นาคเล่นน้ำ บ่งชี้ความแปรปรวน อาจเห็นหิมะตก

พายุงวงช้าง


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจากมติชนออนไลน์ 

          จากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติพายุหมุน หรือที่เรียกว่า "พญานาคเล่นน้ำ" ที่เกิดที่อ่าวพัทยา ห่างจากชายฝั่ง 2 กิโลเมตร ซึ่งพายุหมุนวัดระดับความสูงจากพื้นน้ำทะเลถึงท้องฟ้าเท่ากับตึก 30 ชั้น และกินเวลานานกว่า 30 นาที เมื่อเย็นวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมานั้น 

          รศ.ดร.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาภัยพิบัติและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปรากฏการณ์ลักษณะดังกล่าวหากเกิดบนบกเรียก "พายุงวงช้าง" แต่ถ้าเกิดในน้ำเรียก "พญานาคเล่นน้ำ" ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นบ่อยในช่วงนี้ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่ามีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น แต่มีข้อบ่งชี้ว่าเกิดจากความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศที่ต้องการปรับสมดุล เช่นเดียวกับกรณีการเกิดลูกเห็บตกที่ทำเนียบปกติลูกเห็บจะตกในช่วงพายุฤดูร้อนซึ่งมีอุณหภูมิแตกต่างกันมากๆ ในเดือนเมษายน-พฤษภาคม คงคล้ายๆ การเกิดปรากฏการณ์พญานาคเล่นน้ำ ที่ไม่น่าจะเกิดในช่วงเวลานี้ 

          "ผมเคยบอกไว้แล้วว่า ต่อจากนี้ไปเราจะเห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติแปลกๆ บ่อยขึ้น และปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นก็อาจมีโอกาสได้เห็น ต่อจากนี้ไปเมืองไทยอาจมีหิมะตกอย่างที่เวียดนาม ซึ่งมีละติจูดคล้ายๆ กับเมืองไทย ยังเกิดหิมะตกมาแล้ว ขณะเดียวกันใน จ.เชียงรายก็เคยมีหิมะตกแต่ไม่เป็นข่าว ซึ่งเป็นผลพวงจากความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศจากสภาวะโลกร้อน" รศ.ดร.ธนวัฒน์ก ล่าว

          ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ ที่ปรึกษาด้านวิชาการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โพสต์ข้อมูลการเกิดพายุงวงช้างและพญานาคเล่นน้ำในระบุว่า การเกิดพายุลักษณะนี้มีอยู่ 2 แบบ คือ พายุทอร์นาโดที่เกิดขึ้นเหนือผืนน้ำ ซึ่งจะเกิดขึ้นระหว่างที่ฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก เรียกว่า พายุฝนฟ้าคะนองแบบซูเปอร์เซลล์ (supercell thunderstorm) และมีระบบอากาศหมุนวนที่เรียกว่า เมโซไซโคลน (mesocyclone) พายุนาคเล่นน้ำแบบนี้จึงเรียกว่า นาคเล่นน้ำที่เกิดจากทอร์นาโด (tornadic waterspout) 

          และพายุที่เกิดจากการที่มวลอากาศเย็นเคลื่อนผ่านเหนือผิวน้ำที่อุ่นกว่าโดยไม่มีฝนฟ้าคะนอง ทำให้อากาศที่อยู่ติดกับผืนน้ำซึ่งอุ่นในบางบริเวณจะยกตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้อากาศโดยรอบไหลเข้ามาแทนที่ จากนั้นจึงพุ่งเป็นเกลียวขึ้นไปเรียกว่า นาคเล่นน้ำของแท้ (true waterspout) หรือนาคเล่นน้ำที่เกิดในช่วงอากาศดีพอสมควร (fair-weather waterspout) 

          ดร.บัญชาตั้งข้อสังเกตว่า หากพายุนี้เกิดขึ้นพร้อมกับพายุฤดูร้อน พายุนี้ควรเรียกว่า "พายุทอร์นาโด" เพราะเมฆที่ให้กำเนิดพายุจะต้องเป็นเมฆคิวมูโลนิมบัส (cumulonimbus) หรือเมฆฝนฟ้าคะนอง แต่จะต้องเป็นฝนฟ้าคะนองอย่างหนัก และเกิดเมโซไซโคลน แต่หากไม่ใช่พายุทอร์นาโดก็ต้องดูพื้นผิวของบริเวณที่เกิดงวงช้าง ถ้าเป็นที่ผืนน้ำ พายุนี้ก็คือพายุนาคเล่นน้ำของแท้นั่นเอง

          ด้าน ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมเสวนา "แผนรับมือวิบัติภัยน้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น" หรือ "สตอร์ม เซิร์จ" ว่า จากการประเมินพื้นที่กรุงเทพฯ มีโอกาสที่จะเกิดภัยพิบัติดังกล่าวในช่วงเดือน กันยายน - ตุลาคมนี้ และถือเป็นช่วงอันตรายอย่างยิ่ง จากความเร็วของแรงลมที่ 118 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะส่งผลให้คลื่นสูงเฉลี่ย 2.2-4.5 เมตร โดยมีจุดเสี่ยงอยู่ 7 เขต ได้แก่ เขตบางขุนเทียน ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ บางบอน จอมทอง บางแค และหนองแขม ภัยธรรมชาติครั้งนี้ประชาชนไม่สามารถละเลยได้ โดยรัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญเกี่ยวกับระบบการเตือนภัย ระบบการป้องกัน มิให้น้ำเข้ามาในพื้นที่หลายๆ จังหวัด เพราะหากดำเนินการช้าจะมีผลกระทบต่อประชาชน และเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างมากมาย ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงความรุนแรงอาจจะเท่าพายุ "นาร์กีส" ก็เป็นได้

          อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางกรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมมาตรการเพื่อรับมือกับ คลื่นพายุซัดฝั่งไว้พร้อมแล้ว โดยได้จัดเตรียมแผนปฏิบัติการ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเกิดภัยพิบัติ แผนเตือนภัยและแผนการอพยพประชาชน รวมทั้งจัดให้มีการซักซ้อมแผนเตือนภัยและแผนอพยพอีกด้วย ซึ่งหากเกิดคลื่นพายุซัดฝั่ง สามารถแจ้งเตือนประชาชนได้ล่วงหน้า 4-6 วัน ทั้งนี้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ คลื่นพายุซัดฝั่งได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ www.bangkok.go.th


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
  

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นาคเล่นน้ำ บ่งชี้ความแปรปรวน อาจเห็นหิมะตก อัปเดตล่าสุด 15 กันยายน 2551 เวลา 10:44:38 68,389 อ่าน
TOP
x close