชิ อิโนมาตะ ผู้ที่ทำให้หนังดราม่ากินใจหลายเรื่องได้ออกมาโลดแล่นมีชีวิต อย่างซีรี่ส์เรื่อง "RURI'S ISLAND" สำหรับหนังเรื่องนี้เป็นหนังฉายในโรงเรื่องแรกที่เขาได้กำกับ นักแสดงยอดเยี่ยมได้ถูกคัดเลือกมา ไม่ว่าจะเป็น เออิจิโร ฟุนะโคชิ ผู้ซึ่งปรากฏตัวเป็นประจำในละครทีวีดราม่า, อะกิโกะ มัทสุโมโตะ, มาซาโนบุ ทาคาชิมะ และเค็น อุทสึอิ โจ ฮิซาอิชิ ผู้ที่เริ่มงานประพันธ์เพลงกับสตูดิโอกิบลีและได้แต่งเพลงให้กับหนังหลายเรื่องที่นับว่าเป็น "ภาพยนตร์แห่งชาติญี่ปุ่น" เป็นผู้รับผิดชอบดนตรีของหนังเรื่องนี้
บทเพลงที่สง่างามและปลุกเร้าความรู้สึกอย่างลึกซึ้งได้ส่งแรงเสริมให้กับตัวหนังอย่างยิ่ง เพลงประจำภาพยนตร์โดยอายากะ ฮิราฮาระ หลังจากเกิดแผ่นดินไหวชูเอ็ทสึ สถานีวิทยุประจำจังหวัดนีงาตะถูกขอเพลงชิ้นโบแดงของเธอที่ชื่อ "จูปิเตอร์" เข้ามาอย่างล้นหลาม เพลงนั้นได้แปรเปลี่ยนไปเป็นเพลงสัญลักษณ์สดุดีการก่อร่างสร้างเมืองขึ้นใหม่หลังจากภัยแผ่นดินไหวไปในทันที แน่นอนว่าไม่มีใครนอกจากเธอที่จะถูกพิจารณาในการเฟ้นหาเพลงประจำของภาพยนตร์ ผู้ชมทุกคนได้ถูกเชื้อเชิญให้รอชมเรื่องราว "จิตวิญญาณแห่งชีวิต" อันแสนอัศจรรย์และน่าประทับใจอย่างที่สุดเรื่องนี้
มาริ ขอบใจนะ เจ้าได้สอนสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตแก่พวกเรา..
ครอบครัวอิชิคาวะอาศัยอยู่ในยามาโกชิมาหลายชั่วอายุคน ครอบครัวสี่คนประกอบด้วยพ่อ ยูอิจิ (เออิจิโร ฟุนะโคชิ) ผู้ซึ่งทำงานในที่ทำการหมู่บ้าน, ลูกชายเรียวตะ (เรียวเฮ ฮิโรตะ), ลูกสาวอายะ (มาโอะ ซาซากิ) และคุณตาหัวรั้น ยูโซ (เค็น อุทสึอิ) ซาจิโกะ แม่ของเรียวตะกับอายะเสียชีวิตไปแล้วแต่ในบางครั้งน้องสาวของเธอ ซาเอโกะ (อะกิโกะ มัทสุโมโตะ) เจ้าของร้านเสริมสวยในนากาโอกะก็ได้เตรียมอาหารและได้ช่วยเหลือในสิ่งอื่นๆ เพื่อทำหน้าที่แทนมารดา
อยู่มาวันหนึ่ง ในขณะที่เรียวตะกับอายะกำลังเล่นกันอยู่ตามปกติในทุ่งหญ้าโล่งกว้าง พวกแกบังเอิญไปเจอลูกสุนัขที่ถูกทิ้งไว้ในกล่องกระดาษแข็งพร้อมป้ายที่เขียนว่า "ขอบ้านที่ดี กรุณาด้วยค่ะ" โชคร้ายที่พ่อของพวกแกไม่ชอบสุนัข! เรียวตะบอกอายะว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่พวกแกจะเก็บลูกสุนัขไว้ แต่เมื่อมันพยายามที่จะตามพวกแกกลับบ้าน แม่หนูน้อยก็ไม่สามารถทิ้งมันลง "มันตัวเล็กมากเลยนะ มันคงเหงาแย่เลยที่ไม่มีพ่อกับแม่น่ะ" เรียวตะรู้ดีว่าตั้งแต่แม่ของพวกแกตายไปตั้งแต่อายะยังแบเบาะ อายะก็ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเสียงของแม่หรือลักษณะนิสัยใดๆ ของแม่เลย เพราะฉะนั้นเรียวตะก็เลยเสนออย่างเห็นใจว่าพวกแกน่าจะไปขอการสนับสนุนจากคุณตาดีกว่า แล้วพ่อของพวกแกก็เลยตกลงที่จะรับเลี้ยงลูกสุนัขตัวนี้ มันก็เลยได้ชื่อว่า "มาริ" และได้กลายเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัวอิชิคาวะนับตั้งแต่นั้น
ในปี 2004 มาริได้เติบโตขึ้นและตกลูกออกมาสามตัว ซึ่งทำให้ครอบครัวอิชิคาวะมีความสุขมาก เรียวตะกับอายะ พร้อมด้วยมาริกับลูกๆ ออกวิ่งด้วยกันผ่านทุ่งหญ้าและภูเขามากมาย แต่ความสุขของพวกแกก็ไม่ยั่งยืน
วันที่ 23 ตุลาคม 2004 เวลา 5:56 ในตอนเย็น เกิดแผ่นดินไหวชูเอ็ทสึจังหวัดนีงาตะขึ้น ในชั่วอึดใจ ภูเขาถล่มเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พื้นแยกเป็นรอยแตกหลุมใหญ่และทุกบ้านราบลงสู่พื้นดิน ยูอิจิผู้เป็นพ่อออกจากยามาโกชิไปทำงาน ส่วนเรียวตะก็ไปเรียนพิเศษที่โรงเรียน เมื่อเกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้น ผู้คนในหมู่บ้านก็ทยอยมารวมตัวกันที่โรงเรียนของเรียวตะ ซึ่งได้กลายเป็นศูนย์อพยพกลาง แต่อายะกับคุณตาไม่ได้อยู่ในกลุ่มพวกเขา อายะกับคุณตายูโซอยู่ในบ้านและถูกทับอยู่ข้างใต้เมื่อมันถล่มลงมา
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วนะ? ยูโซกอดอายะไว้ และยอมรับว่าชีวิตของเขาคงจะจบสิ้นในอีกไม่นาน แต่ทันใดนั้น เสียงหนึ่งแหวกเข้ามาในภวังค์ของพวกเขาที่ค่อยๆ ลดลงทุกขณะ มันคือมาริ ดูเหมือนว่ามันกับลูกๆ จะไม่ได้รับอันตรายใดๆ มาริปล่อยลูกๆ ให้อยู่ในบ้านสุนัขที่ปลอดภัยและคลานเข้ามาข้างใต้เศษหินเศษอิฐ มันคลานเข้าไปใกล้พวกเขา ไม่ได้รับรู้ถึงอาการบาดเจ็บที่ตัวเองได้รับอยู่เลย ราวกับว่าจะมอบความกล้าหาญให้ทั้งสองคน มันเลียหน้าพวกเขา มาริพยายามอย่างสิ้นหวังที่จะช่วยเหลือคนทั้งคู่ออกจากใต้ซากตึก แต่ไม่มีแรงพอที่จะดึงทั้งคู่ที่ติดอยู่ใต้คานใหญ่ ระหว่างที่ดูแลลูกน้อยทั้งสามตัว มาริก็กลับมาหาอายะกับยูโซอยู่เนืองๆ เพื่อให้กำลังใจพวกเขา
แผ่นดินถล่ม และโคลนที่ตกลงมาได้ทำให้ถนนหลายสายที่มุ่งหน้าสู่ยามาโกชิพังพินาศ และทำให้เมืองถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง แต่สุดท้าย เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยนำโดยสิบเอกยาสุดะ (มาซาโนบุ ทาคาชิมะ) แห่งกองกำลังป้องกันตนเองได้จัดการให้ไปถึงยามาโกชิจนได้ ขอบคุณมาริที่นำสิบเอกยาสุดะไปยังบ้านอิชิคาวะ อายะกับยูโซจึงได้รับความช่วยเหลือจนปลอดภัยในที่สุด ทั้งสองรอดชีวิต ได้กำลังใจจากมาริ อายะอ้อนวอนว่า "มาริกับลูกๆ ของมันจะได้ไปด้วยกันใช่ไหมคะ?" แต่ความปรารถนาของเธอไม่เป็นจริง ภารกิจที่ต้องมาก่อนคือการช่วยชีวิตมนุษย์ ฉะนั้นจึงไม่สามารถพามาริกับลูกๆ ไปกับเฮลิคอปเตอร์ด้วยได้ เสียงร่ำไห้ของอายะ "มาริ!" กรีดร้องอย่างต่อเนื่องเมื่อเฮลิคอปเตอร์ทิ้งหมู่บ้านไว้เบื้องหลัง มาริตามเฮลิคอปเตอร์ที่มีอายะกับยูโซอยู่ในนั้นไปไกลตราบเท่าที่มันไปไหว
มาริและลูกทั้งสามตัวถูกทิ้งไว้ที่ยามาโกชิ มีชีวิตอยู่โดยไร้อาหาร มาริได้ใช้สัญชาตญาณความเป็นแม่ปกป้องลูกน้อยจากภยันตรายอย่างสุดความสามารถ ในขณะเดียวกัน ที่ศูนย์ผู้อพยพนากาโอกะ เรียวตะกับอายะรู้สึกหมดหวังที่พวกแกไม่สามารถช่วยชีวิตมาริ จึงได้แต่หวังว่ามันจะปลอดภัย เมื่อได้ยินเรื่องสภาวะอากาศแปรปรวนในยามาโกชิจะดำเนินต่อไปซึ่งทำให้มาริกับลูกๆ ตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เรียวตะกับอายะจึงตัดสินใจที่จะไปช่วยพวกมันด้วยตัวเอง
ในตอนจบ แม่มาริจะรักษาชีวิตลูกๆ ไว้ได้ไหมหลังจากถูกทอดทิ้งไว้ในยามาโกชิ? และครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งหรือไม่? เพื่อปกป้องสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดที่ไม่สามารถแทนที่ได้ ต้องรวบรวมความกล้าหาญอย่างมหาศาล...
ข้อมูลและภาพประกอบจาก